ทำมากได้มาก
ทำน้อยได้น้อย

อาจจะเพราะถ้า Work Life Balance ตั้งแต่แรก ยากที่จะทำให้มีอิสรภาพทางการเงิน

คนเหล่านั้นสร้างฐานะจนรวยแล้วค่อยมาปรับตัว Work Life Balance

ยังไงอะ คือถ้ารวยมีตังจะทำงานหนักๆหรือจะทำๆหยุดๆมันก้ได้หมดละ
แต่ถ้าบ้านไม่รวย ต้องส่งเสียที่บ้านดูแลพ่อแม่ละจะมา ทำชิวๆหยุดๆ มันก้แล้วแต่คนละ

ผมก้ไม่อยากเหนื่อยทำงานหนัก แต่ผมไม่อยากจนมากกว่า
ละตอนนี้ที่ยังมีแรงก็คือช่วงอายุไม่เกิน40 มันก้ทำได้เต็มที่ หลังจากนั้นสุขภาพแย่ลง อาจจะทำเยอะๆไม่ไหวต้องถอยต้องลดงาน มันก้ยังมีต้นทุนกับเงินที่เราสะสมมาตอนอายุน้อยๆ
ที่ผมเห็นคือคนรอบตัว ใช้เดือนชนเดือน ต้องได้เที่ยวตปท ต้องใช้ไอโฟน ต้องกินบุฟเดือนละกี่ครั้งๆ ต้องมีเวลาออกกำลังกายใช้ของแพงๆ ตีแบตต้องไม้ละหลายๆพัน แต่ถามว่า ได้ไปลงเรียนคอร์สอะไรหรือลงทุนอะไรในอนาคตไหม ก้คือไม่มี
ถ้าเราจะชิลแต่แรก เกิดตอนหลังเกิดล้มไม่มีตังขึ้นมา ก้อย่าบ่นมากแล้วกัน

ในมุมมองผู้บริหาร(บางคน ส่วนใหญ่ ส่วนน้อยไม่รู้)

ถ้าลูกน้องมี work life balance ที่ดี เค้าอาจมองว่าไม่ทุ่มเทให้กับบริษัทมากพอ ทำให้รายได้ไม่เข้าเป้า ผู้บริหารอดได้โบนัส

ถ้าลูกจ้าง work life balance เจ้าของกิจการ ผู้บริหาร ก็แย่สิครับ 55+

ก็เขาจ้างมาทำงาน ถ้าสอนให้สมดุลก็เปลืองตังดิ

ผู้บริหารบางคนแม่มยังบอกมาหน้าตาเฉยๆ ว่าแอบเล่นเกม
ให้ดูเหมือนยุ่ง อฉห

Fact จากรู้จักกับ ผู้บริหาร ที่เคนสัมภาษณ์ work life balance ไม่ดี

เค้าบอกว่า เค้าก็แค่ โกหก

ถ้าบอกให้คน Work Life Balance ดีที่สุด คนจะทำงานหนักให้เราไหม ?

พนักงานก็จะมองว่า Balance งานหนัก กับ เงินเดือน ให้เท่ากัน

จะให้ทำงานโหด จ่ายถูก ก็หายากแล้ว

ดังนั้นเวลาเจอใครจะไม่บอก Work Life Balance หรอก

ให้ Work Hard ดีกว่า

ผมว่าหลายๆคนเข้าใจผิดเรื่อง Work Life Balance นะ โดยเฉพาะกลุ่มที่เพิ่งเริ่มทำงานได้ไม่นาน รายได้ยังไม่มากนัก เพราะต้นทุน Work กับ Life มันไม่เท่ากัน
สมมุติคุณเงินเดือน 3 หมื่น ทำงานวันละ 8 ช.ม. รายได้เฉลี่ยวันละพัน เลิกงานไปนั่งดริ๊ง ไปช้อปปิ้ง 1-2 ช.ม.ก็หมดแล้ว นี่ยังไม่ได้หักค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในแต่ละวันนะครับ เช่น ค่าเดินทาง ค่าข้าว

หลายคนบอกต้อง Work Life Balance เงินเดือนไม่เยอะ แต่เที่ยว+ช้อปแหลก คือมันก็ไม่บาลานซ์นะครับ

คหสต ผมมองว่ารอสักอายุ 50 ก่อนแล้วค่อยมาคิดเรื่องนี้ดีกว่า

ผมก้ไม่เคยเห็นใคร ที่ตั้งต้นด้วยตัวเอง จะมี work life balance สบายๆแบบที่เราสร้างภาพกันในยุคนี้เลยครับ

ธุรกิจ มันก้ต้องช่วงชิงจังหวะ รีบลงทุน รีบสร้าง เร่งทำคุณภาพ ให้เหนือคู่แข่งตลอดเวลาน่ะแหละ ไม่งั้นจะชนะได้ไง

รุ่นผม อายุประมาณ 30 เอาคนที่สร้างธุรกิจใหม่ด้วยตัวเอง ไม่ได้รับมรดกมา

ทำจนมีกำไร ร้านค้า/บริษัทอยู่รอดได้ ไม่มีใครมี WLB ตลอดเวลาซักคนครับ

อย่างน้อยๆช่วงตั้งไข่ ต้อง work hard หนักมาก กว่าธุรกิจจะอยู่ตัว

กว่าจะเจาะตลาด มีลูกค้าประจำ มีลูกค้าขาจรบ่อยๆ ตื่นเช้ากว่าใคร นอนดึกกว่าใคร

กันแบบ 100% พอธุรกิจอยู่ตัวซักพัก พอได้พักผ่อนใช้เงินบ้าง

ก็จะมีคู่แข่งพร้อมสู้อยู่ตลอดเวลา ก็ต้องมา work hard สู้ในเกมธุรกิจต่อเป็นระยะ

บางทีพอธุรกิจเริ่มคงที่ ลูกน้องที่เป็นงานก็อยากลาออกหรือไปทำงานอื่น

ก็ต้องมาทุ่มเทเวลา train ลูกน้องใหม่อีกเหมือนกัน

WLB แบบนอนกระดิกเท้ารอรับเงินล้านเข้าบัญชี ไม่มีทางเป็นไปได้เลย

มัน balance กับ life ไม่ใช่กับ work ถ้าเป็นคนไทยอะ

ถ้าอยากกรวยไม่น่าจะได้

นายจ้าง ก็อยากให้คุ้มค่าจ้าง