ดาวเตะลา ลีกา
Status:

: 0 ใบ

: 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 4478
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Mar 03, 2025 22:09
+++ ยังไงซิ!! ปุ้ย L.ก.ฮ. เปิดใจขอโอกาสในการปรับตัว ซึ่งน้องลำไยก็ไม่ติดอะไร++
ปุ้ย L.ก.ฮ. เปิดใจปมเลิก ลำไย ไหทองคำ ชี้ปัญหาหลักเข้าสังคมไม่เก่ง ขอโอกาสอีกครั้ง
จากกรณี ลำไย ไหทองคำ นักร้องลูกทุ่งชื่อดังคิวแน่น ได้ออกมาเผยสถานะว่าตอนนี้ “โสด” แล้ว หลังเลิกรากับแฟนหนุ่ม ปุ้ย L.ก.ฮ. ที่คบหากันานานกว่า 9 ปี ทำเอาแฟนๆ ใจหายไปตามๆ กัน โดยทั้งคู่ไม่ได้บอกสาเหตุที่เลิกรากันอย่างชัดเจน แต่ระบุว่าไม่เกี่ยวข้องกับมือที่สาม และจบกันด้วยดี
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 3 มีนาคม นายศรีสกล สมทรง หรือ ปุ้ย L.ก.ฮ.ได้ออกมาไลฟ์ชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าว โดยระบุว่า “น้องลำไยเขาก็ไม่ได้ปิดโอกาส หรือคิดที่จะเลิก เป็นผมเองที่ทำเท่ให้น้องไยง้อ”
ทั้งนี้ ปุ้ย กล่าวตอนหนึ่งว่า “ปัญหาของผมกับน้องลำไย หลักๆ ก็มาจากผม คือเราอยู่กันมานานหลายปี แต่เวลาน้องลำไยจัดกิจกรรมวันเกิด ปีใหม่ หรือกิจกรรมสังสรรค์เล็กๆ กับเพื่อนๆ หรือบริษัท น้องก็จะถามผมว่าพี่ไปด้วยนะ หนูเตรียมอาหารและของที่พี่ชอบไว้ให้ พี่ไปด้วยนะ แต่พอถึงเวลาปุ๊บ ผมก็ไม่ไป ทุกครั้งที่ผมเลี่ยงได้ผมก็จะเลี่ยง แล้วน้องลำไยเขาก็ไม่ค่อยมีวันหยุด เพราะเขาทำงานหนัก ถึงบ้านตี 4 พอ 6 โมงเช้าเขาก็ไปงานต่อแล้ว บางทีถึง 7 โมงเช้า 9 โมงก็ไปงานต่อ
นานๆ ทีเขาถึงจะมีวันหยุด ก็ชวนไปหาไรกินไปเที่ยว หรือถามว่าอีก 4-5 เดือนข้างหน้าจะล็อกวันไว้ ไว้เราไปเที่ยวกับเพื่อนๆ กันไหม ผมก็บอกว่า “ปุ้ยไม่ไป ปุ้ยไม่ไปที่นี่ ไม่ชอบกินอันนี้” เพราะผมเป็นคนเลือกกิน อะไรที่ผมไม่กินหรือกินไม่ได้ ผมก็ไม่ไปเลย ตอนนั้นเรามองไม่เห็น ก็ปฏิเสธแบบนี้มาตลอด
จนเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา มีงานเลี้ยงปีใหม่ ผมก็หนีไปห้องอัดบ้าง แต่งเพลงบ้าง คือไม่ได้อยากอยู่สังสรรค์ เพราะผมรู้สึกว่าผมเข้าสังคมยาก ผมพูดกับคนแปลกหน้า หรือพูดกับสังคมกว้างๆ ผมพูดไม่เป็น ผมเป็นคนที่ประดิษฐ์คำพูดอะไรไม่ค่อยเก่ง ภาษากลางผมพูดไม่ค่อยเก่ง
ทีนี้น้องลำไยเขาก็อึดอัด เราเคยคุยกันมาตลอดเรื่องการใช้ชีวิตของผมนี่แหละ ว่า “ทำไมพี่ไม่ลองปรับตัว แล้วพี่อยากให้หนูปรับตรงไหนพี่ก็บอกหนู พี่ลองเข้าสังคมดูไหม ไม่จำเป็นต้องเข้าสังคมกับเพื่อนหนูหรือกับหนูก็ได้ ไปเข้าสังคมกับเพื่อนๆ พี่ก่อน ลองดูก่อนก็ได้ เราจะได้ใช้ชีวิตกันง่ายขึ้น พี่ลองไปถามเพื่อนพี่ดีไหมว่าเขาอยู่กับเพื่อนกับแฟนเขา เขาทำตัวยังไง เขามีความสุขยิ้มแย้มแจ่มใส เผื่อพี่จะมาปรับใช้กับหนู แล้วอยากให้หนูปรับตรงไหน หนูปรับให้
“ทำไมกับเพื่อนๆ พี่ หนูเข้าได้หมดเลย แต่ทำไมกับเพื่อนๆ หนูพี่เลือกที่จะหันหลังให้” ซึ่งผมก็คิดว่าผมทำถูก ผมบอกว่า ปุ้ยอยู่บ้านก็มีห้องอัดนะ ทำเพลงทำอะไร ไม่จำเป็นต้องเข้าสังคมอะไรกับใคร ปุ้ยคิดว่าไม่จำเป็นต้องปรับอะไร ส่วนน้องลำไยก็ไม่ต้องปรับอะไร แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ ลองแยกกันอยู่ไหม
