https://www.facebook.com/share/p/169RBj4guc/?mibextid=wwXIfr

บทความดีดีจากเพจ scouse bastrad เช่นเคย

หลังจากผลเมื่อคืน กระแสแฟนบอลอาเซนอลบางคนคุ้นๆมากเลยครับ ไม่ว่าจะบอร์ดโง่ที่ไม่ซื้อเดือนมกรา งก จะเอาแต่คนที่ชั่ย ฯลฯ
ก็นั่นแหละ พอทีมไต่ขึ้นมาสูงระดับนึงแล้ว ทางเลือกในการตัดสินใจมันก็ไม่ต่างกัน
ผมลองทำงบตั้งแต่ปี 16-23 (งบ 24 ยังไม่ออก)
ข้อเท็จจริงที่น่าประหลาดใจคือทั้งสามสโมสร(ลิเวอร์พูล อาเซนอล แมนซิตี้) มีรายจ่ายให้ทีมชุดใหญ่ต่อรายได้ทั้งหมดใกล้เคียงกันคือ 74.42% 72.26% และ 75.49%
รายจ่ายในทีมชุดใหญ่ในที่นี้คำนวณจาก Net Transfer รวมกับค่าแรงครับ

อย่างไรก็ตามแม้จะจ่ายเงินออกไปใกล้เคียงกันแต่การจัดสรรเงินนั้นแตกต่างกัน โดยลิเวอร์พูลจัดสรรงบซื้อขายเพียง 12.41% อาเซนอล 14.35% และ แมนซิตี้ 16.55% ต่ำสุดในสามทีม สวนทางกับสัดส่วนเงินเดือนที่ลิเวอร์พูลสูงสุดที่ 62% ตามมาด้วยแมนซิตี้ 58.9% และ อาเซนอล 57.9%

ส่วนต่าง 4% อาจฟังดูน้อย แต่นี่คือรายได้ระดับ 4 พันล้าน ซึ่งหมายถึงส่วนต่าง 160 ล้านทีเดียว เมื่อรวมกับลิเวอร์พูลมีขาออกเพียง 489.7 ล้าน(อาเซนอล 705 ล้าน ซิตี้ 830 ล้าน) จึงยิ่งเป็นตัวกดดันงบขาเข้ามากขึ้นไปอีก

ดังนั้นแฟนบอลที่อยากเห็นทีมซื้อมากขึ้น ก็ต้องหวังสองทางเลือก คือขายมากขึ้น หรือ ลดสัดส่วนเงินเดือนลงครับ เพราะนี่ก็จ่ายพอๆกับเขาแต่ซื้อน้อยกว่า

ไหนๆก็ไหนๆ ผมทำไฟล์ขึ้นมาแล้ว แต่ยังไม่รู้จะหยิบจับอะไรมาเล่า ลองไปดูเล่นก็ได้ครับ ตัวข้อมูลดิบเอามาจากกรมธุรกิจการค้า(Company House) งบที่ใช้มีผู้สอบบัญชีทุกงบ เผื่อใครจะมีจุดน่าสังเกตอะไรหยิบมาคุยกันได้

https://docs.google.com/spreadsheets/d/10IJVGp2bCHNLDRKit6zZiZITjiVWdl2baGmIX3i5E_k/edit?usp=sharing

อ้อ debunk อีกหนึ่งประเด็นคือเรื่องเพดานเงินเดือน นับจากปี 16 เป็นต้นมา ลิเวอร์พูลขึ้นเงินเดือนนักเตะขึ้นมาแล้ว 79% เทียบกับอาเซนอล (20%) และแมนยู (8%) มีเพียงแมนซิตี้ที่ขึ้นเงินเดือนนักเตะในสัดส่วนที่สูงกว่า (114%) ในข้อเท็จจริงคือเพดานเงินเดือนลิเวอร์พูลไม่ได้ต่ำมานานแล้ว

กากไม่กากมันก็อัพเกรดสนามเหย้าใหม่ให้ 2 รอบ

สร้างมูลค่าแบรนด์จากจะล้มละลายกลายมาเป็นทีมมูลค่าท็อป 5 ของโลกได้ในปัจจุบัน

ผมไม่รู้ว่าความพอใจแต่ละคนอยู่ตรงไหน แต่สำหรับผมที่เชียมาเกิน 20 ปี ผมโครตพอใจกว่ายุคไอ้เห้ปลิง 2 ตัวนั้น

