บอกหน่อยสิ โรงบาลไหนที่ใหญ่

รังนิคมันอยากเป็นไดเรกเตอร์
แต่ทีมดันให้คุมทีม

ผมมองว่า รังนิคอยากได้เงินจาก%การซื้อขาย
ไม่ได้ชอบคุมทีมข้างสนาม

ตรงนี้น่าจะแย่งกันหนัก
ในการแย่งอำนาจในการตัดสินใจ
จริงๆอยากรู้ลึกๆนะ การเมืองข้างใน
มันต้องมีอยู่ละ ผลประโยชน์ขนาดนี้

ผมว่าที่ผีแป๊กในการซื้อตัวนักเตะมาตลอด
ในหลายปีหลัง มันต้องมีพวกที่ไม่สนใจฟุตบอล
แต่ดันมีอำนาจตัดสินใจ

บอร์ด 45%โค้ชมีส่วน 45% นักเตะ10%

รังนิคก็ไม่ได้ดีอะไรเลย ฝึมือคุมทีมรวมๆตลอดอาชีพก็ไม่ได้โดดเด่นมาก ดีแต่โยนความผิดให้คนอื่น

ประเด็น คือ ทำยังไง ผ่ายังไง ไม่เคยมีการลงรายละเอียด เห็นนักวิจารณ์​ชอบบอกต้องเสริมทีมใหม่ 7-8 ตัว หลายปีมานี้ เสริมไป 50-60 ตัว ไม่เห็นจะดีขึ้น แล้วผ่าตัดทีมคือยังไง ปล่อยนักเตะไวรัสไป แล้วไงต่อ ปล่อยค่าเหนื่อยแพงแล้วไงต่อ

ผมให้บอร์ดรวมกับนักเตะ 80% เลย มีที่ไหนซื้อตัวเกินราคาจริง

นักเตะก็ชอบงอแงกับโค้ช ยังไม่เคยเห็นทีมใหญ่ทีมไหน นักเตะอยากเลือกระบบเอง

จะผ่าตัดก็ควรเลือกหมอที่มีประสบการณ์สูงๆมาผ่า มีให้เลือกเยอะแยะ

ดันให้โอกาสหมอใหม่มาผ่า คนแรกผ่าผิดแต่ยังปิดแผลได้

ยังจะไปเอาหมอใหม่มาผ่าซ้ำเข้าไปอีก บรรลัยเลยเจอหมอหัวดื้อหลัง 3 เข้าไป

แล้วนี่ยังไม่ผ่าตัดอีกหรอ บอร์ดก็ได้ใหม่ โค้ชก็ใหม่มากี่คนแล้ว นักเตะก็แทบจะยกชุดละ

อันนี้ไม่ใช่ว่านักเตะชุดใหม่เกือบหมดแล้วหรอครับ ตัวเก่าๆที่มองเป็นไวรัสก็ออกไปเยอะแล้วไม่ใช่เหรอครับ

ผมว่าประเด็นมันคือผู้จัดการที่รวมใจได้มากกว่า ไอ้เรื่องผู้เล่นต้องผ่องถ่ายอันนี้มันเป็นไปตาม Step ของมันครับ

แฟนบอลรอไม่ได้หรอกถ้าต้องแก้ไขระดับนั้น คำถามที่ถามกันมากคือถ้าเก่งจริงต้องจัดการทรัพยากรได้ไม่ใช่จะเอาตามใจตัวเองทุกอย่าง ซึ่งก็เห็นกันแล้วว่านักเตะที่มีชื่อเสียงมันเกินฝีเท้าขนาดไหน จะให้เล่นตามปรัชญาโค้ชแม่งก็งอแงจะเล่นในแบบที่ตัวเองถนัด

ปัญหาที่แฟนบอลเห็นคือผลงานในสนามแต่ในด้านการบริหารเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามันมีปัญหาอะไรกันแน่ เหตุผลเดียวที่เห็นในการเลือกอโมริมคือการเปลี่ยนแนวทางการเล่นของทีม แต่ถ้าสุดท้ายไล่อโมริมแล้วเอาโค้ช Direct มาคุมแสดงว่าบอร์ดทำงานผิดพลาด