อุ๊งอิ๊งมั่นใจปี68 GDP ขึ้นแน่นอน! ลั่น ถึงเวลาต้องคุยแบงก์ชาติจริงจัง
‘นายกฯ แพทองธาร’ มั่นใจ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 68 ทำ ‘จีดีพี’ ขยับขึ้นแน่นอน หลังปี 67 รั้งท้ายอาเซียน ลั่น ถึงเวลาต้องคุย ‘แบงก์ชาติ’ จริงจัง
ชี้ ทำเพียงหนึ่งอย่างไม่สามารถเกิดMiracle ทางเศรษฐกิจได้
วันที่ 18 ก.พ.68 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีนำคณะแถลงข่าว ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า จีดีพีไตรมาส 4 ปี 2567 เติบโตขึ้นเกือบทุกมิติ ส่วนการลงทุนภาคเอกชนหดตัว ปัจจัยสำคัญมาจาก SMEs ซึ่งมีสัดส่วนมากถึง 75% ของประเทศ และในธนาคารพาณิชย์ยังมีกำไรอยู่ มีการปล่อยสินเชื่อต่ำ ที่จะช่วยเหลือ SMEs ได้เป็นอย่างมาก เพราะในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา การพัฒนาธุรกิจต่างๆ ของภาคเอกชนลดน้อยลง บางอุตสาหกรรมเก่าไปแล้ว พอไม่ได้เงินสินเชื่อในการพัฒนา ก็มีปัญหา ภาครัฐจึงพยายามทำในทุกๆ เรื่องเพื่อสนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้เอกชนมีการลงทุนเพิ่มเติม จึงอยากให้ฝ่ายการเงิน-การคลัง ทำงานประสานกันอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น เพื่อจะตอบโจทย์ให้กับประชาชน ประโยชน์สูงสุดก็จะเกิดกับประชาชน
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า เงินเฟ้อตอนนี้ยังต่ำอยู่ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องช่วยกัน และในทุกๆ ส่วน มีส่วนสำคัญอย่างมาก จะทำอยู่เพียงฝั่งเดียวไม่ได้ ต้องช่วยกัน
เมื่อถามว่า สภาพัฒน์ฯระบุว่า ปี 68 จีดีพีจะโตแค่ 2.8 ต่ำกว่าที่รัฐบาลต้องการ 3-3.5 % รัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอะไรบ้าง นางสาวแพทองธารกล่าวว่า อย่างที่ได้บอกไป เรื่องของสินเชื่อ รัฐบาลต้องคุยกับธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อร่วมมือกัน เพราะสิ่งที่รัฐบาลพยายามจะทำ คือการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลายอย่าง เช่น เอกชนที่ทำอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ธุรกิจไม่ถูกพัฒนา สถานที่ต่างๆ ก็ยังไม่ถูกพัฒนา อย่างการลงพื้นที่ครั้งนี้รัฐมนตรีหลายคนไปหลายจังหวัดที่มีศักยภาพอย่างมาก และอย่างที่ตนย้ำว่า การท่องเที่ยวไม่จำเป็นต้องเป็นเมืองหลักอย่างเดียว เมืองรองก็สำคัญมากเช่นกัน ดังนั้นก็เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องทำต่อ นอกจากการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวแล้ว การกระตุ้นเศรษฐกิจ ภาคเอกชนต้องดูด้วยว่า ก่อนที่จะลงทุนเพิ่ม ในระบบทำได้อย่างไรบ้าง ก็ต้องย้อนกลับมาในเรื่องของนโยบายทางการเงิน
เมื่อถามว่า หากดูในภาพรวมจีดีพี ปี 2567 ของไทย ถือว่ารั้งท้ายในกลุ่มอาเซียน จากมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลจะออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ จะทำให้ตัวเลขจีดีพีสามารถขยับขึ้นได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า กระทรวงการคลังตั้งเป้าไว้ที่ 3% และจะพยายามดันให้ถึง 3.5% เพราะฉะนั้น มั่นใจว่า เดือนที่เหลือของปี 2568 จะผลักดันกันอย่างเต็มที่ รวมถึงการพูดคุยกับธนาคารพาณิชย์และธนาคารแห่งประเทศไทย คือสิ่งที่สำคัญที่จะต้องร่วมมือกันจริงๆ แล้ว
เมื่อถามว่า ปัจจัยกระตุ้นจีดีพี นอกจากเรื่องของการท่องเที่ยว ยังมีเรื่องใดอีกบ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องการลงทุน ตนก็ได้ไปพบกับหลายประเทศเพื่อดึงการลงทุนจากต่างประเทศ
“หากถามว่าเศรษฐกิจแย่ ก็แย่มาเป็นพักใหญ่แล้ว เพราะฉะนั้นการผลักดันจากทุกส่วนสำคัญมาก เราไม่สามารถจะทำเพียงหนึ่งอย่าง แล้วจะเกิดเรื่องMiracle (มหัศจรรย์) เศรษฐกิจดีทันที ดังนั้นรัฐบาลจึงไม่ได้ออกมาแค่หนึ่งนโยบายเพื่อกระตุ้นจีดีพี เราทุกกระทรวงต้องทำเช่นกัน รวมถึงเอกชนต้องช่วยด้วย เพราะไม่ใช่ปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้หรือปีสองปีที่แล้ว แต่เกิดขึ้นเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน จึงต้องช่วยกันทุกฝ่าย”
เมื่อถามว่า จากการลงพื้นที่ พบว่าหลายจังหวัดมีศักยภาพจะต้องกำชับหรือกระตุ้นผู้ว่าราชการจังหวัดอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การที่เราไปเจอแต่ละจังหวัด ก็ช่วยได้มาก ในส่วนของท้องถิ่นเองเราก็ไปพูดคุยว่า จบได้ด้วยตัวท้องถิ่นเองบางพื้นที่ก็แก้ปัญหาได้ในท้องถิ่น ที่จริงแล้วผู้ว่าฯ ในทุกจังหวัดมีความพร้อมมากในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายกรัฐมนตรีกล่าวทิ้งท้ายว่า การลงพื้นที่เพื่อติดตามนโยบายต่างๆของภาคใต้จะผลักดันเต็มที่ และประชาชนที่ได้พบเจอขอให้สบายใจว่ารัฐบาลกำลังทำทุกอย่างเต็มที่ ร่วมมือกับทุกฝ่าย เพื่อผลักดัน เศรษฐกิจ ไปพร้อมกัน