สรุป FSG มันบริหารเก่งหรือบริหารกากล่ะเพราะทีมอื่นเขามีเงินมาซื้อตัวได้ ทุก summer แต่นี่ขนาดบาง summer ไม่ซื้อ หรือใช้แค่ 10 -20 ล้าน ยังมีรายจ่ายเท่าๆ กับทีมที่ซื้อตัวตลอด

ข้อเสียของระบบพ่อปกครองลูกอ่ะ ไม่อยากย้ายเองยังไงทีมก็ไม่ขาย ถ้า JK ยังอยู่เผลอๆเจ้ติ๊ปก็ยังอยู่ ตัวปล่อยฟรีไม่ได้สักบาทโคตรเยอะ

มันจะมีพวกตาม YTB เด็กๆสายหงส์บางคนด่าเอามันส์ เรียกยอดวิว

ละพวกไปฟังก็คล้อยตามโดยไม่สนสี่สนห้ากับความจริง

ต่อให้มีเจ้าของรวยล้นฟ้า มันก็จะเป็นแบบนิวอยู่ดี กฏมันเพิ่งผ่านปีนี้ เอาสปอนด์มาอัดเกินมูลค่าของตลาดไม่ได้

ไม่งั้นนิวคลาสเซิลที่รวยกว่าเรือใบ 10 เท่า มันซื้อกับทุ่มค่าจ้างแพงๆไปนานแล้ว

กากไม่กากมันก็อัพเกรดสนามเหย้าใหม่ให้ 2 รอบ

สร้างมูลค่าแบรนด์จากจะล้มละลายกลายมาเป็นทีมมูลค่าท็อป 5 ของโลกได้ในปัจจุบัน

ผมไม่รู้ว่าความพอใจแต่ละคนอยู่ตรงไหน แต่สำหรับผมที่เชียมาเกิน 20 ปี ผมโครตพอใจกว่ายุคไอ้เห้ปลิง 2 ตัวนั้น

สรุปสั้นๆ ก็ขายได้น้อย เลยซื้อได้น้อย

ถ้าอยากเป็น Transfer Club มันต้องขายมากกว่านี้ เพื่อซื้อตัวที่ต้องการได้มากกว่านี้

ผมไม่ได้โทษว่าก่อนหน้านี้ไม่ค่อยขาย แต่พอผ่านยุค JK ซึ่งไม่ค่อยขาย และ นี่เป็นตลาดแรก มันก็ต้องทำใจในระดับนึง

ลองนึกภาพ ถ้าสลอทมาก่อนหน้านี้สัก 1 ปี ผมว่าบังได้ไปซาอุราคา 100 ล้านไปละ (โดยปีนี้ฟอร์มอาจจะป่วยไปเลยก็ได้)

รอบนี้ถ้าไม่นับหมดสัญญาก็อาจจะออกเยอะนะ

Kelleher Tsimikas Morton Natt Rhys Beck Diaz Nunez Doak Koumas Elloitt Chambers

อาเซน่อล ซิตี้ เวสแฮม สเปอร์ เอฟเวอตัน เขาก็ทำเหมือนกันนะครับ เรื่องสนามแข่ง สนามซ้อม สำหรับผมที่ FSG ดีสุดๆ และเถียงไม่ได้คือการเลือกคนมาทำงานด้านฟุตบอล

ไม่มีทีมไหนซื้อ 100 ล้านได้ทุกปีหรอกครับ

คุณลองดู มาดริด โมเดลก็ได้ ใช้เงินน้อยในตลาดแต่ทำไมเค้ายังประสบความสำเร็จได้

ทำไมแมนยูใช้เงินในตลาดปีละเกิน 100 ล้านทุกปี ทำไมยิ่งแย่

คุณอยากได้ให้ซื้อ ซื้อ มันไม่ผิดหรอก แต่มันไม่ได้แก้ปัญหาทั้งหมด แถมถ้าซื้อมาแล้วแป๊ก จะซื้อมาถมอีกมันก็ยากขึ้น

