ผมค่อนข้างเข้าใจนะว่าการที่แกไม่ค่อยเปลี่ยนตัวหลักออกหรือโรเตชั่นเท่าไหร่ เพราะการมาทำทีมต่อจากโคตรผู้จัดการทีมอย่าง Klopp มันก็กดดันพอสมควรอยู่แล้วแถมทีมที่มาคุมก็เป็นทีมที่แทบจะมีแฟนบอลมากที่สุดทีมนึงในโลกมันยิ่งทวีความกดดันขึ้นไปอีก ช่วงต้นฤดูกาลเลยเห็นแกพยายามที่จะไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงทีมเท่าไหร่ แกจะใช้ทีมเดิม ๆ เพื่อให้ได้ผลการแข่งขันที่ต้องการมาก่อน ไม่เน้นบุกแหลกเอาประตู แต่มาถึงตอนนี้ตัวจริงในแผนของ Slot เริ่มจะหมดแรง ออกอาการล้า และฟอร์มบางคนเริ่มตก เรียกได้ว่าตอนนี้ถึงจุดตัดของฤดูกาลของ Liverpoolกับตัว Slot เองแล้ว เราจะได้เห็นถึงความสามารถในการบริหารทีมจริง ๆ ของแกแล้วท ว่าแกจะเลือกยึดติดกับตัวจริงเดิม ๆ ของแกต่อไปหรือจะกล้าลองเปลี่ยนแปลงชุดตัวจริงในใจของแก และผ่าทีมให้กลับมาเข้าฟอร์มเหมือ่นช่วงต้นฤดูกาลได้อีกครั้ง แกจะเป็นแค่โค้ชธรรมดาหรือจะเป็นสุดยอดผู้จัดการทีมพวกเราน่าจะได้เห็นกันละ

เหมือนเจอคอมเม้นหนึ่ง พอมานั่งคิดก็เออหวะ


สล็อตและลูกทีมเราตอนนี้ส่วนใหญ่ ๋ไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน ๋๋ ไม่แปลกที่จะแกว่งๆกัน ซึ่งถ้าผ่านไปได้ จะติดลมบนยาวละทีนี้

แกน่าจะค่อย ๆ กำลังซึบซับความกดดันของพรีเมียลีกมากขึ้นเรื่อย ๆ ละในช่วงนี้ เรียกว่าฤดูกาลจริงก็ได้มั้งหลังปีใหม่ ขอดูหน่อยว่าจะบริหารช่วงเวลายากลำบากแบบนี้ยังไง

เอาจริง ๆ ถึงจะเซงกับฟอร์มทีมช่วงนี้ แต่ตอนนี้ผมยังตัดเกรด AS ให้สอบผ่านอยู่เหมือนเดิม ตอนแกเริ่มเข้ามาคุมทีม คือความคาดหวังที่มีต่อโค้ชใหม่ผมมองแค่แกพาทีมรักษาตำแหน่ง Top 4 กับไม่ตกรอบ UCL ไว (ซึ่งผมว่าหลายคนตอนนั้นก็หวังกันแค่นี้มั้ง ไม่นับคนที่แอนตี้นะ)

แต่ด้วยตำแหน่งจ่าฝูงกับผลงานใน UCL ตอนนี้มันไปเกินจุดที่ผมตั้งเกณฑ์ไว้สำหรับแกละ ตอนนี้แกมาไกลถึงการลุ้นแชมป์ สิ่งที่มองตอนนี้คือรักษาตำแหน่งจ่าฝูงให้ได้ ในสถานการณ์กดดันแบบนี้ ถ้าได้แชมป์จริงก็จะโคตรดีใจเลย ถ้าสุดท้ายพลาดขึ้นมาจบที่ 2-3 ก็เสียดายโคตร ๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้คิดว่า AS สอบตกอะไร เพราะตอนแรกเองก็ไม่ได้คิดถึงการเป็นแชมป์ด้วยซ้ำ

คือสำรองที่จะเอามาโรเตชั่นมันไม่ได้ดีทดแทนตัวจริงด้วย กองหลัง โจก็เจ็บเก่ง น้องขวัญก็เพิ่งจะกลับฝั่ง ชิมิคัสก็ผีเข้าผีออก กองกลาง ค.โจนส์ไม่สม่ำเสมอ จุกออกทะเล เอนโดสล็อทไม่ชอบใช้ กองหน้า หนูนก็กาชาปอง เคียซ่าก็ฟิตไม่สุดซักที

สล๊อตแรกๆไม่โรเตชั่น เพราะเกมยังไม่มาก แต่เริ่มหมุนตั้งแต่ ปลาย พ.ย. แล้วนะ จุดตัดจริงๆคือประสบการณ์การลุ้นแช้มป์และความกดดันในลีกนี่แหละที่กำลังเล่นงานสล๊อตและลูกทีม 2 นัดหลังนี่เห็นได้ชัดเลยว่า นักเตะไม่ค่อยกล้าเล่น กล้าเติม ครองบอลนานขึ้น เน้นการจ่ายบอลชัวร์ๆถึงออกบอล ขาดมายเซตในการเล่นกับจังหวะสองหรือจังหวะต่อไป ซึ่งมันทำให้คู่แข่งเริ่มทันกับเกมของหงส์แดง ผมได้แต่หวังว่า ความกดดันตรงนี้ มันจะหายไปเร็วๆ

ในลำดับแรก ใช่ครับ คิดแบบนี้เลยที่รู้ว่าได้ ผจก. คนใหม่เป็นใคร
แต่มาถึงตรงนี้แล้ว แต้มก็ยังนำอยู่ นักเตะก็ยังพอมีให้ใช้งาน
อยู่ที่กึ๋นแล้วละครับ ว่าจะประคองนัดที่เหลือยังไง ให้เข้าป้ายที่ 1 ให้ได้
อย่างน้อยๆ ก็ พรีเมียร์นี่แหละ ที่ต้องทำให้ได้จริงๆ
ให้สมกับที่พลีชีพนัดพลีมัธไป

ใช่ครับ ในสถานการณ์ปัจจุบันเป้าหมายของทีมมันไม่ใช่แค่ Top 4 ละ มันต้องรักษาตำแหน่งจ่าฝูงจนจบฤดูกาลให้ได้

แต่ส่วนการตัดเกรดผลงานสำหรับผม ถ้าตอนแรกตั้งโจทย์แค่ให้จบ top 4 แล้วจบ top 4 ได้สำหรับผมถือว่าสอบผ่านในส่วนนึงแล้ว แต่มีเรื่องที่ต้องแก้ไข กับปรับปรุงแน่นอน ที่ได้โอกาสนำจ่าฝูงแล้วรักษาตำแหน่งไม่ได้

การที่ผลงานดันดีมากเลยไปเพิ่มโจทย์ต้องเป็นแชมป์เท่านั้นแต่มีช่วงดร็อปพลาดแชมป์ไปฤดูกาลจบ 2-4 แล้วไปตัดเกรดบอกว่าไม่ผ่านนะแบบนี้ มันก็ดูน่าเกลียดไปหน่อย แต่เป็นเรื่องน่าผิดหวังแน่นอนนะถ้าไม่ได้แชมป์