นักวิทยาศาสตร์ที่ชอบที่สุด คือใครคับ
ให้เหตุผล หรือไม่ก็ได้เช่นกัน
ส่วนใหญ่หลายคน เราะจะได้เจอในหนัง Oppenheimer ของ Nolan


ผมชอบ Marie Curie นักเคมีผู้ค้นพบรังสีเรเดียม และผู้หญิงคนแรกที่ได้รับรางวัลโนเบล (สาขาฟิสิกส์ในปี 1903 และสาขาเคมีในปี 1911) เป็นผู้หญิงคนเดียวในภาพ

เหตุผล เพราะว่าเธอพบสิ่งที่เจ๋งมากและช่วยชีวิตมนุษย์ได้โดยที่เธอและสามี ไม่เรียกร้องการจดสิทธิบัตรใดใดเลย เธอบอกว่า มันเป็นของโลกใบนี้ และพวกเธอก็แค่ค้นพบ ใครก็ตามที่ต่อยอดได้ ก็นำไปศึกษาต่อยอดได้เลยตามความสามารถ ทั้งที่ถ้าเป็นลิขสิทธิ์ของตนเอง เธอจะร่ำรวยอย่างมาก


ตัวอย่างเฉยๆนะ ตอบนอกรูปภาพได้

คนที่อยู่ในรูปนั้นประกอบด้วย (จากหลังไปหน้า จากซ้ายไปขวา)


– Auguste Piccard ผู้ออกแบบยานสำรวจน้ำลึก และบิดาของ Jacques Piccard ผู้พัฒนาเทคโนโลยีเรือดำน้ำ
– Emile Henriot ชายผู้แสดงให้โลกเห็นว่าโพแทสเซียมและรูโดเดียมเป็นสารกัมมันตรังสีตามธรรมชาติ

– Paul Ehrenfest เพื่อนของ Einstein และเจ้าของทฤษฎี Ehrenfest จำนวนมาก

– Edouard Herzen ผู้มีชื่อเสียงในการพัฒนาศาสตร์ด้านฟิสิกส์และเคมีในศตวรรษที่ 20

– Théophile de Donder บิดาของอุณหพลศาสตร์แบบผันกลับไม่ได้ (Irreversible Thermodynamics)

– Erwin Schrödinger ผู้วางรากฐานกลศาสตร์ควอนตัม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมการชเรอดิงเงอร์ ได้รับ รางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปี 1933

– Jules Emile Verschaffelt นักฟิสิกส์ปริญญาเอกของ Heike Kamerlingh Onnes

– Wolfgang Pauli หนึ่งในกลุ่มผู้บุกเบิกด้านฟิสิกส์ควอนตัม ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปี 1945

– Werner Heisenberg มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในฐานะผู้คิดค้นหลักความไม่แน่นอนของทฤษฎีควอนตัม ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปี 1932

– Sir Ralph Howard Fowler นักฟิสิกส์และนักดาราศาสตร์ ชาวอังกฤษ ผู้เคยดูแลเจ้าของรางวัลโนเบลมาแล้ว 3 คน

– Léon Nicolas Brillouin นักฟิสิกส์ชาวฝรั่งเศส มีส่วนร่วมในกลศาสตร์ควอนตัม การแพร่กระจายคลื่นวิทยุในบรรยากาศ และทฤษฎีสารสนเทศ

– Peter Debye นักฟิสิกส์ชาวเนเธอร์แลนด์ เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเคมีเมื่อปี 1936

– Martin Knudsen นักฟิสิกส์ชาวเดนมาร์ก เจ้าของผลงานการไหลของโมเลกุลก๊าซ และการพัฒนาของเซลล์ Knudsen

– William Lawrence Bragg ลูกชายของ บิดาแห่งวิทยาการผลิกศาสตร์รังสีเอกซ์ ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ร่วมกับพ่อในปี 1915

– Hendrik Kramers ผู้ช่วยของ Niels Bohr และผู้คิดค้นทฤษฎีเกี่ยวกับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหลายทฤษฎี

– Paul Dirac หนึ่งในผู้ก่อตั้งฟิสิกส์สาขากลศาสตร์ควอนตัม เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปี 1933

– Arthur Holly Compton ผู้ค้นพบการกระเจิงแบบคอมป์ตัน ซึ่งได้รับรางวัลโนเบลในปี 1927

– Louis de Broglie ผู้ค้นพบความเป็นคลื่นของอิเล็กตรอน และเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปี 1929

– Max Born นักฟิสิกส์ผู้มีส่วนพัฒนาทฤษฎีด้านกลศาสตร์ควอนตัม และได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปี 1954

– Irving Langmuir นักเคมีและนักฟิสิกส์ชาวอเมริกัน เจ้าของผลงานด้านวิทยาศาสตร์พื้นผิว ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมีในปี 1932

– Max Planck นักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน ผู้บุกเบิกการศึกษาทฤษฎีควอนตัม เจ้าของผลงานค่าคงตัวของพลังค์ ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปี 1918

