https://www.facebook.com/groups/Nexups/posts/3713727462198502/

อันนี้ ceo คนไทยเดิมออกมาชี้แจง ผ่าน fb



รวมถึงมีคอมเม้นที่สรุปความน่าจะเป็นมา



เท่าที่ผมเข้าใจคือก่อนหน้านี้ deva สั่งของจากจีนมาขาย โดยเน้น vga ของ colorful เป็นหลักก็ทำกำไรส่วนต่างได้เรื่อยๆ

แล้วทุนจีน ipason มาสนใจขอเทคร่วมทุน

ceo deva เดิมที่เป็นคนไทยจึงสนใจเพราะ ipason กับ colorful ในจีนก็เป็นพาร์ทเนอร์กันอยู่ จึงกลายเป็น deva ipason ในไทย

ceo คนไทยหวังไว้ว่าหลังจากโดนบริษัทใหญ่เทคแล้ว น่าจะสั่งของในราคาต้นทุนที่ถูกลงแน่ๆ จะทำกำไรได้มากขึ้น

แต่กลายเป็นว่าหลังโดนเทค บริษัทแม่ในจีนดันขึ้นราคาของที่ส่งให้ทำให้ต้นทุนที่รับมาแพงกว่าเดิม ทำให้ต้องขายแพงกว่าเดิม

รวมถึงทางบริษัทแม่ ipason จากจีน ยังส่งสินค้าตรงจากโรงงานลงมาขายผ่านช่องทางออนไลน์ ตัดราคา dealer ตัวเองอีกด้วย

ทีนี้เลยเกิดปัญหาภายในบริษัท deva ipason จน ceo เดิมคนไทยโดนบีบให้ออกจากบริษัทตัวเอง กลายเป็นทุนจีนบริหารเอง 100%

จากจุดเด่นที่ต่างจากเจ้าอื่นคือ คุณภาพโอเค ราคาถูก ประกันดี กลายเป็นราคาพอๆ กับ dealer ใหญ่ในตลาด

แต่คุณภาพสินค้าแย่ลง ประกันก็เคลมยากขึ้น สุดท้ายเลยล้มละลายไปภายในเวลาแค่ 10 เดือนหลังโดนเทคโอเวอร์

ผมเข้าใจถูกมั้ยครับ

กาดจอผม 3080 ของ colorful งานอย่างดี ราคาไม่แรง
deva ตอนแรกก็ถูกดี แนะนำคนใช้ก็เยอะ หลังๆแปลกๆเหมือนกัน ทั้งราคา ทั้งเรื่องประกันนี่ละ หลังจากนั้นจะซื้อของไอที ต้องศึกษาด้วยประกันเจ้าไหน

เรื่องจีนเหลี่ยมใส่นี่ผมว่าโคตรปกติ ดีลกับจีนไม่มีคำว่าซื่อสัตย์อยู่แล้ว mindset เขาเป็นแบบนี้แต่ไหนแต่ไร

ถ้าสมมติเขาเห็นว่าสามารถเอาเพิ่มได้เขาเอาหมดเพราะยังไงเราเป็นซาปั้วะต้องง้อเขาอยู่ละ

ได้แต่ทำใจแหละ

เหมือนคุ้นๆว่า

พอร่วมทุน

ฝั่งบริษัทแม่ ขายราคาปลีก ? ให้ซะงั้น

กลายเป็นแทนที่จะรับถูกขายแพง

เป็นรับแพงขายเท่าทุน ไม่มีกำไร เจ๊ง

บริษัทแม่เหมือนมาเอาไว้ระบายของ

แล้วไปพึ่งความสามารถในการขายเอา

ขายไปขายมา ไม่มีกำไร

โหดชิบ

ท่าปกติของบริษัทจีน

บริษัทขายเครื่องมือแพทย์ที่รู้จักก็เจอลักษณะนี้ ตอนแรกให้สิทธิ์ Distributor ของไทยมาทำตลาด พอเริ่มขายได้ market share เริ่มมียอดจากไม่เกิน 2 ลบ. เพิ่มมาเป็น 60 ลบ.

