ลิเวอร์พูลเปลี่ยนแปลงอย่างไร จากยุคคลอปป์สู่อาร์เน่อ
การเปลี่ยนแปลงจากทีมคลอปป์สู่ทีมอาร์เน่อ
สกาย สปอร์ตส์ มีการอภิปรายความแตกต่างสไตล์การเล่นของลิเวอร์พูล ยุคคลอปป์และอาร์เน่อ ชล็อท
“ลิเวอร์พูลเปลี่ยนแปลงอย่างไร จากยุคคลอปป์สู่อาร์เน่อ”
คลอปป์เข้ามาสร้างอัตลักษณ์ฟุตบอลให้ลิเวอร์พูลอีกครั้ง บวกกับความสำเร็จทุกสิ่งทุกอย่าง
อาร์เน่อ ชล็อทเข้ามารับงานต่อ ด้วยทีมที่ผมเห็นว่า คุณภาพดีกว่าวันที่คลอปป์รับงานต่อจากแบรนดัน ร็อดเจอร์สมากมาย แถมทุกอย่างลงตัว ทั้งนอกและในสนาม
คลอปป์ฟุตบอล “Breathtaking” น่าตื่นตาตื่นใจ แต่มีจุดบกพร่อง อัตลักษณ์ มีตัวตนแต่ก็ยึดติด โดนรับมือได้ ไม่แปลก ทุกวิธีการเล่นมีหนทางรับมือได้ แต่ความหลากหลายของอาร์เน่อ คือการรับมือกับสไตล์ต่างๆ ไม่ใช่ให้คู่แข่งรับมือกับลิเวอร์พูล
เหมือนทำไม เอ๊ดดี้ ฮาวปรับวิธีการ จาก 4-5-1 เป็น 4-4-2 เมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้ว
แกรี่ ลินิเกอร์คุยกับอลัน เชียเรอร์ใน พอด แคสต์ The rest is football “ฮาวต้องการทดลอง หาทางรับมือกับอาร์เน่อและลิเวอร์พูล เทียบกับที่เขาเจอ นัดชิงเอฟเอ คัพ 1991 ไบรอัน คลัฟ ทดลองปรับวิธีการเล่นกับเขาโดยเฉพาะในเกมลีก ก่อนนัดชิง ใช้สตีฟ เช็ทเทิ่ลประกบเขา แทนที่จะเป็นเดส วอล์คเกอร์”
ฤดูกาลสุดท้ายของคลอปป์ 23/24 ลิเวอร์พูลครองบอลเฉลี่ย 61.3 % (38 นัด) แต่การเล่นแบบอาร์เน่อ ซึ่งพยายามเน้นความแน่นอน บิลด์ อัพ ไม่ได้โจมตีเร็วสุดแบบคลอปป์ กลับครองบอลน้อยกว่า 56.7 % มี(28 นัด) บางเกมที่อาร์เน่อสละการครองบอล เพื่อหยุดคู่ต่อสู้
แต่การเข้าทำ การเล่นเร็วแต่ไม่แน่นอน ผลคือ ทีมคลอปป์ได้ 2.3 ประตูต่อเกม แต่ทีมอาร์เน่อได้ 2.4
ยิ่งดูสัดส่วนจำนวนครั้งกับประตูได้ 20.8 ครั้งของคลอปป์ – 16.6 ครั้งของอาร์เน่อ ประสิทธิภาพของทีมดีขึ้น นอกเหนือจากการโค้ชแล้ว นักเตะหลักๆ เล่นด้วยกันเป็นปีที่สอง แม็กก้า ไรอันและโซโบ
ตลอด 38 นัด ทีมคลอปป์ได้ประตูจากโอเพ่น เพลย์ 63 ประตู (73 %) อาร์เน่อ (จาก 28 นัด) ได้ 55 ประตู (83 %) ยุคคลอปป์มีลูกตั้งเตะที่ดีกว่า สำหรับอาร์เน่อเพิ่งได้ประตูจากลูกตั้งเตะ 4 ประตู สำหรับคลอปป์ ฤดูกาลสุดท้ายได้ 15 ประตู ต่ำสุดคือ 11 ประตู (17/18)
ทีมคลอปป์ทำประตูเยอะ นัดละ 2 ประตูขึ้นไป 27 จาก 38 เกม ส่วนทีมอาร์เน่อ 25 จาก 28 ต้องบอกว่า เรื่องนี้ ทีมอาร์เน่อทำได้ Wow มากๆ
มีเกมเดียวที่ทีมของอาร์เน่อทำประตูไม่ได้ คือนัดแพ้ฟอเรสต์ที่แอนฟิลด์ ซึ่งวันนั้น ทิม เชอร์วู้ดบอก มันคือเปิดโลกทัศน์ของอาร์เน่อโดยเฉพาะการเจอทีมรับลึก
นับทุกรายการ มีแค่ 3 นัดที่ลิเวอร์พูลทำประตูไม่ได้ (สเปอร์ส รอบรองลีก คัพ และเอฟเอ คัพรอบ 4 พลีมัธ แพ้ 0-1 ทั้ง 2 นัด
