แล้วป.โทละครับ แนะนำที่ไหนกันผมก็เล็งอยู่เหมือนกัน

มสธ

ไม่ได้มาแนะนำ แต่มาชื่นชม และเป็นกำลังใจครับ

จากคนที่จบรามนะครับ ถ้าเรียนที่ ส่วนกลางมามหาลัยเฉพาะตอนสอบพอครับ

เกือบทุกวิชามีเรียนออนไลน์พร้อมผู้เข้าเรียนในชั้นเรียนไม่จำเป็นต้องมานั่งฟังที่มหาลัย ดูสดเอาได้ครับ

1เทอม เรียนได้สูงสุด 24 หน่วยกิต หน่วยกิตละ 25 บาท

ถ้าไม่เรียนเอาเกียรตินิยมผมจะแนะนำเทคนิคลับดังนี้ครับ

-วิชาพื้นฐานมหาลัย ไม่จำเป็นต้องลงตั้งแต่ปีแรก ทำไมไม่แนะนำให้ลงมีคำตอบครับ (เอาไปลงetestแทน)
-ก่อนลงทะเบียนเรียนศึกษาวิชาที่จะเรียนและวันสอบให้ดีก่อนเพื่อที่จะได้ขึ้นมาสอบครั้งเดียวเวลาถึงช่วงสอบ (ตอนลงทะเบียนวิชาจะรู้เลยว่าสอบวันไหน)
-วิชาปกติทั่วไปจะเท่ากับ 3 หน่วยกิจ = 8 วิชา/เทอม
-รามเรียนแบบสอบ 100% ถ้าตกจะมีสอบซ่อมได้อีก 1 ครั้ง วิธีที่ผมจะแนะนำคือ ตั้งใจอ่านหนังสือแค่ 4-5วิชา อีก 3 วิชาปล่อยตกไปสอบซ่อมเอา แบบนี้จะไม่เหนื่อยอ่านหนังสือมาก มันจะง่ายกว่าจำรวดเดียวมาสอบ 8 วิชาใน 1 เทอม
-วิชาพื้นฐานให้ลงเทอมละ 1-2ตัว (วิชาที่มีสอบe-testing) มันคือการสอบก่อนกำหนด สอบผ่านคอม เลือกวันสอบเองได้ สอบแล้วได้เกรดเลย ให้เอาลงแทรกในแต่ละเทอม ทำให้ตอบสอบปลายเทอมไม่ต้องอ่านหนังสือลำบากลำบนขนาดนั้น

ยกตัวอย่างของผม
- e test 2 ตัว เลือกวันสอบเอง อยากสอบวันไหนสอบ ทุกวิชาที่มีในระบบนี้เราจะไม่ไปสอบในภาคปกติเด็ดขาด เพราะเสียเวลา
- ปลายเทอม 3 ตัว เลือกตัวที่ไม่มีใน e-test
- ลงซ่อม 3 ตัว
= ผ่าน 8 วิชาใน 1 ภาคเรียน มีเวลาเต็มที่ในแต่ละวิชา แค่ไม่ได้เกียรติยม
ผมเรียนวิธีนี้จบได้ใน 2 ปี โดยที่ไม่รู้สึกเหนื่อยเลย

ง่ายสุดในรามคือรัฐศาสตร์ (ผมจบรัฐศาสตร์)
วิชาบังคับแทบจะ 80%ออกตามชีทแดงที่ขายหน้าราม วิชาพวกนี้ง่าย เรียกว่าอ่านคำถามไม่ทันจบรู้คำตอบเลย
ผมเป็นรุ่นแรกที่เปลี่ยนข้อสอบจากกากะบาดมาเป็นข้อสอบข้อเขียน(วิชาคณะ) วิชาข้อเขียนให้รอ1-2คาบสุดท้าย อาจาร์ยจะบอกมาว่าจะออกเรื่องไหนบ้าง ทำให้เราอ่านหนังสือได้ตรงจุด

-ตั้งใจอ่านหนังสือ/ชีทสรุป มาสอบ etest
-รอคาบสุดท้ายเอาแนวข้อสอบจากอาจาร์ยว่าเป็นข้อเขียนประมาณไหน แล้วค่อยอ่านหนังสือทำความเข้าใจมาสอบ
-วิชาที่เลือกสอบตกที่จะไปสอบซ่อมให้เป็นวิชาที่ข้อสอบเป็นกากะบาดเท่านั้น