ซักพักมาลงทุนเปิดในไทยเองเลย ขายแข่งกับ Distributor ตัวเอง แล้วก็อัพราคาส่งให้ไม่อยากขาย บ.ไทยก็สู้นะ ขอสิทธิ์ Exclusive แม่งเรียกราคาจนเป็นไปไม่ได้ เกิน market cap. ไปอีก อันนี้คือบริษัทที่แนะนำจากกงศุลจีนเองเลยนะ ยังทำแบบนี้อ่ะ


แต่สุดท้ายก็แตกด้วยความจีนอ่ะ support หมาไม่แดก ขายเอาแต่เงินอย่างเดียว สุดท้ายตายยกไลน์สินค้า ทั้งๆที่ตัวสินค้าจริงๆทำมาดีเลย

ก็ว่าตั้งแต่โดนเทค นึกว่าจะถูกลงอีก กลับขึ้นราคาซะงั้น

ทั้งแรม การ์ดจอ มอนิเตอร์มีแต่ของถูก คุ้มราคาจ่าย
โดนทุนจีนเล่นแบบนี้ ไปไม่เป็นเลย

เทคเพื่อฆ่าทิ้งชัดๆ

โดนจีนเหลี่ยม

แล้วมันทำไปเพื่ออะไรฟร่ะ มีแต่คนเจ๊ง

คงคิดว่าแบรนด์เริ่มติดตลาดขายได้ ราคาสูงยังไงคนก็ซื้อ

แต่บริการหลังการขายห่วย เคลมยาก แพงขึ้นอีกต่างหสด

สุดท้ายเจ๊ง

มันเห็นว่ายังไงของก็ขายได้อะท่าน มันก็เลยเบียดแล้วก็เอามาขายเองเลย ลดพ่อค้าคนกลางแถมลดต้นทุนซัพพอร์ตหลังบ้านไปได้อีกถ้าเน้นขายอย่างเดียว

มันเจ๊งมันก็แค่เปลี่ยนชื่อแบรนด์กลับมาขายใหม่ก็ได้ละ (ถ้าอยากจะทำต่อ)

นอกเรื่องนิดนึง ผมเองเพิ่งได้คุยกับร้านนึงในไทยเหมือนกัน (เป็นเจ้าใหญ่สุดในไทย แต่ไม่ใช่คอม แต่ยังเป็นอิเล็กทรอนิกส์อยู่ พูดชื่อหรือตัวย่อก็รู้กันหมด) พอดีจังหวะเจอปัญหาเรื่องเขาส่งของให้ช้า + พนักงานรับเคสปากแจ๋วใส่ก็เลยเมลล์ไปหาเจ้าของเลย

เขาร่ายยาวหมดว่าเดี๋ยวนี้ขายของลำบากมากเพราะเจอทุนจีนทุนอะไรงี้ขายตัดราคาหมด แกเหลือมาร์จิ้นแทบจะไม่พอจ่ายลูกน้องแล้ว ก็เลยทำให้บริการหลังการขายมันห่วยลงมากๆ

คือตอนนี้มันแย่กันหมดอะท่าน นี่ผมเองก็หวั่นเหมือนกันว่าร้านนี้เขาจะเจ๊งไหม เพราะเขาก็เป็นเจ้าใหญ่ในวงการมาหลายปีละ

ทรงจะเหลี่ยมเอาตลาดที่เค้าทำไว้อ่ะแหละ ไม่ได้อยากร่วมทุนหรอก อยาก "รวบกิน" มากกว่า

ก็แบบนี้แหละครับ เหมือนเคส Pepsi ที่เคยเป็นเจ้าตลาดในไทย อันนั้นก็โลภมาก บีบเหมือนกันสุดท้ายเป็นไง Coca-cola เอาไปกิน จริงๆก็ยังมีอีกนะ Pizza Hut ที่เคยอยู่กับ Minor แต่พอป็นอันดับหนึ่งแล้วดันจะไปเปลี่ยนให้ Minor มีอำนาจน้อยลงในการบริหาร Minor เลยออกมาทำ Pizza Com จนกลายเป็นอันดับ 1 ในไทยแทน เหลียมการตลาดนี้มันโหดร้ายเสมอ

deva ตอนแรกดีมาก colourfull แบรนด์ดีมากๆ ราคาถูก

มาพังเพราะ ipason