ท่านไหนรู้เรื่องการคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในการจัดงานสัมมนา และทำกิจกรรมชดเชยคาร์บอนนิวทรัลอีเว้นท์บ้างครับ

พอดีเจ้านายให้หาต้นทุนว่าถ้าจ้างบริษัทที่รับทำด้านนี้โดยเฉพาะจะต้องมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง งบประมาณกี่บาท แต่พอลองโทรหาบริษัทที่คิดว่าโอเคก็ได้แต่บอกว่าจะติดต่อกลับ ตอนนี้มืดแปดด้านเลย ท่านไหนอยู่ในวงการนี้พอจะให้คำปรึกษาได้บ้างครับ

ถ้าแทร็คแค่นี้ แนะนำว่าไม่ต้องเสียเวลาไปจ้างหรอกครับ ทำเองก็ได้

การจัดงานสัมมนา ก็คำนวณไปเช่น

เดินทางของผู้เข้าร่วมงาน ท่านก็ต้องไปเซอร์เวย์ หรือหาค่ากลาง ยังไงก็ได้มา

รถยนต์ส่วนตัวประมาณ 0.18 - 0.25 kg CO₂e/km
รถไฟฟ้าประมาณ 0.03 - 0.08 kg CO₂e/km

ผู้ร่วมงาน 100 คน ขับรถส่วนตัว 50 กม
คาร์บอนฟุตพริ้นท์ประมาณ 100 × 50 × 0.2 = 1,000 kg CO₂e แบบนี้เป็นต้น

ไฟฟ้า เครื่องเสียง ลำโพง ไมค์ โปรเจคเตอร์ ค่าเฉลี่ย 0.5 kg CO₂e ต่อ kWh
รวมมากี่ kWh ก็คูณไป

อาหาร มันก็มีค่าเฉลี่ยเช่นเนื้อ นื้อวัวประมาณ 60 kg CO₂e/kg ก็ไล่ไป

วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ กระดาษ หมึก พลาสติก กล่องน้ำผลไม้ อาหารเหลือ บลาๆๆ
มันก็มีค่ากลางก็เอาไปคูณกับปริมาณ รวมมาเสร็จปุ้ป ก็จะได้ CO₂e ของทั้งงานมา

ถ้ารวมทั้งหมด ออกมา 2000 kg CO₂e

ต้นไม้ดูดซับ CO₂ ได้เฉลี่ย 20 kg CO₂e/ปี ก็ปลูกต้นไม้100ต้นไปก็ได้
หรือไปซื้อ Carbon Credit ก็หลักซักพันบาทแถวๆนี้แหละ

พระเจ้านี่แหละที่ผมอยากรู้
แล้วค่ากลางพวกนี้เรา google ได้เลยใช่ไหม หรือมีตารางให้เปรียบเทียบ
ขอบคุณมากครับ

การคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในการจัดงานสัมมนา (Carbon Footprint of Event) และการทำกิจกรรมชดเชยคาร์บอนเพื่อให้เป็นคาร์บอนนิวทรัล (Carbon Neutral Event) มีขั้นตอนหลักๆ ดังนี้

1. การคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของงานสัมมนา

สามารถใช้หลักการของ GHG Protocol หรือมาตรฐาน ISO 14067 โดยแยกพิจารณาตามแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจก ดังนี้

1.1 กิจกรรมที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Emission Sources)
• การเดินทางของผู้เข้าร่วมงาน (Transportation)
• คำนวณจากระยะทางและพาหนะที่ใช้ (รถยนต์, เครื่องบิน, รถไฟ ฯลฯ)
• ใช้ค่าเฉลี่ยของ CO₂ ต่อกิโลเมตรตามประเภทพาหนะ
• การใช้พลังงานในสถานที่จัดงาน (Energy Consumption)
• ไฟฟ้าที่ใช้ในสถานที่ (หน่วย kWh)
• ระบบแสงสว่าง, เครื่องปรับอากาศ, อุปกรณ์ IT ฯลฯ
• การใช้วัสดุและอุปกรณ์ (Materials & Consumables)
• เอกสาร กระดาษ โบรชัวร์ (คำนวณจากปริมาณกระดาษที่ใช้)
• อุปกรณ์ตกแต่ง ป้ายโฆษณา เวที
• อาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage)
• อาหารที่ใช้ รวมถึงการผลิตและขนส่ง
• ของเสียและการจัดการขยะ (Waste Management)
• ค่ากำจัดขยะและการรีไซเคิล

1.2 ค่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Emission Factor)

