ปกติเวลาพ่อแม่กลับมาจากต่างประเทศก็ต้องพาไปกิน เค้าอยากกิน อย่างน้อย 2-3 ครั้ง ช่วงระยะ 1-2 เดือน แต่ช่วงหลัง ๆ มานี้มันแพงเกินไป แล้วเค้ากินแค่ผัก ปลา กุ้ง ไม่กินหมู ผมเลยพวกินอย่างอื่น ๆ แทน พวกชาบู สุกี้ต่าง ๆ พอไปกินเค้าก็เริ่มเปลี่ยน ตอนนี้แทบไม่ไป mk แล้วครับ จ่ายแพงพอ ๆ กับไปกินที่อื่น 3 ครั้ง

กินนีโอ กินเรือนเพชร กินชาบู OK แทน

แบบนี้นับว่า คนละตลาดไหม

มันก็คนละตลาดนะ

ถ้าเข้าใจเรื่องพวกการตลาดไรงี้ จะเข้าใจครับว่ามันคนละตลาด ยกตัวอย่างรถยนต์ก็ได้ BENZกับToyotaในบ้านเราก็คนละตลาด แต่ก็มีการดึงลูกค้าหรือดึงส่วนแบ่งตลาดกันอยู่บ้าง อาจมีProduct บางตัวที่อยู่ในsegment ใกล้กันหรือราคาใกล้กัน แต่Brand position ก็ยังต่างกัน

จริงๆที่ยอดMKตกมันไม่ใช่เพราะตี๋น้อยมาแข่งอย่างเดียวครับ แต่มันมีหลายๆBrandเลยล่ะที่มาแบ่งเค้กไป ซึ่งBrandเหล่านั้นเขาก็ไม่ได้เจาะตลาดเดียวกับตี๋น้อยด้วยครับ(พวกร้านชาบูหรือสุกี้บุฟหัวละ500-600+)
ถ้าให้แยก ตี๋น้อยก็ประมาณเจาะตลาดกลุ่มตลาดล่างถึงกลาง Mkเจาะกลุ่มตลาดกลางถึงบน ประมาณนี้ครับ มันจะมีจุดซ้อนทับคือกลุ่มตลาดกลาง คือเมื่อก่อนMKเขาครองตลาดได้เพราะคู่แข่งไม่เยอะขนาดนี้ แต่ปัจจุบันคู่แข่งเจอะมากยอดตกก็เป็นธรรมดา


ปล.คำว่าตลาดล่างในที่นี้ไม่ใช่คำด่านะครับ

ผมงงว่าทำไมผู้บริหารmk บริหารได้แปลกๆของกากราคาแพง
แล้วบอกครัวกลางทำแพงผมว่าเหตุผลนี้มันไม่ใช่หละมีแต่ทำครัวกลางลดต้นทุนทำครัวกลางแล้วต้นทุนแพงนี่ไม่ใช่หละแถมของกากลงอีก

จะทำตลาดก็เลือกบุฟโปรหมูนี่ก็กะเอามาชนตี๋น้อยแต่ทำเงื่อนไขงงๆ อะไรที่ทำลูกค้าคิดเยอะพังหมด
จะตั้งขายแพงก็ไม่ได้ของไม่ถึง positionมั่วซั่วไปหมด
เมนูเดี๋ยวนี้ก็เยอะเกิน ไม่รู้ทำไปเพราะบริหารวัตถุดิบหรือตั้งใจ ตั้งใจก็ต้องสตอคของเพิ่ม

จริงๆmkถ้าไปแก้ให้ของสมราคาก็น่าจะดึงคนกลับได้เพราะทุกคนพูดเหมือนกันหมดแพงและกาก

1. ปัญหา MK สะท้อนหลายปัญหา
เช่น การบริหารของ MK การปรับตัวช้า การหลุดโฟกัส รวมถึงกลุ่มทุนเทา การพนันออนไลน์ ฟอกเงิน และเงินในกระเป๋าประชาชน

2. MK ในรุ่นผู้ก่อตั้งและที่จ้างมาบริหาร เน้นกลุ่มครอบครัว มากันเป็นกลุ่ม GenY GenX Babybommer

แต่ช่วงหลังการบริหารน่าจะมีการเปลี่ยนถ่าย แล้วหลุด core ในจุดนี้ (อันนี้ชัดเจน โฆษณา หรือแคมเปญที่ส่งเสริมจุดนี้หายไปนานมากแล้ว)

3. MK ในรุ่นนี้ ยังลองผิดลองถูก เมาหมัดจากโควิดอยู่เลย แต่ก็เหนื่อยจริง

4.และกลุ่มฟอกเงิน ก็หันมาเปิดร้านอาหารปานกลางถึงหรู ปักษ์ใต้หรู หมูกะทะ ชาบู บุฟเฟต์ คาเฟ่ ผับ บาร์ กันเต็มไปหมด

เปิดขาดทุนเดือนละ1-3ล้านต่อสาขา ก็เปิดกันชิลๆ

ตลาดมันก็เหลื่อมๆกันอยู่นั่นแหละ จะเดือดกันทำไมงง ผมเองจากแต่ก่อน MK 100% ตอนนี้ก็ตี๋น้อยบ้าง ลัคกี้บ้าง โมโม่บ้าง มันมีคนที่ย้ายมากินตี๋น้อยจริง แล้วก็มีคนที่ยังไงก็ไม่กินตี๋น้อยแน่ๆ ถ้าดูจากแอคชั่นของ MK ก็แสดงว่ามีคนย้ายไปตลาดที่ราคาถูกลงเยอะพอสมควร MK เลยต้องมาเล่นด้วย แต่จะยึดตำราว่าคนละตลาดแล้วก็ปล่อยตัวเองเจ๊งไป หรือจะดูของจริงแล้วปรับตัวเอา แต่แน่นอนตัวดึงลูกค้าจาก MK ก็มีอีกหลายเจ้า แต่ก้างใหญ่สุดตอนนี้ก็คือตี๋น้อยแน่นอน ผลประกอบการไม่หลอกใครหรอก

