วิกฤตสมองไหลไม่หยุด จุดที่หมอต้อง “ลาออก” เพราะระบบข้าราชการ : Matichon TV

#matichontv #ข่าวการเมืองมติชน #สาธารณสุข
เกิดเป็นประเด็นอีกครั้งหลังมีตัวเลขที่น่าตกใจว่าบุคคลากรทางการแพทย์ของประเทศไทย ลาออกมากที่สุดในปีงบประมาณ 2566 เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่ทำไมวิกฤตสมองไหลนับวันยิ่งดูเหมือนไร้ทางแก้ ต้นตอของปัญหาแท้จริงแล้วอยู่ที่ไหน หาคำตอบไปด้วยกันได้ในคลิปนี้

#matichontv #ข่าวการเมืองมติชน #สาธารณสุข

สมัครเป็นสมาชิกของช่องนี้เพื่อเข้าถึงสิทธิพิเศษต่างๆ
/ @matichontv

Official Matichon TV

ความคาดหวังสูง เรียนเก่งต้องรวย ผิดตั้งแต่เลือกเรียนหมอแล้ว

แล้วเรียนเก่งทำไมต้องจนด้วย ?? งง

ผมว่าอาชีพหมอนี่ถามว่ารายได้ดีมั้ยดีนะ แต่ห่างไกลคำว่ารวยอะ แถมงานโคตรหนัก
ถ้าเทียบกับอาชีพสาย IT วิดวะ เทค สายธุรกิจ การเงิน คนเก่งๆเอาไปต่อยอดได้เยอะมาก
แถมหางานต่างประเทศได้ง่ายด้วยถ้าเก่งจริง หมอนี่คือไม่ทำในระบบราชการก็ต้องไปเอกชน
หรือเปิดคลีนิกเองซึ่งมันก็ส่วนน้อย ส่วนเอกชนจะรองรับได้แค่ไหนเชียวสุดท้ายมีแต่คนที่เก่งจริงถึงจะแย่งตัวกัน
ส่วนไปต่างประเทศนี่แทบจะเหมือนนับ 1 ใหม่ สุดท้ายสมองมันจะไหลไปไหนได้ไกลเชียว
เสียดายที่คนไทยเก่งๆมีค่านิยมต้องเป็นหมอกันหมด ทำให้สายเทคเราสู้ชาวบ้านไม่ได้กลายเป็นตกรถ
ถ้าเทียบกับเวียดนาม จีน ที่เน้นพัฒนาสายเทคเต็มตัว หรืออย่างสิงคโปรที่เน้นธุรกิจการเงิน

ไม่แค่หมอหรอกฝั่งสาธารณะสุขนี่ไหลหมดเลยมั้ง
พยาบาลนี่ก็ไหล เงินรอนาน ทำงานหนักออกกันเยอะไปทำอย่างอื่นดีกว่าชีวิตมีสุขกว่าเยอะ

เค้าน่าจะหมายถึงคนเรียนเก่งต้องรวย ฐานะพร้อม เรียนพิเศษเยอะ

ตอนนี้ผมว่าที่วิกฤตจริงๆ คือ พยาบาล งานหนัก ผลตอบแทนไม่โอเค

เป็นพยาบาลโรงพยาบาลเอกชน รายได้ดี เผชิญหน้ากับญาติคนไข้ที่ดีในระดับนึง (ยังมีเหตุมีผลกว่า) สุขภาพจิตก็ดีกว่าโรงพยาบาลรัฐ

อีกประเด็นที่ผมฟังเขามา คือ พยาบาลที่เป็นข้าราชการ เงินเดือนช่วงแรกขึ้นเร็วมาก ไล่พวกรุ่นพี่ๆเกือบทัน แต่พออายุสัก 40 กว่าๆ (ซึ่งเป็นช่วงที่ฝีมือ ประสบการณ์ พละกำลัง พีคที่สุด) กระบอกเงินเดือนตัน (เพราะช่วงแรกๆขึ้นเร็ว) ก็จะหมดไฟในการทำงาน ย้ายไปเอกชนกันเยอะ โรงพยาบาลรัฐจึงสูญเสียบุคลากรที่อยู่ในช่วงพีคที่สุดไปนั่นเอง