ที่น่าตกตลึงพรึงเพริดคือ ประตูจากการสวนกลับ Fast break ทีมคลอปป์ทำได้ 6 ประตู (38 นัด) แต่ทีมอาร์เน่อได้ 13 ประตู (28 นัด)
ทิม เชอร์วู้ดบอกว่า ทีมอาร์เน่อแน่นอน เด็ดขาดมากในจังหวะทำประตู เพราะนักเตะสามารถเล่นได้หลากหลาย ฝ่ายตรงข้ามไม่รู้ว่า จะเจอลูกเล่นไหนจากลิเวอร์พูล เฮฟวี่ เมทั่ลฟุตบอลของคลอปป์ ยอดเยี่ยม ดุดัน แต่ทุกคนรู้ว่า เดี๋ยวพวกเขาจะเล่นอย่างไร
เล่นเร็ว 100 ไมล์ต่อชั่วโมง จากริมเส้น เดี๋ยวเข้ากลาง ดังนั้นฝ่ายตรงข้ามบริหารจัดการจุดอันตรายได้
จุดนี้ เชอร์วู้ดบอกว่า ไม่ใช่การวิจารณ์หรือตำหนิ เพราะคลอปป์ฟุตบอลก็ยอดเยี่ยม แต่เป็นการพูดเชิงแท็คติก
นี่คือหัวใจของทีมฟุตบอล เชอร์วูดบอก ไม่ว่าจะระดับไหน ความหลายหลาก การเปลี่ยนแปลงระหว่างเกม การควบคุม คลอปป์ฟุตบอลไม่คอนโทรล แต่ใช้วิธีการถล่มคู่ต่อสู้ให้ราบเป็นหน้ากลอง ความแข็งแรง ซึ่งอาร์เน่อเข้ามาปรับเปลี่ยนนิดหน่อย
อีกเรื่องคือ ความสัมพันธ์ระหว่างโมกับคลอปป์ จากเหตุการณ์ที่ลอนดอน สเตเดี้ยม ซึ่งโมเองก็ฟอร์มตก นับจากการบาดเจ็บในอัฟริกัน เนชั่นส์ คัพ นอกเหนือจากเครดิตของอาร์เน่อ ตัวโมก็มีส่วนอย่างยิ่ง เพราะนี่คือฤดูกาลสุดท้ายของเขา
ฤดูกาลนี้ ไรอัน กราเฟนแบร์กคือการค้นพบที่ยอดเยี่ยมของอาร์เน่อ แต่โซโบซไล คืออีกคนที่ทำให้แดนกลางของลิเวอร์พูลเดินได้เหมือนลานนาฬิกา
พอล เมอร์สัน บอกว่า มีนักเตะที่ขยันกว่าโซโบอีก วิ่งไปทั่ว แต่มันไม่มีผลกับเกม แต่โซโบวิ่งแล้วมีผลกับเกม
โซโบไม่ได้ลงเล่นมากสุด อยู่ในสนามเป็นลำดับ 4 ของทีม ในแผงมิดฟิลด์ มีไรอันและแม็กก้าอยู่ในสนามมากสุด แต่โซโบคือคนที่วิ่งเยอะสุด (94.5 กม จาก 1,908 นาที ขณะที่ไรอันและแม็กก้า เล่นในหลัก 2,000 นาที)
การแย่งบอล, การสร้างโอกาส, บอล รีคัฟเวอรี่ และการได้บอลในเขตโทษ อยู่ 3 อันดับแรกของทีม
ความเหนื่อยไม่กระทบต่อเกมของโซโบ ยกเว้นหูอื้อนิดหน่อยเวลาเจอพิธีกรสาว
อีกเรื่องสำคัญมากคือ การบาดเจ็บจากการเล่นและซ้อม ลดน้อยลง เมื่อนักเตะสำคัญพร้อมลงเล่น นั่นมีส่วนอย่างยิ่งทำให้ทีมอาร์เน่อเดินหน้าได้
ช่องว่าง ระหว่าง 1 กับ 2 เวลานี้คือ 13 แต้ม แต่ลิเวอร์พูลเล่นมากกว่า 1 นัด นั่นอาจเหลือ 10 แต้ม
ทิม เชอร์วู้ด บอกว่า ผมยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่า อาร์เซน่อลจะได้ที่ 2 ส่วนช่องว่าง อาจมากกว่านี้หรือน้อยกว่านี้ก็ได้ ลิเวอร์พูลมีโอกาสทำแต้มหล่น แต่ไม่คิดว่า อาร์เซน่อลจะทำแต้มสูงสุด ไม่มีอะไรหลุดมือเลย เป็นไปได้ที่ ช่องว่างระหว่าง 1-2 จะมากกว่านี้
ถ้าพูดถึงแชมป์ พิธีกรรายการ เมอร์สัน เชอร์วู้ด ไมเคิ่ล ดอว์สันและซู สมิธ ลงความเห็นว่า ไม่ใช่ if แต่เป็น when
จะได้หรือไม่ หมดคำถาม แต่เมื่อไรต่างหาก
กิตติกร อุดมผล
เพจ Captain no.12