แมนยูมันจะไม่กดดันได้ยังไง ดูข่าวแต่ละข่าวที่ออกมา มีแต่เพิ่มกระแสเชิงลบ แถมแฟนบอลนี่ด่าอย่างเดียว ด่าไม่สนสี่ สนแปด คือควรแยกอารมณ์กับธุรกิจก่อนไหมอะ ใน ss นี่ก็หลายคนเลย ใช้อารมณ์ส่วนตัวมากกว่าเหตุผล

การที่ปลดพนักงานมากขนาดนี้ ถ้าทำเพื่อให้องค์กรมันลีนขึ้น ถามหน่อยว่ามันผิดยังไง หน่วยงานข้าราชการ มีตำแหน่งซ้ำซ้อน ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ เรายังบ่นกันฉิบหาย แต่พอเป็นแมนยู ตัดส่วนที่ไม่จำเป็น ลีนองค์กรให้มีประสิทธิภาพ ดันโดนโถมซะงั้น ไม่ย้อนแย้งไปหน่อยหรอครับ แล้วตอนมีพนักงานเยอะกว่าสโมสรอื่น พอเป็นข่าว ก็โดนด่า ว่าบริหารโง่ คิดได้ไง จ้างคนมาทับตำแหน่งกัน บลา บลา บลา ตกลงต้องทำยังไง ?

ผมเองไม่ได้ติ่งเซอร์จิม หรือติ่งอะไรทั้งนั้นนะ แต่แค่แอบรำคาญแล้วก็ไม่เข้าใจ ว่าแฟนแมนยูคาดหวังอะไรกันแน่ อยากให้องค์กรทำงานดีขึ้น แต่ไม่ยอมให้เกิดการเปลี่ยนแปลง คาดหวังผลลัพธ์แบบใหม่กับการกระทำแบบเก่า มันมั่วตั้วเละเทะไปหมด ไม่ได้มั่วเฉพาะผลงานละนะตอนนี้ มั่วแม้กระทั่งความคาดหวังของแฟนบอลด้วย

สำคัญคือคำว่าธุกิจอะ เจ้าของมันก็ต้องบริหารให้อยู่รอดก่อนไหม แถมมีกฎการเงินต่างๆเข้ามาคุมการใช้จ่ายอีก การบริหารมันคงไม่ง่ายขนาดเป็นของเล่นลูกคนรวยมั้ง

สปอนเซอร์ส่วนสปอนเซอร์ครับ รายได้จากส่วนนี้เอาไปจัดการซื้อนักเตะใหม่ได้ แต่เพดานเงินเดือนมันพังมานานแล้ว

สรุปง่ายๆก็คือ หนี้ที่เกิดมันมาจากซื้อผ่อน คืออย่าไปคิดนะว่านักเตะซื้อจ่ายทีเดียวจบ 555 คือบางรายผ่อนจนต่อสัญญาหรือหมดสัญญาก็ยังผ่อนต่ออีกนะ

และที่หนักๆคือค่าเหนื่อยนักเตะ ที่มีระดับ 250000 มากเกือบล้นทีม แถมยังไม่ได้มีส่วนร่วมกับทีมอีกมากมาย

อีกทั้งอนาคต อาจมีสร้างสนามใหม่ สนามซ้อมใหม่ ตราบใดที่ยังไม่ได้มีการผ่าตัดเรื่องการเงินให้มันคล่องตัวก็ทำอะไรไม่ได้เลย

เอาล่ะคุณอาจเคยชินกับการที่เจ้าของทีมอัดเงินตัวเองเข้ามาพยุงหนี้ แต่วิธีการของจิมกับแมนยูมันคือวิธีพื้นฐานเลยที่ทุกสโมสรต้องเจอมาก่อน

คือการที่มีเจ้าของรวยแล้วอัดเงินมันก็ดี แต่ทำแบบติมก็ไม่ใช่ผิด และถ้าทำได้มั่นคง สโมสรก็จะไม่ต้องกังวลเรื่องพวกนี้อีก ระบบมันก็จะไหลลื่น