เคยดูในยูทูปอยู่ครับ พอเข้าใจว่าครัวกลางแบบนี้ต้นทุนสูง ประเด็นคือวัตถุดิบจากครัวกลาง MK ถือว่ามีคุณภาพสูงกว่าตี๋น้อยหรือเปล่า ถ้าใช่ก็เข้าใจได้ที่ขายแพง ถ้าไม่ใช่ก็แสดงว่าการทำครัวกลางแบบนี้ไม่ได้ทำให้วัตถุดิบคุณภาพดีขึ้นก็ถือเป็นการแบกต้นทุนทำให้สู้คู่แข่งในตลาดยาก

ผม้ข้าใจที่ท่านสื่อนะ แต่ยก benz กับ toyota มาเนี่ย ผมว่าอาจจะคนละเคสนะครับ เพราะ 1 สินค้ารถยนต์เป็นสินค้าชิ้นใหญ่ที่ลูกค้าไม่ได้เปลี่ยนบ่อยๆ แบบอาหารที่มีคู่แข่งพร้อมแชร์เงินในกระเป๋าอยู่ตลอดเวลา กับ 2 benz เนี่ยเขามีกลุ่มลูกค้าเขาอยู่แล้วเขาไม่ได้แคร์อะไรกับโตโยต้าด้วย เพราะถึงจะราคาสูงกว่า คนก็พร้อมจ่าย แล้วเขาก็ไม่จำเป็นต้องลดราคาลงมาเท่าโตโยเพื่อแข่งด้วย ส่วนเคสสุกี้เนี่ย ถ้าในอดีตอะผมมองว่าคนละตลาดจริงเพราะเขาแทบไม่ต้องลงทุนทำไรเพิ่ม ไม่ต้องลดราคา คนก็มากิน แต่ปัจจุบันนี้ธุรกิจมันไปไว อะไรที่คิดว่าคนละกลุ่มลูกค้าอาจใช้ไม่ได้แล้วครับ เพราะมีสินค้าที่คุณภาพใกล้เคียงกันในราคาที่คุ้มค่ากว่ามาแข่งกันแย่งเงินในกระเป๋าลูกค้า ตัวเลขผลประกอบการ รวมถึงตัวเลขคนในร้าน บวกกับการต้องลงมาเล่นตลาดเดีญวกันกับตี๋น้อยหรือสุกี้บุฟเฟต์เจ้าอื่นผมมองว่านี่คือสัญญาณที่้เขาไม่ได้มองว่าตัวเองอยู่คนละตลาดโดยสิ้นเชิงแล้วครับ เพราะถ้าคุณมั่นใจว่าคุณคนละตลาดจริง ไม่ต้องเสียเวลาขยายตลาดลงมาเล่นตลาดที่มาร์จิ้นต่ำกว่าก็อยู่ได้ คนพร้อมจ่ายมีอีกเยอะ ไม่จำกัดว่าต้องเป็นคนแก่ครับ

งั้นก็ต้องถามคนกินเอ็มเคกลับว่าถ้ามันตลาดเดียวกันละทำไมอะ รู้สึกว่าโดนดูถูกเหรอที่ต้องโดนลดระดับ ถถถถถถ

Benz BMW เขาก็ทำตัวล่างมาจับตลาดที่ต่ำลงด้วยครับ เช่นA200หรือBMW series2 มันไม่ใช่เป้าหมายหลักแต่เป็นการขยายตลาดครับ ส่วนMKผมมองว่าเขาก็ต้องการขยายตลาด เพราะกลุ่มลูกค้าบนเขาค่อยๆหายไปครับ กลุ่มตลาดกลางที่ปัจจุบันเป็นกลุ่มขนาดใหญ่มาก เขาต้องโฟกัสกลุ่มนี้มากขึ้น เขาถึงต้องเล่นครับ(จริงๆMKก็ทำบุฟมานานแล้ว) ไม่ใช่ว่าเขาลงมาเพื่อแข่งตี๋น้อยขนาดนั้นครับ เขาแข่งในตลาดนี้อยู่แล้ว เพียงแค่มันมีจุดร่วมกันกับตี๋น้อยบ้าง แต่ในทางการตลาดเวลาวางpositionเขาจะไม่นับว่า2Brandนี้อยู่ตลาดเดียวกันครับ

สูงกว่าสิครับ ช่องที่ผมดูช่องBoomTharis เค้าบอกเลยว่าวัตถุดิบที่ใช้ คัดเกรดผู้ผลิต ผักก้มีการตรวจคุณภาพ ถ้าไม่ผ่าน คือ โละทิ้งทั้งชุด

ตลาดทับซ้อนกันบางส่วน

ตี๋น้อยทำให้ผู้บริโภคสุกี้ตาสว่าง มันเกรดพอกันแต่ทำไมถูกกว่า

เคยไปกิน mk อยู่นะ นอกจากเป็ด ไม่เห็นจะมีอะไรอร่อยสมราคาเลย

อย่าว่าแต่ตี๋น้อยเลยครับ มันแพงจนผมคิดว่าถ้าจะกินสุกี้ไม่บุฟเนี่ย neo suki ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ใช้ได้โคตรๆเลยครับ กินเสร็จมีเงินเหลือไปกินของหวานชิวๆ แล้วเข้าซุปเปอร์มาเก็ตซื้อของกลับบ้านได้อีก