2 ศึกดาร์บี้แห่งมาดริด ชี้ชะตาลุ้นแชมป์และลุยยุโรป

BLOG TOPIC_A

ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)

#SSxLaLiga | เรอัล มาดริด, แอตเลติโก้ มาดริด, เกตาเฟ่ และราโย บาเยกาโน่ ล้วนเป็นสโมสรที่ตั้งอยู่ในแคว้นมาดริด และทั้ง 4 ทีมนี้ จะมีโปรแกรมพบกันเอง ซึ่งอาจเป็นตัวแปรสำคัญต่อการลุ้นแชมป์ และการลุ้นตั๋วไปยุโรป

วันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคมนี้ เป็นวันที่แฟนลูกหนังลีกสเปนห้ามพลาด เพราะศึกฟุตบอลลาลีกา มีเกมดาร์บี้แมตช์แห่งมาดริด ในวันเดียวกันถึง 2 คู่ เกตาเฟ่ ปะทะ แอตเลติโก้ มาดริด ต่อด้วยเรอัล มาดริด ปะทะ ราโย บาเยกาโน่

แอตเลติโก้ มาดริด กับ เรอัล มาดริด เพิ่งดวลกันในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา และทั้งคู่จะกลับมาโฟกัสที่เกมลีก ลุ้นคว้า 3 แต้ม ก่อนที่ในช่วงกลางสัปดาห์หน้า จะมีหนึ่งเดียวเท่านั้นที่ได้ไปต่อในถ้วยบิ๊กเอียร์

อย่างไรก็ตาม เกตาเฟ่ รวมถึงราโย บาเยกาโน่ ก็ต้องการชัยชนะเช่นเดียวกัน เพราะ 2 ทีมนี้ ยังคงมีลุ้นทำอันดับเพื่อคว้าโควตาไปฟุตบอลยุโรป พร้อมกับตัดแต้ม 2 ยักษ์ใหญ่แห่งเมืองหลวงที่กำลังบี้แย่งแชมป์ไปในตัวด้วย

เกตาเฟ่ vs แอตเลติโก้ มาดริด : “เอล โชโล่” ลุ้นยืดสถิติไม่แพ้ “บอร์ดาลาส”

คู่แรก เริ่มแข่งขันเวลา 20.00 น. เกตาเฟ่ ทีมที่กำลังดิ้นรนเพื่อหนีการตกชั้น จะเปิดรังโคลิเซียม รับการมาเยือนของแอตเลติโก้ มาดริด ที่ต้องการชัยชนะเพื่อรักษาโมเมนตัมการลุ้นแชมป์ลาลีกาที่กำลังเข้มข้นสุดๆ

ครั้งล่าสุดที่เกตาเฟ่เอาชนะแอตเลติโก้ เกิดขึ้นในลาลีกา เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2011 ด้วยสกอร์ 3 - 2 แต่ 27 เกมหลังจากนั้นในทุกรายการ พวกเขาไม่เคยคว้าชัยได้เลยแม้แต่เกมเดียว เสมอ 5 เกม และแพ้ถึง 22 เกม

ทีมของโฆเซ่ บอร์ดาลาส ปราชัยในลีกมา 2 เกมติดต่อกัน ทำให้ในเวลานี้มีคะแนนมากกว่าโซนตกชั้นแค่ 6 แต้มเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หากเก็บ 3 แต้มได้ในวันอาทิตย์นี้ ก็มีสิทธิ์ไต่อันดับขึ้นไปลุ้นโควตาฟุตบอลยุโรปได้เช่นกัน

ขณะที่แอตฯ มาดริด ทีมอันดับ 2 ของตาราง มีคะแนนตามหลังบาร์เซโลน่า ทีมจ่าฝูงแค่ 1 แต้ม รวมถึงยังมีลุ้นเข้าชิงชนะเลิศโกปา เดล เรย์ และมีโอกาสแก้ตัวในแชมเปี้ยนส์ ลีก หลังแพ้มาก่อนในรอบ 16 ทีมสุดท้าย เลกแรก