แต่ถ้าในมุมมองแฟนยอลก็คงรู้สึกว่าตกต่ำล่ะ และก็ใช่ตกต่ำมานานแล้วครับ

มองอีกมุม เอนิออส ถอดกางเกงออกเลยเห็นกางเกงในตูดขาด
ปกติเรารู้ แต่ไม่ชัดขนาดนี้
ตอนนี้คือ บอกเลย...กุหมดตูดนะทำอะไรไม่ได้ เพราะอะไรทุกคนเห็นนะ" ทำนองนี้
เกลเซอร์ร้อนครับ แบบนี้ หุ้นร่วงเยอะแน่นอน

ทีมขาดทุน ผลงานกาก ไม่ได้ไป UCL 2 ปีติด

มันก็ต้องเตรียมตั้งรับแบบนี่แหละ

ที่ลดสวัสดิการ ก็เพราะบีบให้คนออกครับ ง่ายๆ

รายได้น้อยลง ทำตัวอู้ฟู่เหมือนเดิม ก็ตายดิ

มันแดรกแค่เงินปันผล ส่วนอื่นมันปล่อยเลย

ผมไม่แคร์เรื่องจะปลดคนหรือลดสวัสดิการ เพราะไม่กระทบอะไรผม แต่สโมสรเสียความสัมพันธ์กับแฟนนท้องถิ่นไปเยอะแน่นอน แล้วทีสโมสรจากเคยโคตรรวยต้องมาอยู่สภาพนี้ มันเพราะฝ่ายบริหารทั้งนั้น

จำได้ว่ามันเริ่มพังตั้งแต่ค่าใช้จ่ายเสี่ยหมูปะ (ตอนนั้นอย่างหมด วิ่งแทบไม่ขึ้นไปเล่นกองกลางก้โดนด่า) > ป็อกบา > ลินกาด (ตอนนั้นโคดมองว่าเนื้อร้ายเลย เล่นไม่ได้ดี โซเชียลยับๆ) > แรชฟอด (พอกันกับคนหน้า ติดแอ้คแต่ได้กินบุญเก่า เดกปั้น) แต่ละคนค่าเหนื่อยอย่างแพง

เสียดายจริงๆ ถ้าแนวทางแมนยูตอนนั้น ได้เป๊ปคงจะสนุกกว่านี้น่าดู คงติดลมบน ผลิตนักเตะระดับสตาร์ได้มากขึ้น
มองมายุคนี้ เหลืออะไรบ้างหว่า

ส่วนเรื่องการบริหารอันนี้ไม่ได้ติดตามเลย แต่มองว่าการลีนองค์กรเป็นเรื่องปกตินะ แต่ไม่คิดว่าแมนยูจะมาถึงจุดนี้

ว่าแล้วก็ไปด่าบอร์ดเชลซีต่อ เอาโค้ชมาแต่ละคน เห้ออ อนาคตได้เป็นแบบนี้อีกสโมสรแน่ๆ ดึงนักเตะท้อปๆไม่ได้ พร้อมย้ายออก เตะไปวันๆ แผนโค้ชห่วยๆ บอร์ดจะเสริมแต่ไม่รู้เรื่องฟุตบอล

Ineos กำลังแก้ปัญหาจากผลการดำเนินงานที่ผิดพลาดใน Summer ที่แล้วอยู่

ยังด่า Ineos ได้ ก็ยอมใจอ่ะ
เห็นหลายความคิดบอกว่าเข้าใจ ทั้งที่จริงไม่เข้าใจ
แต่ก็เหมือนพนักงานทั่วไปอ่ะ ไม่รู้ว่าเจ้าของกิจการต้องคิดเยอะขนาดไหนหรอก
เกลเซอร์มันเข้ามาพร้อมนี้หลายร้อยล้าน โดยไม่เคยควักเงินตัวเองจ่ายเลย พร้อมปล่อยหนี้พุ่งทะยานไปพร้อมกับความล้มเหลวของผลงานฟุตบอล โดยเฉพาะช่วงจอนเมเทอ ที่ซื้อนักเตะค่าตัวเว่อทุเรศมากๆ สมควรแล้วที่โดนไล่ออก