ก็ธงคุณหมอทั้งหลาย เข้ามาเอาทุนเรียนต่อเฉพาะทาง พอจบก็ไปทำเอกชน แต่ก็น่าเห็นใจช่วงใช้ทุน 3 ปี
ที่รพช.ที่มันไกลๆ บางที่หมอ 2 คน ก็คือไปไหนไม่ได้เลย
ปล.ถ้าเป็นผม ผมจบเฉพาะทางใช้ทุนเสร็จก็ไปเอกชนครับ

อันนี้ผมขอเถียงเลยนะ หมอ นี่ขาด แทบจะทุกโรงพยาบาล ขนาดหมอที่คิดว่า ไม่ค่อยดี รักษาโดนคนไข้ด่า ยังมีคนแย่ง

ส่วนคำว่า รวย อยู่หมอ คนนั้น อยากจะทำมั๊ย

เงินเดือนเอาไว้เก็บ รายได้เสริมเอาไวใช้ หมอ เดี๋ยวนี้ อายุ ไม่ถึง 30 ถอยเบ๊นซ์ กันเป็นว่าเล่น

ถ้าหมอ อยากจะรวย งานมีให้ทำเพียบ แต่ต้องยอม เรียนต่อเฉพาะทางนะ

ญาติผม เป็นหมอผ่าตัดทางเดินอาหารและลำไส้ ผ่าอย่างต่ำ สัปดาห์ละ 4 เคส เคสนึงได้ 7หมื่นอัพอยู่ที่ โรงพยาบาล ว่าพรีเมียมแค่ไหน บางเคสได้เป็นแสน

รายได้ขั้นต่ำ เดือนนึงก็ไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้าน อายุ 35 เอง

ส่วนอีกคนสายชิลล์ เป็นหมอต่างจังหวัด เดี๋ยวนี้มีนอกเวลา เดือนนึงได้ ค่าเบิกนอกเวลาเพิ่มเดือนละ 7-8 หมื่น แล้วเปิดคลีนิค เสาร์อาทิตย์ อีก เดือนนึงก็ได้ ไม่ต่ำกว่า 2 แสน อายุแค่ 29

ที่เห็นว่าหมอเหมือนจะธรรมดา ไม่ค่อยรวย เพราะ ไม่เขาอยากรวยเองมากกว่า เขาพอใจ ที่ได้ช่วยเหลือคน ทำแค่นี้ พอกินพอใช้ ไม่ได้ลำบากมาก พอใจเขาแล้ว

ไอ้ที่รวยๆ อยากรวย แล้วลุยทำจริงจัง มีเยอะแยะ

หมอส่วนใหญ่ 70-80% เขาพอใจในสิ่งที่ทำแบบไม่ได้คิดจะรวยอะไรมากมายมากกว่า

ถึงได้ออกมาบ่น เพราะเขาอยากช่วยเหลือคน มากกว่าไปคิดจะรวยแบบรวยมากๆ เอาแค่พอมีกินมีใช้ ระดับ หมอ ทั่วไป เขาก็รับได้แล้ว

ไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากิน กับ ความทุกข์ ของคน

เขาถึงอยากให้ รํฐบาลแก้ไข ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข หมอ ก็ไม่ลำบากมาก

ไปเจอหมอแบบต่างประเทศแล้วจะหนาว อะไรก็เงิน ของไทยยังถือว่ารายได้หมอกลางๆไปทางล่างๆด้วยซ้ำ

หมอนี่ไม่วิกฤตเท่าพยาบาลนะ หนทางรวยเค้าเยอะ แต่พยาบาลค่าตอบแทนต่ำมากถ้าเทียบกับภาระงาน

พูเรื่องเดิมๆมาเป็น10+ปีแล้ว
ไม่คิดจะแก้ มันก็แก้ไม่ได้หรอก

ชอบใช้คำว่า เสียสละ มากดดัน

เด็กสมัยนี้มันจะอยู่หรอ ขนาดสมัยผมจะออกกันเป็นระยะๆเลย

เรื่องหมองานหนักนี้ ลองมาคิดดู ถ้าประกันสังคมสามารถเบิกยา พวกเจ็บป่วยทั่วไปได้ตามคลีนิค แบบ 30 บาทได้นะ ผมว่าลดภาระหมอไปได้ 30-50% เลยนะครับ