ในเวลานี้ ทัพ “ตราหมี” ยังคงเป็นคู่แข่งสำคัญในการลุ้นแชมป์ลาลีกา หลังเก็บ 6 แต้มเต็ม จากชัยชนะใน 2 เกมหลังสุดกับบาเลนเซีย และแอธเลติก บิลเบา ทำให้ทีมของดิเอโก้ ซิเมโอเน่ แพ้เพียง 1 จาก 15 เกมหลังสุดในลีก

สถิติเฮด-ทู-เฮด ระหว่าง 2 ผู้จัดการทีม ปรากฏว่า ซิเมโอเน่ไม่เคยคุมทีมแพ้บอร์ดาลาสเลยแม้แต่เกมเดียว จาก 14 เกมในทุกรายการ (ชนะ 11 เสมอ 3) อีกทั้งยิงประตูได้ถึง 29 ประตู และเสียแค่ 8 ประตูเท่านั้น

เรอัล มาดริด vs ราโย บาเยกาโน่ : “ราชันชุดขาว” เผชิญหน้ากับ “โบกี้ทีม”

ตามมาติดๆ อีกคู่ ในเวลา 22.15 น. เรอัล มาดริด แชมป์เก่าเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เปิดสนามซานติอาโก้ เบอร์นาเบว ต้อนรับราโย บาเยกาโน่ ที่กำลังทำอันดับเพื่อคว้าโควตาฟุตบอลยุโรปที่ห่างหายไปนานกว่า 20 ปี

เรอัล มาดริด มักจะเจองานที่ไม่ง่าย เมื่อเผชิญหน้ากับบาเยกาโน่ในช่วงไม่กี่นัดที่ผ่านมา เพราะทำได้แค่เสมอกับคู่ปรับจากบาเยกาสมา 3 เกมติดต่อกันแล้ว และชนะได้เพียงเกมเดียว จาก 5 เกมหลังสุดที่พบกัน

นอกจากนี้ ผลงาน 5 เกมหลังสุดในลาลีกา เรอัล มาดริด คว้าชัยแค่ 1 เสมอ 2 และ แพ้ 2 คาร์โล อันเชล็อตติ และลูกทีมราชันชุดขาว จะต้องแก้ไขฟอร์มการเล่นโดยเร็ว มิฉะนั้นอาจทำให้การลุ้นแชมป์ยากลำบากมากขึ้น

ด้านบาเยกาโน่ เคยบุกไปเอาชนะที่เบอร์นาเบวได้แค่หนเดียว เมื่อเดือนมกราคม 1996 ด้วยสกอร์ 2 - 1 อย่างไรก็ตาม ทีมของอินญิโก้ เปเรซ อยู่ในช่วงเวลาที่กำลังมั่นใจ เพราะปราชัยแค่ 2 จาก 12 เกมหลังสุดในลีก

เมื่อเดือนที่แล้ว บาเยกาโน่ มีโปรแกรมลงสนามพบกับ 2 ทีมหัวตาราง โชว์ฟอร์มได้ดีเลยทีเดียว คือเกมที่บุกไปแพ้บาร์เซโลน่า 0 - 1 หรือเกมที่เปิดบ้านแพ้บียาร์เรอัล 0 - 1 ทั้งที่เหลือผู้เล่น 10 คน ตั้งแต่ช่วงท้ายครึ่งแรก

ประเด็นที่น่าจับตามองสำหรับคู่นี้ อยู่ที่การดวลกันโดยตรงระหว่างวินิซิอุส จูเนียร์ ปีกชาวบราซิล วัย 24 ปี ทำเกมรุกฝั่งซ้าย กับอันเดร ราติอู ฟูลแบ็กชาวโรมาเนีย วัย 26 ปี ที่จะเตรียมรับมือวินิซิอุสอย่างสุดความสามารถ

หากบาร์เซโลน่า เก็บชัยชนะไปได้ก่อนในวันเสาร์ จะเป็นการโยนความกดดันไปให้แอตเลติโก้ มาดริด และเรอัล มาดริด ที่ต่างฝ่ายต่างทำศึกดาร์บี้แมตช์ในวันรุ่งขึ้น ต้องคว้า 3 คะแนนให้ได้ เพื่อไล่จี้จ่าฝูงต่อไป

หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

โหวตเป็นกระทู้แนะนำ