อิเนออสเข้ามาซื้อหุ้นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น เจ้าของหลักยังเป็นเกลเซอร์ที่พร้อมจะขายหุ้นอีก เพราะทำแมนยูเน่าไปหมดแล้ว
คนที่ควรเอาเงินมาโปะคืนคือเกลเซอร์ ไม่ใช่อิเนออสตอนนี้
ให้เอาเงินตัวเองมาโปะหนี้ พันล้าน ตัวเองมีหุ้นนิดเดียว ใครจะไปทำ
ถ้าบอกอิเนออสเข้ามาเพื่อธุรกิจ ผมว่าคงเป็นนักธุรกิจที่โง่มาก ที่เข้ามาตอนนี้
แต่ถ้าไม่เข้ามาตอนนี้อ่ะ แมนยูพังแน่ ไอที่เราเห็นอิเนออสทำตอนนี้อ่ะมันคือการเปิดแผลออกมาเย็บห้ามเลือด

ทำไมถึงด่า ineos ไม่ได้ละ ก็ ผู้บริหารชุดนี้ ทีมนี้ที่ไปต่อสัญญา ETH ที่กำลังหมดสัญญา แล้วปลดทำให้เสี่ยค่าชดเชย 14.5 ล้านปอนด์ ทั้งๆ ที่ทุกคนรู่อยู่แล้วว่า ETH ไปต่อไม่ไหว

แถมไปล้วงลูก ปลด ผอ กีฬา ที่ไม่เห็นด้วยกับการเอาอโมริมมา

ดูจากผลงาน อีกไม่นานก็คงปลด อโมริมอีก แล้วไปจ่ายชดเชยอีก

ประหยัดเรื่องเล็กๆ ค่าทูตสโมสร ค่าอาหาร ปลดพนักง่ร แล้วไปจ่ายค่าโง่ในเรื่องใหญ่ ที่ตัวเองทำ

เหมือนปรับเชิงคุณภาพ
แต่ดูปลายเหตุ

พพนักงาน 500 ที่ปลด(รวมอื่นๆ) ชั่วโมงละ 12ปอน*8*500 *7วัน
ตกสัปดาห์ละ 336,000 = ค่าเหนื่อยนักเตะปรกติ 2 คน(170K)
หรือน้อยกว่าคาเซมิโร่ 1 คน


ดูวิกฤตแล้วน่าจะกระทบการเงินยาวๆ

และดูท่าจะขาดสภาพคล่องมากกว่านี้

ไม่ให้ด่าผู้บริหารได้ไง ในเมื่อผู้บริหารเอาเงินไปละลายแม่น้ำ จ่ายค่าชดเชยเทนฮาก จ่ายฉีกสัญญาอโมริม จ่ายค่าฉีกสัญญา ผอ. เอาแค่ตัวเลข 3 อย่างนี้มารวมกัน ใช้ไปกี่สิบล้าน แต่ไม่เป็นไร แฟนผีว่าดี ผมก็ว่าดี

อวสานวลี 'ทีมกุรวย'

รายจ่ายเท่าเดิมหรือมากกว่าเดิม แต่รายได้ลดลงอย่างมหาศาล แถมหนี้ก็ยังเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหนี้จากการซื้อสโมสรที่จ่ายแต่ดอกตลอด หรือหนี้จากการซื้อนักเตะ สนามหลังคารั่วแต่ไม่ได้ซ่อมในฤดูกาลก่อน เป็นตัวบอกได้ ว่าถังแตกแล้วจ้า

เรื่องจริงก็แบบนี้ ปลดตัวน้อย ตัวใหญ่อยู่สบายเหมือนเดิม ชีวิตพนักงานตัวน้อย