สัก 10-15 ปีที่แล้ว แมนยู คือ สโมสรที่ได้ขึ้นชื่อว่า มีสถานะทางการเงิน ดีมากที่สุดของโลก


1. ปลดพนักงานเพิ่มเติม 150-200 คน
• หลังจากปลดพนักงานไปแล้ว 250 คนเมื่อปีที่แล้ว
• คาดว่าจำนวนพนักงานของสโมสรจะลดลงถึง 39% ตั้งแต่ INEOS เข้าบริหาร

2. จำกัดอาหารพนักงานในศูนย์ฝึกซ้อม
• ที่แคร์ริงตัน ผู้เล่นยังได้รับอาหารตามปกติ
• พนักงานจะได้รับเพียงซุปและขนมปัง ซึ่งจะเริ่มใช้หลังจากการปรับปรุงศูนย์ฝึกเสร็จสิ้น

• โรงอาหารที่สนามโอลด์แทรฟฟอร์ดจะปิดตัวลง

3. เหตุผลของการลดต้นทุน
• สโมสรขาดทุนติดต่อกัน 5 ปี และต้องการนำเงินไปพัฒนาทีมและสิ่งอำนวยความสะดวก
• แมนยูฯ มีหนี้ค่าตัวนักเตะค้างจ่ายถึง 391 ล้านปอนด์
• หนี้ทั้งหมดของสโมสรต้องชำระภายในปี 2027 พร้อมดอกเบี้ยที่อาจเพิ่มขึ้น

4. ผลกระทบต่อการเงินของสโมสร
• การยกเลิกอาหารพนักงานช่วยเซฟเงิน 1 ล้านปอนด์ ซึ่งเทียบเท่ากับค่าเหนื่อยของคาเซมิโรเพียง 3 สัปดาห์
• สโมสรต้องจ่ายดอกเบี้ยหนี้ประมาณ 50 ล้านปอนด์ต่อปี ซึ่งเทียบเท่ากับงบอาหารพนักงานนาน 50 ปี





มันจะกลายเป็นวงจรอุบาทว์


สโมสร ไม่มีเงิน

คนเก่งๆ ไม่มาทำงานให้

ผลงานตกต่ำ

แล้วกลับไปวนลูปใหม่ จนกว่าจะมีเทพลงมาจุติ ช่วยดึงออกจากลูปนี้


ขายพวกกากๆ ค่าตัวแพง สักครึ่งทีม ดึงตัวพวกดาวรุ่งเทพๆ จากลีกล่างๆ มา พอจะช่วยได้มั้ย


https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premierleague/2843735?

การเงินภายในมันคงแย่แบบสุดขีด เกลเซอร์บริหารทีมมายังไง
ปล่อยให้ทีมเป็นหนี้ได้ถึงขนาดที่INEOSเข้ามาต้องจัดการลดขนาดฝ่ายบุคลากร
ลองคิดถ้าคุณไปลงทุนธุรกิจ แต่รายจ่ายส่วนเกินที่ไม่จำเป็นเยอะคุณก็ต้องตัดออก

การให้ค่าเหนื่อยนักเตะก็สำคัญ แต่มันไม่สามารถทำได้เลยทันที
นักเตะมีสัญญาต้องหาทางขายออก ปล่อยยืมเพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย
ถ้ามันเข้ามาแล้วสโมสรดีจริง คงไม่ต้องมาปรับอะไรมากมายขนาดนี้
พนักงานที่ปลดออกไปมันคงมีเยอะเกินหน้าที่ต้องรับผิดชอบนั่นแหละ

ผมไม่ได้ถือหางINEOS แต่กำลังคิดว่าถ้าผมลงทุนผมต้องจัดการธุรกิจตัวเอง
ไม่ให้เงินมันรั่วออก ต้องอุดรอยรั่วแล้วค่อยแก้ปัญหา แล้วค่อยหาผลกำไร

รวย

มีบางคนเม้นในมู้ล่างๆ ว่า ลดคนที่มันซ้ำซ้อนกัน

อาจจะใช่


แต่ถ้าตัดสวัสดิการ ที่พนักงานเคยได้ มันส่งผลต่อขวัญ กำลังใจ คนที่ยังอยู่ ไม่น้อยเลยนะ



ลองคิดดูนะ คุณทำงานในบริษัท คุณรู้ว่า บริษัทมีผลประกอบการแย่มาหลายปี


เริ่มมี ปลดคนงานจำนวนมาก ยกเลิกสวัสดิการที่เคยได้


จะรู้สึกยังไงกันดี


แมนยู ถึงช่วงหลังๆ ผลงานบอลจะแย่ แต่ผลงานอย่างอื่น ยังดีเยี่ยมนะ ได้รางวัล สนามหญ้าเขียวยอดเยี่ยมด้วย บ่งบอกว่า พนักงานเบื้องหลัง ดูแลสนามแข่งเป็นอย่างดี

การเงินภายในมันคงแย่แบบสุดขีด เกลเซอร์บริหารทีมมายังไง
ปล่อยให้ทีมเป็นหนี้ได้ถึงขนาดที่INEOSเข้ามาต้องจัดการลดขนาดฝ่ายบุคลากร
ลองคิดถ้าคุณไปลงทุนธุรกิจ แต่รายจ่ายส่วนเกินที่ไม่จำเป็นเยอะคุณก็ต้องตัดออก