ผมก็เลยไปอยู่ใต้ เมื่อ 2 ปีก่อน ไปอยู่ได้สัก 5-6 เดือน แต่ก็ยังทักคุยกันอยู่ แต่ผมตั้งธงไว้แล้วว่า บอกเขาว่า “ถ้าลำไยไม่มีปุ้ย ลำไยจะใช้ชีวิตยังไง ปุ้ยจัดการชีวิตของปุ้ยไว้แล้ว” ผมพูดกับเขาแบบนี้ ซึ่งพอห่างกันได้ 5-6 เดือน เราทั้ง 2 คนรู้สึกชีวิตที่ไม่มีกันและกัน มันไม่ค่อยสมบูรณ์ ผมเลยกลับมาอยู่บ้านน้องลำไยอีกรอบหนึ่ง ผมก็พยายามปรับเล็กๆ น้อยๆ มาตลอด แต่ด้วยความที่ผมเป็นแบบนี้มานาน
วันเกิดน้องลำไยปีที่ผ่านมา น้องลำไยก็เตรียมสถานที่บอกว่า หนูเตรียมนักร้องที่พี่ชอบมา เตรียมเสื้อไว้ให้ด้วย แล้วก็เชิญคนที่พี่รู้จักมาด้วย พอถึงเวลาปั๊บผมก็ไม่ไปอีก พอผมไม่ไปปุ๊บก็เงียบกันไปหลายวัน ทีนี้น้องลำไยก็มาพูดว่า “แล้วเมื่อไหร่พี่จะปรับตัวจริงๆ สักทีหนึ่ง หนูคิดว่าเรา 2 คนดีทุกอย่างเลยนะ ทั้งหน้าที่การงาน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน หนูเหนื่อยทำงานหนัก อยากให้พี่ปรับให้หนูหน่อย
ผมก็เหมือนประชดด้วย งั้นก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องแยกกันอยู่ เพราะถ้าเราแยกกันอยู่เราอยู่ไม่ได้ เราอยู่บ้านเดียวกันนี่แหละ แล้วถ้าลำไยเข้าบ้านวันไหนปุ้ยก็จะพยายามไม่เข้า เลี่ยงๆ ผมก็ประชด แล้วลำไยก็ถามว่า “พี่พูดจริงหรือเปล่า” ผมบอกพูดจริง แล้วก็ทิ้งระยะกันมาสัพักหนึ่ง แล้วเมื่อไม่กี่วันมานี้ผมก็ถอดแหวนที่ลำไยซื้อให้ เขาก็ถามว่าแล้วแหวนไปไหน แต่ทีนี้แหวนผมถอดแล้วผมหาไม่เจอ ผมเลยบอกว่า “อ๋อ ถอดทิ้งไปแล้ว” เขาก็ถามว่า สรุปจะเอาแบบไหน
ผมก็บอกว่า ก็ถ้าจะแยกกันอยู่ไม่ได้ ก็อยู่บ้านเดียวกันนี่แหละ จะแบบไหนก็แบบนั้น ลำไยก็ถามว่า “พี่คิดดีแล้วใช่ไหม” ผมก็บอกว่า คิดดีแล้ว อันนี้คุยกันเมื่อไม่กี่วันมานี้ แล้วลำไยเป็นคนที่พูดน้อย เขาไม่ค่อยอธิบาย แล้วเขาทำงานหนักจริงๆ อาจจะไม่ได้มีเวลามาเซ้าซี้จุกจิกอะไรมากมาย
เมื่อวานเขาก็ถามผมอีกรอบว่า “พี่เป็นยังไงบ้าง แหวนอยู่ไหน” ผมก็บอกว่า “แหวนไม่มีแล้ว ทิ้งไปแล้ว ไม่ใส่แล้ว” ลำไยก็บอกว่าคิดดีแล้วใช่ไหม ผมก็ตอบแบบห้วนๆ ว่า “ดีแล้ว” แล้วลำไยก็โพสต์เลยเพราะเขาบอกว่า ไหนๆ ตัดสินใจแล้ว
แต่พอน้องลำไยโพสต์แบบนี้ทำให้ผมรู้สึกว่าผมไม่ได้ต้องการให้ความสัมพันธ์ของเรามาหยุดที่เลิกกัน แค่ผมอยากจะขอเวลาปรับอีกนิดหนึ่ง วันนี้ก็ได้คุยกับน้องลำไย ว่าขอโอกาสในการปรับตัว ซึ่งน้องลำไยก็ไม่ติดอะไรเพราะเขาก็ไม่ได้หมดรัก หรือเกลียดหรือโกรธผม น้องก็บอกว่า “ได้ ไม่มีปัญหา ส่วนพี่อยากจะให้หนูปรับอะไรก็บอกได้เลย ไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่ที่โพสต์คือ หนูถามพี่ตั้งหลายรอบแล้ว” ก็เลยทำให้เกิดเป็นผลในวันนี้
ส่วนผมต้องขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้เรา ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นในวันนี้ ทำให้ผมได้รู้ว่าผมไม่ควรเอาศักดิ์ศรี หรือการประชดประชัน ไปคุยกับคนที่เรารัก หรือครอบครัวเรา ทำให้ผมรู้จักที่จะรักให้เป็นมากขึ้น ได้โตขึ้นอีกในการดูแลครอบครัวและคนรัก” ปุ้ยกล่าว...
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