lส่วนตัวมองว่าดี มีหมอเพิ่มขึ้นยังไงก็ดีกว่า หรือทำงานวิจัยได้งานดีๆ ออกมาก็เป็นประโยชน์กับสังคม สุดท้ายปลายทางเค้าไปต่อยังไงก็สุดแล้วแต่น้องๆ เขา
หมอก็แค่อาชีพนึง เงินเรียนก็เงินของครอบครัวเขาเอง ถ้าเขาผิดสัญญา เขาก็ชดใช้ตามสัญญา ไอ้ mild set ที่ว่าหมอต้องเสียสละ หรืออยากให้เป็นยังไงนั้น ไปเรียนเองหรือกล่อมให้ลูกหลานตัวเองทำก็ได้
อยากให้หมออยู่ในระบบ เงินน้อยๆ ทุกวันนี้ก็ยังโพสด่าห้องฉุกเฉิน กินเหล้าสูบบุหรี่กันไม่เลิก ยิ่งเรือ่งฟ้องร้อง ฟ้องกันทีเอาแบบทำงาน 10ปีมาจ่ายยังไม่หมดสมัยนี้หนักกว่าสมัยก่อนเยอะ มีบางคนอีกนะบอกอยากเลือกเป็นหมอเองต้องทน อ้าว แล้วทำไมต้องทนด้วย
เรื่องระบบ ต้องไปโทษระบบรัฐที่มันดึงคนไว้ไม่ได้ แก้ปัญหาโง่ๆ มาเป็นสิบปี เอาแต่ผลิตก็เห็นอยู่ว่ามันแก้ไม่ได้ แทนที่จะทำให้สวัสดิการเค้าดีขึ้น จัดระบบดีๆ ไม่เคยมี
ยินดีกับน้องๆ ที่เรียนจบครับ อยากบอกว่าเดี๋ยวนี้มันมีทางเลือกดีๆ อีกเยอะ น้องๆ เดี๋ยวนี้เค้ามองการไปเมืองนอก ไปเรียน สอบต่อเฉพาะทางกันเมืองนอกเยอะเลย เงินเดือนปีมากกว่าพี่ๆ ทำงานทีละ 4-5 ปี เคสน้อยกว่ากันแบบ70-80% เป็นตัวคุณ เป็นลูกหลานคุณ จะเลือกแบบไหน ถามใจตัวเองดู

มีปัญญาจ่ายค่าเทอมขนาดนี้ ไม่ทำงานก็มีกินมีใช้

ต่อให้ไปเป็นหมอเอกชน หรือเสริมสวย ก็คิดซะว่าลดโควต้าที่จะดึงหมอรักษาคนให้ออกจากระบบน้อยลงละกัน

ไทยแลนด์แดนอคติ

ผมว่าก็ดีนะ ไม่ได้เสียหายอะไร มีบุคลากรเยอะๆ จะไปทำงานรัฐบาลหรือเอกชนก็แล้วแต่เขา ก็ไปตอบโจทย์กับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย

มหาลัยในเครือพระจอมก็เป็นมหาลัยใหญ่มีองค์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์พื้นฐานยอดเยี่ยมอยู่แล้ว ปูทางไปเริ่มต้นทางแพทย์ได้

แพทย์ไทย 1 คนต่อประชากร 1680 คนครับ

อย่างเกาหลีใต้ ประเทศที่เจริญแล้ว เขาต้องมีอัตราหมอ 3.7 คนต่อประชากร 1000 คน แต่ตอนนี้เขาเหลือ 2.6 คนต่อประชากร 1000 ครับ

(ที่มาจากที่ผมฟัง scoop viewfinder ep อะไรยังไง the Trauma code)

อุ้ยมีคนมั่วกับพรวดด้วยแหละ