รู้สึกว่าเทรนบอลช่วงหลัง จะเปลี่ยนไปนะ

ทีมเล่นไดเรท น้อยจังหวะ มากกว่าเดิม แล้วหลายทีมใช้แล้วได้ผล

ทีมแนวๆ เน้นครองบอลเยอะๆ สร้างรูปแบบการบุก จะโดนจับทางง่ายกว่าเดิม ถ้าเล่นบอลช้า

การเพรสซิ่งดูช่วงหลังๆ น้อยลง เน้นคุมโซนมากกว่า

คิดว่า ทีมที่ครองบอลบุก น่าจะใช้แรงน้อยกว่าทีมรับ เพราะทีมรับต้องรับทุกตำแหน่ง คุมเกม คุมบอลยาก ต้องมีสมาธิตลอด ส่วนทีมบุก จะคอยคุมจังหวะ แล้วไม่ต้องเล่นเกมรุกทุกตำแหน่ง

คิดว่ายังไงกันครับ ชอบแบบไหนมากกว่า

ครองบอลบุกก็วิ่งหาช่องหนีตัวประกบกันตลอดเหมือนกัน แต่ทีมรับต้องเหนื่อยเรื่องใช้สมาธิเต็มที่ตลอดถ้าหลุดอาจจะพลาดได้ถ้าทีมบุกมีตัวชี้ชะตาเกม

บอลสวน ใช่ว่าจะเล่นได้ทุกทีม

สำคัญมากคือสามตัวหน้า แล้วก็คนโยนจากแนวหลัง ถ้าตัวพวกนี้คุณภาพไม่ถึง ก็เหมือนสาดบอลทิ้ง

การมาของเป๊ปนั่นล่ะครับ ที่ทำให้เกมรับยุคนี้ปรับเปลี่ยนตาม
ทั้งปีกตัดเข้าใน ทั้งแบ็คinvert cb overlap คือพวกนี้มันมีมาก่อนอยู่แล้วแหล่ะ แค่ไม่มีทีมไหนครองบอลระดับ75% แทบทุกเกมแบบทีมของเป๊ป

มันเลยทำให้วิธีการเล่นของแบ็คทั้งของข้างเปลี่ยนไป สมัยก่อนแบ็คนี่ทำยังไงก้ได้ให้ปีกครอสบอลไม่ได้
แต่ตอนนี้แทบทุกทีมบีบให้ปีกเปิดมากกว่าโดนตัดกลับเข้ามาด้านใน แถมเปิดแล้วเสียทีมรับจะได้โอกาสสวนกลับด้วย

ซึ่งไอการเปิดจากด้านข้างสัก10ครั้งเปอร์เซ็นการทำประตูยังน้อยกว่า ทีมรับหลุดสวนไปสัก 2-3ทีอีก

ปล.กลับมาที่คำถาม ทีมรับเหนื่อยกว่าอยู่แล้วครับด้วยความกดดันและสมาธิ เพียงแต่ถ้าสวนแล้วได้ประตูขึ้นมา ความกดดันจะโยนกลับไปทางเกมบุกทันที

ส่วนตัวผมขอไม่เลือกแล้วกัน

ใช้กลยุทธ์แบบซุนวูดีกว่า ปรับไปตามทีมที่เจอ

เจอทีมที่เราเป็นต่อ ก็ครองบอลบุก

เจอทีมที่เราเป็นรอง ก็รับรอสวน

ส่วนตัวผมชอบรับเเล้วรอสวนมากกว่าดูสะใจดีเวลาได้ประตู

แฟนปืนจะเข้าฟีลใจดีเเต่ตรงกันข้ามนะบุกเค้าเเล้วโดนสวนมากยิง

อยู่ที่รูปแบบการเข้าทำและจังหวะเกมด้วยครับ ถ้าซ้อมมาดีเป็นระบบก็วิ่งเรื่อยๆแบบซิตี้ ยิงนำแล้วเคาะเล่นไปเรื่อยๆ ทีมรับจะเหนื่อยกว่า เกมไหนเจาะไม่เข้าแล้วต้องโหมบุก หมดแรงมีโอกาสโดนสวนมีสูง แบบหงส์ปีก่อนๆโดนให้เห็นประจำ

จะ VS ทำไมครองบอลได้ก็ครอง ถ้าสวนไม่ได้ก็ครองบอล ครองบอลไม่ได้ก็ตั้งรับไล่เพส ไม่น่ามีทีมใหนหรอกพอสวนไม่ได้ส่งบอลให้อีกทีมมาบุกใหม่ เพราะทีมเราไม่เน้นครองบอลบุก เน้นตั้งรับรอสวน