กระแสสังคมมี 2 ฝั่ง
1. เชื่อว่าคนบนเรือ/เจ้าหน้าที่บริสุทธิ์ เชื่อในพยานหลักฐานและการทำงานของเจ้าหน้าที่ในคดีหลัก และศาลชั้นต้นในคดีหลักตัดสินถูกแล้ว (ซึ่งในศาลเค้าเปิดหลักฐานอะไรกันบ้าง ถึงทำให้ศาลเชื่ออย่างนั้น เราไม่รู้)

2. เชื่อว่าคนบนเรือ/เจ้าหน้าที่ไม่บริสุทธิ์ มีการสร้างพยานหลักฐานเท็จ ทำคดีแบบตั้งธงไปสู่คดีประมาท ซึ่งผิดหลักการทำงานที่ต้องตั้งธงใหญ่ไว้ก่อน(คดีฆาตกรรม) แล้วค่อนตัดความเป็นไปไม่ได้ออก จนเหลือคดีที่เล็กกว่า และที่ศาลชั้นต้นตัดสิน เพราะ ฟ้องเรื่องประมาท+ยา+พรบ.เรือ ซึ่งศาลก็ตัดสินตามนั้นก็ถูกแล้ว << แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสงสัยถูกคลี่คลายเพราะ เค้ามองว่ามันผิดตั้งแต่ต้นทาง

ข้อเท็จจริงคือที่คนบนเรือโดนศาลตัดสินจำคุก เค้าโดนเรื่อง ยา+พรบ.เรือ แม้แต่เรื่องประมาททำให้ผู้อื่นตายก็ไม่ได้โดนตัดสินเรื่องนี้ https://www.thaipbs.or.th/news/content/327588 หรือก็คือศาลไม่ได้บอกว่า ประมาทหรือไม่ประมาท แต่พวกคนบนเรือผิดเรื่องยา+พรบ.เรือ

ทีนี้ ผมมองว่าความเห็นที่สุดโต่งของทั้งสองฝั่ง มันดูโง่ทั้งคู่เลย ทั้งคนที่ปักใจเชื่อว่าฆาตกรรมไปโยงคนั้นคนนี้ และคนที่ปักใจเชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุโดยไม่สงสัยถึงความไม่ชอบมาพากลของเจ้าหน้าที่และคนบนเรือ

เหตุที่ผมคิดว่าคนที่ปักใจเชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุก็โง่ด้วย(จริงๆอาจต้องบอกว่าประสิทธิภาพของสมองอาจจะต่ำกว่าปกติ) เพราะในสมองของเราจริงๆแล้วไม่ได้ใช้หลักเหตุผลนะครับ แต่อารมณ์เกิดก่อนและหาคำอธิบายทางเหตุผลทีหลัง คนเหล่านี้อาจมีปัญหาในสมองบางส่วน เช่น เราใช้ Mirror Neuron ในการสงสัยต่อคำโกหก, Anterior Temporal Lobe ในการยึดโยงกับสังคม(ไม่ผ่าเหล่า) หรือ Prefrontal Cortex ในการเข้าใจมุมมองของคนอื่น << ลองไปหาหมอดูบ้างก็ดีนะครับ สมองส่วนพวกนี้มันสร้างทีหลัง พสกคุณอาจจะถูกเลี้ยงดูมาไม่ดีเท่าไหร่นัก

นอกจากคนสุดโต่งของทั้งสองฝั่งจะดูโง่แล้ว ผมว่าคนที่เอาความเห็นสุดโต่งของแต่ละฝั่ง มาสนับสนุนความเชื่อตัวเองก็โง่ไม่แพ้กันครับ ไม่ว่าคนที่ไปบอกว่า โง่ไปเชื่อได้ไงว่าดาราฉี่ท้ายเรือ หรือ โง่ไปเชื่อบังแจ็คได้ไง

