ถ้าต่อต้านไม่ได้ก็จงเข้าร่วม
ติดต่อกับเมกาแบบลับๆ
เหยียบเรือสองแคมเพื่อเอาตัวรอด

ญี่ปุ่นมันจะรีบไปตีมาลายา กับ พม่า จะเสียเวลาที่ไทยไม่ได้

ปัจจุบันไทยมีนายพลทหาร 3,274 คน อัตราการเติบโตประมาณ 130% ภายในเวลา 10 ปี หรือปีละ 9%
บทความ”นายพลว่างงาน”เคยนำเสนอว่าไทยมีศาสตราจารย์น้อยกว่านายพล จึงควรอัพเดตเช่นกัน ปัจจุบันไทยมีศาสตราจารย์ทั้งหมด 1,146 คน (จำแนกประเภทเป็นศาสตราจารย์ 906 คน ศาสตราจารย์พิเศษ 122 คน ศาสตราจารย์ระดับซี 11 เดิม 118 คน) เทียบสัดส่วนจำนวนนายพลต่อศาสตราจารย์ 3 ต่อ 1
เปรียบเทียบกับสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นมหาอำนาจทางการทหาร สหรัฐอเมริกามีนายพล 906 คน และศาสตราจารย์ 188,518 คน ดังนั้นสหรัฐอเมริกามีสัดส่วนนายพลต่อศาสตราจารย์ 1 ต่อ 200
สรุปว่าสัดส่วนจำนวนนายพลต่อศาสตราจารย์ของไทยสูงถึง 600 เท่าของสหรัฐอเมริกา!
ทว่าไม่มีข้อมูลสาธารณะบ่งบอกว่านายพลเหล่านี้สังกัดกรมกองใด? จะเกษียณและย้ายออกจากค่ายทหารเมื่อไร?
นายพล Slow life อยู่ที่แห่งหนใด?

https://prachatai.com/journal/2024/01/107601

ไม่ได้คิดจะแตกหักตั้งแต่แรกแล้วครับ กำลังรบหลักๆ ก็ไม่ได้อยู่ใกล้จุดที่ญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกเลย

ที่ไปรบกับญี่ปุ่น มีแต่หน่วยรองๆ อาวุธก็ตามมีตามเกิด


สงครามอินโดจีนกับฝรั่งเศส ทำเอาไทย หมดกระสุนไปเยอะ

ญี่ปุ่น ยกกำลังมารอที่ไซง่อนหลายเดือน มองจากดาวอังคารก็รู้ว่า จะบุกต่อแน่ๆ


ไทยรีบส่งโทรเลขไปขออาวุธจากอเมริกากับอังกฤษเลย

อเมริกาไม่ให้

อังกฤษ บอกว่าจะให้ แต่ไม่ได้ให้มาจริงๆ


พอญี่ปุ่น ยกมาจริงๆ ตาแปลก ก็รีบออกต่างจังหวัด ไม่บอกใคร ทำเอาทั้งไทย ทั้งญี่ปุ่น งง เลย

ทูตญี่ปุ่นมายื่นข้อความ ขอให้ไทยยอมซะดีดี นายกไทย ดันหายตัว ทูตญี่ปุ่น งง กูจะคุยกับใครดี

ผมว่าเมกาอาจจะมองไม่ออก แต่อังกฤษน่าจะมองขาดแต่แรกแล้วมั้งครับว่าเราเข้ากับญปแน่ๆ

นโยบายขวาจัดขนาดนั้นเข้ากับญปไม่ยาก ส่งอาวุธไปสุดท้ายแล้วตกในมือญปไม่ก็ไทยบุกพม่า-มาเลย์-สิงคโปร์อยู่ดี ก็เลยเลือกจะปล่อยดีกว่า

เปล่าครับ

สมัยนั้น อเมริกามันไม่ไว้ใจไทย กลัวไทย เอาไปยิงหัวฝรั่งเศส


ส่วนอังกฤษ กรอบจริงๆ โดนเยอรมันถล่มเละที่ยุโรป แถมมีศึกติดพันที่แอฟริกาเหนือ ขนาดกองกำลังอังกฤษที่มาลายา ยังไม่ค่อยมีอาวุธหนักเลย

ผมว่าอาจจะยอมเสียภาคเหนือที่เป็นล้านนาเดิม ยกให้แลกกับไม่ให้ยึดกรุงเทพ

แล้วมานั่งปลอบใจกันในแบบเรียนประวัติศาสตร์ว่า ล้านนาไม่เคยเป็นของไทยเหมือนกับช่วงล่าอาณานิคม

เจอมหาอำนาจบุกก็ยอมไปเหอะครับ ไม่มีคนช่วยด้วย

อยากได้ไรก็มาคุยกัน ถึงขั้นนั้นเค้าอยากได้ไรก็ต้องให้หมดอะ

สู้ไปก็ตายเปล่า โอกาสชนะประมาณ0% น่าจะได้

เต็มที่ก็เป็นเมืองขึ้น ซึ่งสำหรับประเทศไทยแล้ว อาจจะไม่ได้แย่กว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ได้ เผลอๆจะดีกว่า

ไทยนี้รักสงบ แต่ตอนรบไม่มีใครยอมตายให้พวกมันหรอก

ผลขาดลอย

ถ้าไม่กดขี่กันเกินไปผมก็ยอมล่ะครับ ถ้าจับมายิงเป้า จับทดลองแบบพวกญี่ปุ่นยึดนานกิง ผมอย่างน้อยต้องเอาแม่งไปให้มากที่สุดอะ อยู่ไปก็ตาย ตายแบบชีวิตรันทดด้วย

อย่าไปเปนตัวแท๊งของเพื่อนๆส่งประชากรไปตายเป็นล้านแบบยูเครนก็พออย่างน้อย

ผมว่าทหารไทยขัดขืนพอเป็นพิธี เหมือนนางเอกหนัง AV

ทำไมผลมันตรงข้ามกับตอนยูเครนสู้


อย่างว่าเน้นเชียร์ไม่เน้นอยู่ในเหตุการณ์

ถ้ามานั่งคิดจริงๆ มันก็เครียดนะ
โดนแบบยูเครนโดนอ่ะ

มานั่งคิดว่าสนามข้างบ้านจะเป็นที่ฝังพ่อแม่เรา ญาติพี่น้องเรา ลูกเรา แฟนเรา หดหู่อ่ะ

แล้วเล่นฆ่ายกหมู่บ้านงี้
เลือดสุพรรณ บางระจันนี่ไกลตัวไปเลย
นี่เกิดขึ้นในยุค digital มีมือถือบันทึกภาพกันหมด
ถ้ามันเกิดแบบนั้นจริงๆ ไม่รู้หรอกว่าต้องทำไง
คงต้องหนีก่อน ไม่รักชาติหรอก
แต่ถ้าหนีไม่ได้ แล้วมาถึงปากประตูบ้าน
ก็ตายไปพร้อมๆ กันนี่แหละ