ถ้าเรียน ราม ผมว่าพวกเอกภาษา ญี่ปุ่น จีน โคตรคุ้ม หน่วยกิตถูกมาก

ผมเริ่มเรียน นิติ มสธ ตอนอายุ 39
เรียนจบตอนอายุ 40 แต่ใช้วุฒิปริญญาตรีสมัคร
มันจะเรียนน้อยกว่า ตอนนี้มีเรียนแบบมีคะแนน
เก็บสอบผ่านง่ายกว่าเดิมมาก(แต่ผมไม่ได้เรียน
แบบนี้นะเพราะรีบลงให้จบเร็วๆ)

หนังสือ มสธ. จะหนามาก แต่ถ้าตั้งใจอ่าน
ให้จบแล้วไปสอบก็ผ่านไม่ยาก

ถ้าอยากเรียนก็ลงเลยครับ ไม่มีใครแก่เกินเรียนอยู่แล้ว

ขอถามในนี้เลยละกันครับ ถ้าเรียนแบบไม่ได้เน้นเอาความรู้เป็นปัจจัยหลัก แต่แค่อยากจบไวเพื่อปลดล็อคจิตใจ ควรเลือกที่ไหนดีครับ (ขอโทษที่คำถามอาจดูไม่สร้างสรรค์นะครับ)

เรียนเพื่ออยากได้ ป ตรี เฉยๆ ไม่ได้จะหางานในฝั่งเอกชน (ชื่อชั้นมหาลัยไม่สำคัญมาก) - มสธ

อยากจะสร้างโปรไฟล์หน่อย - ราม

ถ้าอยู่อุบลศูนย์รามมีที่อำนาจเจริญกับศรีสะเกษ
ผมไม่รู้สังคมป.ตรีเท่าไหร่ แต่ถ้าป.โท พนักงานเอกชนกับพนักงานราชการเรียนกันเพียบครับอายุมีตั้งแต่20ต้นๆไปจน40ปลายๆเลย

แนะนำเรียน มสธ ครับ ราคาไม่แพง ไม่ต้องเข้าเรียน
จากประสบการณ์ตรงผมก็จบจากที่นี่ครับ

มาเสริมนิดนึง เผื่ออยากเรียนสายวิทย์ ถ้าจำไม่ผิด (ผมเคยเรียนนานมากละ) คณะที่มีแลปก็ต้องลงแลปนะ เผื่ออยากไปเรียนสายวิทย์ รามก็มีสอน พวกวิทยาศาสตร์ คอม

สมัยผมเรียน นิติ กับ บัญชี เป็นวิชาที่ทำให้คนไม่จบได้มากที่สุด ให้ระวังไว้

สมัยนั้น มีสอบปีนึง 5 รอบ ปกติ2 ซ่อม2 ซัมเมอร์1 ทุกเทอมลงให้เต็มแม๊ก เดี่ยวตารางออกมันจะมีวิชาที่สอบทับกัน ต้องตัดทิ้ง ค่อยไปเก็บตอนสอบซ่อมเอา

ปล. ฝากไว้เผื่อเลือกเรียนที่ราม ข้อสอบแบบเขียน การตรวจจะเป็นแบบคีย์เวิร์ด เขียนให้น้อยแต่ตรงประเด็น และมีคีย์เวิร์ดตามที่มันต้องมี อาจารย์เขาจะวางแผนล๊อคตั้งแต่ในโจทย์แล้วว่าต้องมีคำว่าอะไรบ้าง หลุดจากนี้ไม่ได้ อย่าเขียนเยอะแล้วมีแต่น้ำ คนชอบบ่นว่าทำได้แต่ทำไมตกเขียนไปตั้งเยอะแยะ มันเยอะแต่มันไม่เข้าเป้า

.

ได้แรงบันดาลใจเลยครับ ขอบคุณเจ้าของมู้ด้วย

แนะนำให้เรียนเลยครับ ตอนนี้มีไฟอยากเรียนลงเรียนเลย สัึงคมไทยให้ความสำคัญกับปริญญาพอควรเลย อีกอย่างท่านจะได้เป็นแรงบันดาลใจให้ลูกด้วยว่าพ่อก็มีความพยายาม

ถ้ามีเวลาจำกัดผมว่า มสธ. ตอบโจทย์ท่านได้มากกว่า แต่ของรามพวกวิชาพื้นฐานที่มีเรียนรวมทุกคณะมีสรุป กับข้อสอบเก่าเป็นชีทขายหน้าราม อ่านพวกนี้ไปสอบ ข้อสอบก็คล้ายๆเดิม พวกนี้ก็ 40หน่วยกิตแล้วล่ะครับ

เลือกเรียนคณะรัฐศาสตร์ น่าจะจบง่ายสุดมั้งครับจากที่เคยได้ยินกันมา เพราะผมก็ไม่เคยเรียน แต่ถ้าคณะพวก นิติ, เศรษฐศาสตร์ บัญชี น่าจะต้องมีเวลาอ่านหนังสือประมาณนึง