ใช้ค่าปัจจัยการปล่อย (Emission Factor) ตามฐานข้อมูล เช่น
• IPCC (Intergovernmental Panel on Climate Change)
• TGO (องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกของไทย)

ตัวอย่างการคำนวณ
หากใช้ไฟฟ้า 1,000 kWh และค่า Emission Factor ของไฟฟ้าไทย = 0.404 kgCO₂e/kWh
→ ปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากไฟฟ้า = 1,000 × 0.404 = 404 kgCO₂e

2. การทำกิจกรรมชดเชยคาร์บอน (Carbon Offset)

หลังจากคำนวณค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของงานแล้ว สามารถดำเนินการชดเชยด้วยวิธีต่อไปนี้

2.1 การลดการปล่อยคาร์บอนตั้งแต่ต้นทาง (Carbon Reduction)
• เลือกใช้พลังงานหมุนเวียน (Solar, Wind)
• จัดสัมมนาแบบออนไลน์หรือ Hybrid เพื่อลดการเดินทาง
• ลดการใช้เอกสาร เปลี่ยนเป็น Digital Document
• ใช้วัสดุรีไซเคิล และลดขยะ

2.2 การชดเชยคาร์บอน (Carbon Offset)

สามารถทำผ่านโครงการที่ได้รับการรับรอง เช่น
• T-VER (Thailand Voluntary Emission Reduction Program) โดย TGO
• โครงการปลูกป่า หรือสนับสนุนพื้นที่สีเขียว
• ซื้อคาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) จากโครงการพลังงานสะอาด

ตัวอย่างการคำนวณ
หากงานสัมมนามี Carbon Footprint รวม 10 ตัน CO₂e และเลือกปลูกต้นไม้ที่สามารถดูดซับคาร์บอนได้ต้นละ 10 กก. CO₂e ต่อปี
→ ต้องปลูกต้นไม้ 1,000 ต้น เพื่อชดเชยภายในปีนั้น

3. การรับรองและการรายงานผล
• ใช้มาตรฐาน เช่น ISO 14064-1 หรือ PAS 2060
• ขอรับรองจาก TGO หรือหน่วยงานรับรองอื่นๆ
• รายงานการดำเนินงานเพื่อโปรโมทเป็น Carbon Neutral Event

สรุป
1. คำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของงานจากการใช้พลังงาน การเดินทาง อาหาร ขยะ ฯลฯ
2. ลดการปล่อยคาร์บอนตั้งแต่ต้นทาง เช่น ใช้พลังงานสะอาด จัดสัมมนาออนไลน์
3. ชดเชยคาร์บอนผ่านโครงการปลูกป่า หรือซื้อคาร์บอนเครดิต
4. ขอการรับรองและเผยแพร่ผลการลดคาร์บอน
ที่มา ChatGPT

ค่ากลาง ถ้าเป็นผม ผมถามพวก gpt deepseek ไรงี้

ละครอสเช็คด้วย gg หา source อีกทีเอาครับ

หรือถ้าต้องซีเรียสจริงๆ ต้องไปหาตามเว็บที่เป็น official

ซึ่งเท่าที่แว๊บๆดู ถ้าต้องหา research แต่ละตัวเอามา ref

ลงรายละเอียด ทำได้ แต่จะเสียเวลาค่อนข้างเยอะครับ

และสุดท้ายค่าจะแทบไม่ต่างกัน เพราะงานสัมมนาสเกลมันเล็กครับ

คิดว่าคงจะนำข้อมูลประมาณนี้ไปใช้เป็นไอเดียก่อน ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ

พอต้องมาทำเรื่องที่ไม่มีความรู้ความเข้าใจนี่แย่เลย อาศัย google กับ chat gpt ก็ไม่แน่ใจว่าจะถูกต้องทั้งหมด กลัวปล่อยไก่ ฮ่าๆๆ

อย่าไปกลัวครับ

เรื่องนี้ค่อนข้างหา ref ที่มาจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ ค่อนข้างง่าย เค้ามีงานวิจัยรองรับแน่นๆเลย

ref พวกนั้นไป ถ้าไม่ใช่ expert ขั้นเทพ ไม่มีใครกล้าเถียงหรอกครับ

หรือต่อให้มีจริงๆ ความผิดท่านก็เบาหวิวอะ มีref มีงานวิจัยเป็นแบคอัพอยู่แล้ว

จะผิดท่านก็ไล่ให้ไปด่าไอ่พวกหน่วยงานนั้นแทนยังได้ มีทั้งระดับประเทศ ระดับโลก

บ.ผมรับทำและรับจัดอบรมสอบถามใน Page ได้ครับ

https://www.facebook.com/alsthailand