– Niels Bohr นักฟิสิกส์ชาวเดนมาร์ก ผู้ต่อยอดทฤษฎีโครงสร้างอะตอม และช่วยการวิจัยระเบิดปรมาณู ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปี 1922

– Marie Curie นักเคมีผู้ค้นพบรังสีเรเดียม และผู้หญิงคนแรกที่ได้รับรางวัลโนเบล (สาขาฟิสิกส์ในปี 1903 และสาขาเคมีในปี 1911)

– Hendrik Lorentz นักฟิสิกส์ชาวดัตช์ เจ้าของผลงานการค้นพบและตั้งทฤษฎีเพื่ออธิบายปรากฏการณ์เซมัน ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ เมื่อปี 1902

– Albert Einstein นักฟิสิกส์ทฤษฎีเจ้าของทฤษฎีสัมพัทธภาพ ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปี 1921

– Paul Langevin ผู้คิดค้นทฤษฎีและสมการ Langevin dynamics และ Langevin equation

– Charles-Eugène Guye ศาสตราจารย์ฟิสิกส์แห่งมหาวิทยาลัยเจนีวา

– Charles Thomson Rees Wilson ผู้ประดิษฐ์ห้องหมอกที่ใช้ตรวจจับอนุภาค

– Sir Owen Willans Richardson ผู้คิดค้นกระบวนการเทอร์ไมโอนิกอิมิชชันที่จำเป็นสำหรับการผลิตรังสีเอกซ์ ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปี 1928
จาก catdumb

ผมชอบ กาลิเลโอ สายขบถนอกรีด น่าจะ bad ass สุดๆ

อริสโตเติล

Edward Jenner ผู้วางรากฐานของวัคซีนครับ

Charles Darwin ครับ

หลายคนอาจจะรู้จักแกในด้าน Biology หรือวิวัฒนาการ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่ผมสนใจเลย

ผมชื่นชมและนับถือแกเพราะแกคือคนแรกในโลกที่คิดค้น “เก้าอี้ออฟฟิศ“ หรือเก้าอี้ติดล้อนั่นแหละครับ

คุณลองนึกภาพโลกที่ไม่มีเก้าอี้ออฟฟิศ แล้วคุณเป็นเด็กคนนึงที่เอาล้อไปติดเก้าอี้เพราะจะได้ไม่ต้องลุกไปลุกมาสิ

เชื่อผมเถอะว่าผู้ปกครองหรือครูของคุณคงด่าว่าคุณเป็นเด็กขี้เกียจ แค่จะเดินใกล้ๆยังไม่ยอมเดินเลย โตไปจะทำอะไรไหว

ดาวินชี อยากรู้ว่าเค้ามองเห็นโลกเป็นยังไง

เบนจามิน แฟรงคลิน ผู้ชักว่าวดำ

จริงๆของคูรีย์ น่าจะเป็นผู้เจอวิธีการแยก สังเคราะห์ หรือสกัด ไอโซโทปกัมมันตรังสีของเรเดียม หรือเปล่า ไม่แน่ใจนะ เพราะค้นพบเฉยๆไม่น่าจดสิทธิบัตรได้ ถ้าเป็นวัตถุสิ่งของเราเคลมตัวมันไม่ได้ แต่อ้อมไปเคลมวิธี การออกแบบ หรือส่วนผสมได้

อิชิงามิ เซ็นคู

Freiherr von Braun รากฐานสำคัญที่พามนุษย์ไปอวกาศได้สำเร็จ

ขอตอบนอกเหนือจากคนในรูป
ผมคงยก Sir Isaac Newton มาเป็นชื่อแรกๆในหัว
เพราะโคตรเทพในการวางรากฐานทาง Physics และ Maths (Calculus) ด้วย
คือมันน่่าทึ่งเพราะเหมือนเป็นคนที่ breakthrough ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ของมนุษยชาติคนนึงเลย ไม่ใช่ว่าคนอื่นๆไม่เก่งเท่า แต่ผมมองว่าในยุคสมัยของ Newton มันน่าทึ่งมากที่มีคนที่คิดอะไรได้ถึงขนาดนี้

แต่จากประวัติส่วนตัว เท่าที่เคยอ่านมา ถ้าผมจำไม่ผิด แกก็ดูเป็นคนแปลกๆ คือมีความเชื่อเรื่องการถอดรหัสจากคัมภีร์ทางศาสนา มีความคลั่งไคล้ในการเล่นแร่แปรธาตุ จริงๆมันคือความเป็นนักเคมีนั่นแหละ แต่อย่างที่ผมบอกไปด้านบน คือแกเกิดมาในสมัยที่วิทยาศาสตร์มันโบราณมาก มากซะจนยังไม่มีนักเคมี ศาสตร์วิชาเคมีมันก็ยังไม่ได้เป็นรูปเป็นร่าง แกก็คงชอบทดลองอะไรไปเรื่อยตามสไตล์
แล้วเป็นพวกบ้างาน หมกมุ่นกับการเขียนหนังสือ อ่านหนังสือ ทั้งวันทั้งคืน
จนไม่มีครอบครัวไม่มีภรรยา เป็นหนุ่มโสดยันตาย
อีกเรื่องคือเหมือนแกจะชอบไฟต์กับเพื่อนร่วมวงการอยู่เรื่อยๆ คือมีความเจ้าคิดเจ้าแค้น