รวมถึงการเอาชื่อเค้ามาแปลงให้คำมันดูต่ำต้อยขึ้นก็แสดงถึงความมีปัญหาของสมองเช่นกันครับ เช่น อัจฉริยะ>อูฐ, ปานเทพ>ปานเท เพราะถ้ามีปัญญาจะไปด้อยค่าข้อมูลเค้าจะได้เรื่องกว่า

คนฉลาดต้องสงสัยแต่ไม่ผลีผลามและด่วนตัดสินใจครับ
 

มโน หรือปิดหูปิดตาไม่รับฟังข้อเท็จจริง  

ข้อเท็จจริง ก็ หลักฐานไง ถึงทุกวันนี้ว่าตามหลักฐาน แตงโมตกเรือ โดนใบพัดเรือ นี่เลยถ้าไม่ปิดหูผิดตา นี่ละข้อเท้จจริงว่าตามหลักฐานล้วนๆ  

ผมว่าเขาก็แย้งอยู่นะ ว่ารอยแผลที่ขามันไม่ใช่ลักษณะใบพัดเรือ ถ้าโดนใบพัดเรือจะมีลักษณะแบบไหน  

ก็ถึงบอกไง มโนกันไปเรื่อย ผลชันสูตร ก็ไม่เชื่อ หลักฐานก็ไม่เชื่อ แต่ไปเชื่อคนหิวแสง ไปหาว่ารูปภาพตัดต่อทั่งๆที่ผู่เชียวชาญหลายคนบอกไม่ตัดต่อ จนตอนนี้ในเฟสมีแต่ภาพแต่ง จะให้เป็นฆาตกรรมสนองความเป็นโคนัน  

ก็ถึงบอกไง มโนกันไปเรื่อย ผลชันสูตร ก็ไม่เชื่อ หลักฐานก็ไม่เชื่อ แต่ไปเชื่อคนหิวแสง ไปหาว่ารูปภาพตัดต่อทั่งๆที่ผู่เชียวชาญหลายคนบอกไม่ตัดต่อ จนตอนนี้ในเฟสมีแต่ภาพแต่ง จะให้เป็นฆาตกรรมสนองความเป็นโคนัน  

ส่วนตัวเลย เอาแค่ว่า

- นั่งฉี่กาบเรือ โดยจับขาผช.อีกคน ขณะที่เรือแล่นอยู่

มันไม่ปกติอย่างมากกับคำให้การนี้

ถ้าอันนี้โกหก จะโกหกเพื่ออะไร แล้วมีอะไรที่ปกปิดไว้อีก  

ฉี่ท้ายเรือ ผมก็มองว่าไม่จริง เรื่องจริงคงจะเมายาแล้วก็ผลักกันตกเรือมากกว่า แต่ก็ต้องให้การว่าแตงโมประมาทเอง จะได้โดนโทษน้อยๆ

ผมว่าเรื่องจริงมันไม่เกินนี้หรอก ส่วนไอ้พวกที่มโนโยงการฆาตกรรม คนใหญ่คนโตพัวพัน ฆ่ามา 2 วันแล้วเอาศพไปจัดฉาก

พวกนี้ถ้าไม่หิวแสงจัดๆ ก็มโนกันไปเรื่อย  

คิดแค่นี้ตื้นไป


ถ้าเรื่องเป็นแค่นี้จริง

ไม่ว่าจะ เล่นกันผลักกันตกน้ำตาย หรือ เล่นยาแล้วไม่มีสติแล้วแตงโมตกน้ำ


อะไรพวกนี้ แล้วคดีเป็นคดีระดับเกือบใหญ่สุดของประเทศในรอบ10ปีเลยมั้ง


มันไม่น่ามีคนกล้ามาช่วยไอคนบนเรือขนาดนี้ เพราะนี่คนบนเรือไม่ใช่เส้นสายใหญ่ขนาดนั้นเลย




แล้วเรื่องผิดปกติต่างๆมันเกิดมาได้ไงอะ พิรุจของการตรวจนี่มี10 20ข้อ คนใหญ่คนโตมาแทรกกันเต็ม