ดูผลงานแมนยูปีนี้ นึกถึงหลายๆทีมเลยครับ ที่เจอปัญหาเวลาต้องเตะฟุตบอลยุโรป แต่ทีมsquadดันมีขนาดเล็ก 

ส่วนเรื่องการสร้างทีม ถ้าบันไดมี5ขั้น แมนยูปีที่ผ่านมาน่าจะอยู่ขั้น2-3
1.รีบิ๊วใหม่หมด
2.เซ็ททรง
3.ทดลอง
4.ยกระดับ
5.เก็บเกี่ยวลุ้นแชมป์

แมนยูขึ้นๆลงๆ บันไดขั้น2และ3มาหลายปี ยิ่งถ้าทุ่มซื้อนักเตะแก่ ก็ต้องวนเวียนอยู่กับการซ่อมตำแหน่งเดิมๆ ทำให้นำเข้านักเตะใหม่ไม่เพียงพอ ที่จะใช้ลุยเตะโปรแกรมถี่ ผลคืออันดับในพรีเมียร์ลีกร่วง จากการใช้ตัวจริงลงทุกนัด

ตัวอย่างขุมกำลังนัดล่าสุด ตัวสำรองโล่งมากไม่น่าเชื่อ หวังว่าจะได้รับการแก้ไข

ถ้าไม่มีตัวเจ็บก็พอครับ
ในแง่ปริมาณนะ
แต่คุณภาพ ช่างแม่ง

ปัญหาที่มีอยู่ถ้าได้รับการแก้ไข ผลงานของทีมก็จะดีขึ้นครับ ลำดับแรกในการบริหารองค์กรต้องจัดการเรื่องเงินก่อน ค่าใช้จ่ายหลักของสโมสรคือค่าเหนื่อยนักเตะในทีม พอเคลียร์ตรงนี้ได้การเสริมทีมถึงจะเริ่มต่อจากตรงนั้นด้วยเหตุผลของกฏการเงิน

ลองฟังพี่โตแกพูดถึงปัญหาของ MUFC มันมีรายละเอียดสะสมมานาน ทีมบริหารชุดใหม่เพิ่งทำงานฤดูกาลแรกยังไงก็แก้ไขได้ไม่หมด ยังไม่รวมปัญหาใหม่ที่เพิ่มเข้ามา ยิ่งไปฟังวารานพูดถึงปัญหาที่กระทบกับนักเตะโดยตรงมันยิ่งเห็นภาพทั้งหมดของปัญหาที่กระทบกันไปหมด

แมนยู squad ไม่ได้เล็กหรอกครับ
แต่ตัวพร้อมใช้งานมันน้อยเกินไป
อย่างกองกลางตอนนี้ใช้ได้จริงๆมีแค่บรูโน่ อูกาเต้ เมนู
คาเซมิโร่ อิริคเซ่นพี่หนวดแกแทบไม่ใช้


ตอนนี้แมนยูไม่ได้อยู่2-3 ครับ แมนยูอยู่ที่สเตป 1 คือช่วงนี้รีเซ็ทอยู่
ทั้งแผน ทั้ง squad

เริ่มจากตลาดนี้แหละ คือปล่อยตัวไม่ใช้ออกไปสามสี่ตัวอย่างแรช แอนโทนี่ มาลาเซีย

ซัมเมอร์คงปล่อยคาเซมิโร่ อิริคเซ่น ลินเดอเลิฟ แล้วคงซื้อกองกลาง + กองหน้า + เบอร์ 10 + วิงแบ็ค

อย่างน้อยๆถ้าขายแรชได้ คงเป็นช่องว่างให้ซื้อตัวเพิ่มได้อีกเพียบ

แผนกาก บริหารคนกากต่อให้มีนักเตะให้เลือกเยอะกว่านี้ ผมว่าผลมันก็ไม่น่าต่างกันหรอก