สมัยก่อน คนเก่งที่มาจากครอบครัวปานกลาง และยากจนเป็นส่วนใหญ่
หมอได้เงินดีแต่ไม่มีเวลาใช้เงิน

ไม่ใช้คนรวยไม่เก่ง แต่เค้าไปสายงานอื่น ...inter ต่อนอกMBA+ธุรกิจ

สมัยนี้ค่านิยมเปลี่ยน เด็กบ้านฐานะดี(รวย)เป็นหมอมากขึ้น พอเจอระบบไทย
ก็ออกไม่เดือดร้อนตนเอง
รู้จักหลายคน เป็นหมอใช้ทุนรัฐบาล2ปีเกียรตินิยม ต่อสายออโธ(กระดูก) และความงาม
ตอนนี้ออกจากระบบเรียบร้อย
แต่เพื่อนหลายคนที่ใจรัก ก็ขึ้นเป็นอาจารย์หมอกันหมดละ
**
เพิ่มเติม
หมอรัฐต้องขึ้นดูเคสคนไข้ใน 7-8 โมง สรุปเขียนรายงานส่งคนไข้ให้มอเด็ก ภายใน10โมง
หลัง10โมงถึงเย็น5โมงลงตรวจคนไข้นอก+นัด
ที่ผู้ป่วยไปรอโรงบาลแล้วหมอลง10โมง คนส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าหมอทำงานอยู่บนวอร์ด
พอหมอลงมา คนไข้มองแรงเชี่ยว 555

ส่วนเพื่อนผมอยู่ ER ตี2 ตี 3 มาห้องทั้งชุดนอนก็มี ลงมาดูสังหมดเวร/พยาบาลแล้วกลับไปเปลี่ยนชุด

ผมบอกตั้งแต่แรกแล้วนะครับว่าหมอเนี่ยรายได้ดี รายได้ที่ท่านว่ามาเนี่ยผมไม่มีข้อมูลมาตอบท่านนะ
แต่ผมคิดว่าคงมีหมอไม่มากหรอกที่รายได้ขนาดนั้น ที่สำคัญมันแทบจะไม่มีโอกาสมากไปกว่านี้แล้วในสายงาน
กลับกันถ้าเป็นสายเทคเอาแค่ระดับผู้บริหารบริษัทในไทยง่อยๆนะไม่ต้องไปถึงระดับโลก
เงินเดือนบวกค่านู้นค่านี้บวกโบนัสก็หลักล้านแล้ว แล้วถ้าเก่งจริงไปอยู่บริษัทต่างประเทศ
นี่เงินเดือนที่คาดหวังถึงระดับ 50-100 ล้านบาท ต่อปี ก็สามารถทำได้เช่นกัน
อย่างพนักงานทั่วไปของ Alphabet ได้รับค่าตอบแทนเฉลี่ย เกือบ 10 ล้านต่อปีแล้วครับ
ัยังไม่พูดถึงการต่อยอดสร้างธุรกิจนะ หรือระดับ CEO บริษัทระดับโลกที่รับเป็น 1000+++ ล้านบาทต่อปี
ซึ่งจะเห็นว่าการต่อยอดมันคนละสเกลกันเลยครับ เพราะเป็นหมอต่อให้ท่านโคตรฟิตผ่าตัดทุกวัน
รายได้ก็ไม่น่าเกินระดับ 50 ล้านต่อปีหรอกมั้ง

น่าจะเป็นเพราะภาระงานที่ต้องเจอในแต่ละวัน

หมอและพยาบาลต้องขึ้นเวรยิ่งกว่าพี่ยาม บางคนควบ 2-3 วัน บางคน 32 ชั่วโมง แม้จะมีค่าตอบแทนสูงกว่าอาชีพทั่วไป ก็ยังไม่สามารถทดแทนในส่วนของคนที่ลาออกไปได้

เอาแค่ทำให้หมอพยาบาลไม่ต้องควบเวรได้ก่อน น่าจะพอลดปัญหานี้ลงได้บ้าง