ถ้ามีคนให้ผมนิยามคำว่านักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง ผมคงนึกภาพ Isaac Newton เนี่ยแหละ

- ส่วน "เดอ บรอย" เนี่ย มียศ (คำนำหน้าชื่อ) เป็น Prince เลยนะครับ
พริ้นซ์ เดอ บรอย

- เห็นชื่อ "โวล์ฟกัง เพาลี" แล้ว นึกสมัยเรียนวิชา Org Chem มันจะมีเรื่องการกีดกันของเพาลี เป็นทฤษฎีที่เรียกตามชื่อคนคิดเลย

Lise Meitner ครับ

คนนี้ว่ากันว่าถ้าไม่ใช่ผู้หญิง ไม่ใช่ยิวนะ รับรองโนเบลรัว ๆ
คนบอกไอน์สไตน์ให้กำเนิดนิวเคลียร์ จริงมันมาจากฝั่งเยอรมนีครับ คนนี้แหละที่ทดลองตอนอยู่เยอรมนีกับฮาน แล้วเป็นคนอธิบายว่า ไอ้ที่นักฟิสิกส์นิวเคลียร์สมัยนั้นอัดนิวตรอนใส่ธาตุให้หนักขึ้นมันได้แค่จุดนึง พอเลยจุดสมดุลมันจะเกิดปรากฏการณ์ Fission ต้นกำเนิดของปฏิกิริยาที่ทำได้ทั้งระเบิดนิวเคลียร์และโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ที่ออพเพนไฮเมอร์มาต่อยอดนั่นคือเป็นแค่ applied แล้วล้วน ๆ แล้วที่น่าขบขัน (แบบไม่ตลก) คือ ฮาน ได้โนเบลปี 1944 ในขณะที่ Meitner ไม่ได้รับการยอมรับใด ๆ เลย

Richard Feynman ครับ ด้านการสอน ความเป็นนักฟิสิกส์อารมณ์ดี
"ผมอยากสอน เพราะในตอนที่ผมไม่มีไอเดียอะไรใหม่ๆในงานวิจัย ผมก็ยังสามารถให้อะไรกับสังคมได้"

ไมท์เนอร์ได้รับการยอมรับในบั้นปลายครับ (ถึงจะไม่ได้รางวัลโนเบล เพราะกรรมการดันให้แค่ ฮาห์นและสเตราส์มันน์ ทั้งที่ทำวิจัยด้วยกันแท้ๆ)
ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ นามสกุลของเธอ นำมาตั้งเป็นชื่อธาตุ Meitnerium
https://www.britannica.com/biography/Lise-Meitner

อีกสองเรื่องที่น่าทึ่ง
- เธอปฏิเสธเข้าร่วมโครงการแมนฮัตตัน และมีจุดยืนต่อต้านระเบิดปรมาณูแข็งขันแต่ต้น
- เธอวางระบบความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการเกี่ยวกับนิวเคลียร์ เท่าที่ความรู้ขณะนั้นมี ซึ่งตรงกันข้ามกับมารี กูรี และลูกสาว ที่ปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีสารพัด อุปกรณ์ป้องกันอะไรก็ไม่มี (ทุกวันนี้สมุดและอุปกรณ์ของกูรีปนเปื้อนกัมมันตรังสีระดับสูงมากจนต้องใส่กล่องตะกั่วป้องกันไว้) รายหลังนี่เคยมีภาพใช้ปิเปตดูดสารกัมมันตรังสิด้วยปากมาแล้ว

เธอทั้งค้นพบธาตุ (ร่วมกับสามี) และหาวิธีสกัดเรเดียม (ร่วมกับ อองเดร หลุยส์-เดอเบียร์เนอ) ครับ

ถ้าจดได้ก็วิธีการสกัดนั่นล่ะแต่เลือกจะไม่จด ทำให้ยุคหนึ่งเรเดียมเป็นธาตุยอดนิยมสารพัดประโยชน์ แพร่หลายมาก (ก่อนจะพบว่ามันอันตรายเกินกว่าจะใช้งานครอบจักรวาลในหลายสิบปีต่อมา)

ีอีกธาตุที่เธอและสามีค้นพบ ก็ พอโลเนียม ค้นพบก่อนหน้าเรเดียมอีก แต่กว่าจะมีคนแยกธาตุนั้นมาได้ก็ปาไปยุค 40 และขณะนั้น เรเดียมน่าสนใจกว่า

ถ้าในรูปก็กูรี

แต่ถ้านอกรูปก็ สตีเฟน ฮอว์กิง เพราะชีวิตไปสุดจนไม่มีใครทำได้แบบเขาอีกแล้ว เสียดายอยู่ไม่ทันได้โนเบลสาขาฟิสิกส์
รองลงมาก็ อาร์คิมิดิส ยังกับคนนั่งไทม์แมชชีนมากรีกโบราณ