การให้ค่าเหนื่อยนักเตะก็สำคัญ แต่มันไม่สามารถทำได้เลยทันที
นักเตะมีสัญญาต้องหาทางขายออก ปล่อยยืมเพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย
ถ้ามันเข้ามาแล้วสโมสรดีจริง คงไม่ต้องมาปรับอะไรมากมายขนาดนี้
พนักงานที่ปลดออกไปมันคงมีเยอะเกินหน้าที่ต้องรับผิดชอบนั่นแหละ

ผมไม่ได้ถือหางINEOS แต่กำลังคิดว่าถ้าผมลงทุนผมต้องจัดการธุรกิจตัวเอง
ไม่ให้เงินมันรั่วออก ต้องอุดรอยรั่วแล้วค่อยแก้ปัญหา แล้วค่อยหาผลกำไร

อย่างชอบคนอวย INEOS

ไม่ตกชั้นเองก็อาจจะโดนให้ตกชั้นละมั้ง ถ้าการเงินมีปัญหาแบบนี้ โดนตัดแต้มนี่ถึงตกชั้นเลยทีเดียว
เกลเซอร์ไม่ไหวก็ขายทีมเถอะ

INEOS มันไม่ได้รวย มันไม่ได้อัดเงินเข้าสโมสร

มันเข้ามาด้วยเหตุผลทางธุรกิจ ไม่ใช่ฟุตบอล

มันมาทำกำไรจากสโมสร ไม่ใช่ได้อัดเงินเพื่อให้ทีมเป็นแชมป์แบบเสี่ยหมีหรือกลุ่มทุนตะวันออกกลาง

ถามจริงๆ ก่อนซื้อหุ้นกิจการราคาเป็นหมื่นๆล้าน มันจะไม่เห็นงบตัวเลขได้ยังไง แล้วยังบอกว่าจะอัดเงินเพื่อสร้างให้ทีมเป็นแชมป์ ขายฝันแฟนบอลทั้งนั้น

ไอ้ที่ทำๆอยู่ มันวางแแผนไว้ตั้งแต่ก่อนซื้อแล้ว

การดำเนินงานแบบธุรกิจเป็นหลักก็แบบนี้แหละ cost cutting, sell asset ปรับโครงสร้างจนมีกำไรจากนั้นก็รอดูดตังยาวๆ หรือไม่ก็ขายต่อถ้าราคาดี

แต่ถ้าดูทรงขุนไม่ขึ้น ก็จะทิ้งที่มันทำเละไว้ ไปหาเหยื่อรายใหม่แทน

หลังบ้านดีไม่พัก

ไอพวกหนี้พวกนี้ส่วนไหนที่เอาเงินเจ้าของปิดได้บ้างมั้ยนะ หรือต้องเงินรายได้สโมสรอย่าวเดียว

ใช้เงินเจ้าของโปะได้
ปัญหาคือ ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครโปะเงินตรงนี้เลย
แถมเอารายได้สโมสรเข้าตัวเองไปอีก

ก่อนซื้อทีมพวกรายได้ กำไร ขาดทุน หนี้ ค่าใช้จ่ายๆ ต่างๆ นี่ ทุกคนได้เห็นอยู่แล้วแหละ คนซื้อต้องทำ due diligence

ฝั่งชีคเลยประเมินมูลค่าเท่าที่คิดว่าเหมาะสม + เผื่องบไว้สำหรับปรับปรุง infrastructure ไว้แยกต่างหาก

ฝั่ง ineos ก็เห็นละเหมือนกัน แต่คิดว่าน่าจะมีอะไรผิดแผน หรือทำ due diligence มาไม่ดี ทำให้ผิดแผนไปหมด ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไป

ฝั่งเกลเซอร์ผมว่าประเมินพลาด คิดว่า ineos จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นได้ แล้วราคาหุ้นก็จะขึ้น ทำให้มูลค่าหุ้นในมือเกลเซอร์สูงขึ้นได้ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ฝั่งเกลเซอร์ก็น่าจะเดือดร้อนเหมือนกัน เพราะมูลค่าของแมนยูน่าจะตกลงเรื่อยๆ

ไปๆมาๆ อีตาจิม นี่เข้ามา เละกว่า เกลเซอร์อีก

เละกว่าขี้ ทั้งการบริหาร การตลาด และฟอร์มทีม

เมื่อก่อนว่ากากๆ การตลาดยังหาสปอนเซอร์เข้ารัวๆ

ถ้าไม่มี เกลเซอร์ แมนยู ก็ไม่ต้องจ่ายหนี้ ทุกปี

รายได้ที่สโมสรมี สามารถเลี้ยงตัวเองได้ สบายๆ

จะจ่าย นักเตะ 3 แสน ปอนด์ 11 คน ยังสบายๆเลย

ผมสงสัยมาก ระบบ ธุรกิจ เข้าซื้อสโมสร และ สโมสรเป็นหนี้ มันอนุญาติ ให้ทำได้ยังไง ทุเรศจริงๆ ระบบอุบาทว์ แบบนี้

จะอัดเงินได้ไงเป็นหุ้นส่วนแค่ 25% เองนิ หลักๆเจ้าของยังเป็นเกลเซอร์ที่ยังขายหุ้นไม่หมด

เละเกินกว่าที่คิดไว้เยอะเลย