คนบริหารเงินระดับหลายหมื่นล้าน ผมไม่เชื่อว่าเค้าไม่คิด วิเคราะห์หรอกครับ

ไม่งั้นลิ้วพูลมันไม่มายืนจนถึงจุดที่การเงินแข็งแกร่งได้แบบนี้

ถึงตอนนี้ไม่รู้จะด่า fsg ไปทำไมนะ

ซื้อไม่ซื้อผมไม่สนเลย ถ้าผลงานทีมยังดี

อย่างปีนี้พอเปลี่ยนจาก klopp เป็น slot ผมมั่นใจว่าแฟนลิพูลทุกคนเพื่อใจไว้ว่าทีมแย่ลงแน่ๆ

แต่พอถึงตอนนี้ทีมก็ไม่ได้ดร็อปลงจากยุค klopp เลย

Fsg คงเซ็ทระบบหลังบ้านไว้ดีจิงๆแระ

ตรงนี้ผมมองว่า แมนซิ หรือ เชลซี หรือ ทีมใหญ่อื่นๆมีรายได้จากการขายนักเตะอคาเดมี่เยอะนะ
ซึ่งลิเวอร์พูลแทบไม่มีเลย ระบบฟาร์มตัวเยาวชนดีดีมาปั้นขายเนี่ย ทำกำไรโคตรดี
ถ้าระบบอย่างอื่นลงตัวแล้ว อยากให้ลองโมเดลนี้บ้าง เพราะตอนนี้ตัวดาวรุ่งแทบไม่มีแววเลย

มาโยนให้คนฝั่งที่ไม่ชอบ FSG ต้องการซื้อปีละ 100-200 ล้านอีก มันไม่ได้ต้องการให้ซื้อ 100 - 200 ล้าน ทุกปี มันแค่ต้องการให้ซื้อตำแหน่งขาดไม่ใช่ผลักภาระทั้งหมดไปที่โค้ช ที่จะให้ซื้อเพราะเชื่อมั่นในการคัดเลือกคนของ FSG ไง เมื่อก่อนยังทำเป้าหมายลำดับที่ 1 2 3 ได้เลย มาตอนนี้บอก รอคนที่ใช่ ติดกฎการเงิน คือผมคิดว่า FSG มันเปลี่ยนนโยบายการบริหารทีมเปลี่ยนไปแล้ว เพราะว่ามันดันมูลค่าทีมไปไม่คุ้มค่ากับการลงทุนเพิ่มอีกแล้ว ดูก็รู้ว่ามันแตกต่างจากช่วงที่คลอปเข้ามาใหม่ๆ

ถ้าวัดความกาก ไม่กากของการบริหารจากการที่ทีมมีเงินให้ซื้อตัวได้ทุกซัมเมอร์
งั้นผมว่าแมนยูคือทีมที่บริหารทีมได้โคตรเก่งและดีที่สุดในช่วงสิบปีมานี้แล้วครับ

ยังมีความคิดแบบนี้เยอะนะ ที่ว่าซื้อน้อย = กาก ผมไม่ใช่แฟนทีมนี้ยังรู้เลยว่าเค้าพัฒนาหลังบ้านเยอะ


จริงๆถ้าตั้งคำถามว่างกหรือเปล่า ดูจะเข้าท่ากว่า (แต่ในมุมผมคือเค้ามช้เงินฉลาด ยกเว้นถ้าต่อสามตัวหลักไม่ได้โดยเหตุผลไม่เข้าท่า)

คือถ้าตั้งธงว่า มันไม่ลงทุนแล้ว เพราะไม่คุ้ม ดันแต่มูลค่าทีมไปเรื่อยๆ
ตอนสองปีก่อน มันต่อสัญญาเฮนโด้ เก็บฟาบินโย่ไว้ไม่ดีกว่าเหรอ
จะไปซื้อโซโบ 70 ล้าน แมค 42 ล้าน กราฟ 40 ล้าน เอนโด 20 ล้านมาทำไม
เฮนโด้ ฟาบินโย่ ก็ยังพอเล่นได้ แต่มันไม่ยกระดับทีม แล้วก็ประหยัด ดันโจนส์ เอลเลียต มอร์ตั้น คาวัลโย่ ไบเซติกขึ้นมาก็ได้
ซืิ้อเพิ่มอีกสักตัวมาแทนติอาโก้ เอาสักแค่ตัวละ 30-40 ล้านก็พอ จะไปทุ่มตลาดเดียว 170 ล้านไปทำไม
เพราะยังไงบอร์ดก็ไม่สนใจเรื่องฟุตบอลอยู่แล้ว แค่ประคองทีมไว้ก็พอ สนใจเรื่องตัวเลขเงินเป็นหลัก