คือปัจจุบันว่ากันตามตรง การจะทำทีมฟุตบอลให้สำเร็จมันมีหลายปัจจัยมากๆ
ไม่ว่าจะเป็น

1.) เจ้าของทีมให้การสนับสนุนการพัฒนาทีม
2.) ทีมงานที่สามารถจัดการทรัพยากรของทีมจากข้อ 1
3.) ผู้จัดการทีมที่มาสร้างอุดมการณ์และคัดสรรนักเตะในทีม
4.) การพัฒนาระบบเยาวชน

ถ้าเรามามองดูทีมที่ประสบความสำเร็จหรือมีพัฒนาการที่ดีในช่วง 5-10 ปีหลังในอังกฤษ
ต่างต้องมีครบทั้ง 4 ข้อนี้
ตัวอย่างที่ชัดเจนเลยคือ แมนซิตี้ ลิเวอร์พูล และ อาร์เซน่อล

เริ่มจากทีมเรือใบ ผมว่าเป็นทีมที่เริ่มจากหนูตกถังข้าวสาร
เมื่อคุณได้เจ้าของที่ดี และ มีทีมงานที่ดี
พอคุณได้ผู้จัดการทีมแบบเป๊บเข้ามาและ สร้างระบบเยาวชนเอง
ณ วันนี้ ผ่านมา 15 ปี
แมน ซิตี้ คือทีมที่พื้นฐานโครงสร้างทีมแข็งแรงมาก
ผมเชื่อว่าต่อให้พรุ่งนี้กุนซือไม่ใช่เป๊บ ทีมก็ยังคงบินสูงต่อเนื่อง
เพราะพื้นฐานโครงสร้างทีมมันถูกปลุกปั้นจนทัดเทียมทีมระดับ มาดริด บาร์ซ่า แล้ว
และเจ้าของเองก็มีแพชชั่นสนับสนุนทีมเหมือนเชลซียึคเสี่ยหมี
ถ้าไม่โดนปรับคดี 115 ยังไงก็คงบินสูงไปอีกหลายสิบปี

ต่อมาคือลิเวอร์พูล
ถ้าใครจำได้ช่วงยุค 2000-2015
ทีมนี้อยู่ในข่ายลูกผีลูกคน
มีดีตรงได้ ucl 2005
หลังจากนั้นทีมก็ทรงๆ มีช่วงที่หวือหว่า แต่ความสำเร็จไม่ชัดนัก
จนกระทั่งได้ FSG และ คล็อป เข้ามา
2 ปัจจัยนี้ทำให้ลิเวอร์พูลกลับมายิ่งใหญ่อย่างชัดเจน
การซื้อตัวที่มุ่งเอาแต่คัวคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณ และ การผลักดันเยาวชนตัวเองขึ้นมา
เห็นได้ว่าพื้นฐานทีมตอนนี้แข็งแรงมากๆ
พอ สล็อท มาคุม เค้าก็ทำทีมต่อได้ง่ายและบินสูงทันที เพราะทีมพร้อมสนับสนุนเค้า
ตัว profile โค้ชเดิมก็ถือว่าแจ่มอยู่แล้ว หากไม่ใช้แบบ The chosen 1 ยังไงทีมก็ไม่พังง่ายๆ

สุดท้ายอาร์เซน่อล
ผมมองว่านับจาก the invicible ปืนคือทีมที่ประคองตัวเองโดยสมบูรณ์
คือปัญหาปืนเริ่มจากงบจำกัดหลังสร้างสนาม + เสีย david dene มือขวาคนสำคัญของเวนเกอร์
ผมโคตรนับถือใจเจ๊แกจริงๆ ที่แบกปืนแบบลูกผีลูกคน มาได้เป็น 10 ปี
ก่อนที่จะต้องถึงยุคเปลี่ยนผ่านอย่างแท้จริง
ความโชคดีของปืนคือ การที josh kroenke ลงมาจริงจังกับทีม
เห็นได้ชัดเลยว่าปืนกลับมาในจุดที่ควรจากการที่ เจ้าของทีมให้ใจโค้ช และ สร้าง ทีมงานที่ดี
จุดที่ผมมองว่าคือ turning point ปืนใหญ่เลยคือ กล้าล้างบาง deadwood
รวมถึงการเมินสตาร์ที่เก่งแต่ ทัศนคติไม่ผ่านอย่าง โอบา และ โอซิล
แล้วค่อยๆประกอบทีมจากคนที่เก่ง และ ทัศนคติ ดี
การที่ทีมปลุกปั้น ซาก้า + ได้โอเดอการ์ด ปาร์เตย์
แล้วก็ค่ิอยๆเพิ่มมาทีละนิด โดยเฉพาะการได้ ซาลิบา กับ ไรซ์มา
ที่ทำให้ตอนนี้ปืนใหญ่คือทีมลุ้นแชมป์เต็มตัวใน 3-5 ปีนี้
ยิ่งล่าสุดได้เห็นดาวรุ่งขึ้นมาใหม่อีก 2 คนที่ฝีมือเกินวัย จนผมนึกถึงซาก้าตอนขึ้นมาเลย
ผมเชื่อว่าถ้า โครเอนเก้ กับ อาร์เตต้า ยังคงเคมีที่ดี และ ไว้ใจกัน ทีมยังไงก็บินสูงยาวๆ

กลับมาที่แมนยู และ เชลซี

สำหรับแมนยู เป็นทีมที่จิตวิญญานทีมออกไปพร้อมกับท่านเซอร์ก็ไม่แปลก
ผมไม่เชื่อว่าเจ้าของทีมแมนยูจะเป็นปลิงซะทีเดียว
เพราะอันที่จริงทีมก็ใช่เงินกับนักเตะไปไม่น้อยเลย แต่ออกแนวตำน้ำพริก ละลายแม่น้ำมากกว่า
นึกๆเร็วในรอบ 5-10 ปีที่ผ่านมา ตัวที่แมนยูซื้อมาแล้วพูดได้ว่าคุ้มอย่างเต็มปากจริงๆ
ผมว่ามีแค่ Bruno fernandes ตัวเดียว
ตัวอื่นคือไม่เจ็บบ่อย ก็ยังต้องการการพิสูจน์ตัวเอง หรือ ไม่ก็หมดโอกาสพิสูจน์ไปแล้ว
ผมมองว่าปัญหาของทีมเลยคือ ทีมงานหลังบ้าน กับ โค้ช ไม่ดี
โดยเฉพาะการสร้างอุดมการณ์นักเตะที่มันหายไปกับท่านเซอร์จริงๆ

ผมกล้าพูดเลยว่า แรชฟอร์ด กรีนวูด หรือ แม้แต่ ซานโช่ ในมือท่านเซอร์
จะไปได้ไกลไม่แพ้ รูนี่ย์ หรือ ไรอัน กิ๊ก แน่นอน
เพราะท่านเซอร์คือคนที่ให้ความสำคัญกับวินัยเอามากๆ

ผมมองว่า แรชฟอร์ด ตอนขึ้นมาคือดาวรุ่งที่ทัศนคติดีมาก ฝีเท้าก็ดี
ใครจำได้ตอนนั้นที่มีเรื่องตัดงบ แรชฟอร์ด ก็ออกมาสู้จนได้รับคำชื่นชม
แต่ 3-4 ปีที่ผ่านมาเหมือนแกถูกชักจูงไปในทางที่แปลกๆ
แล้วมันดันเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อวัยรุ่นด้วย (ช่วงอายุ 22-27 ) จนเสียคนไปเลย

พอมองย้อนกลับไปที่รูนี่ย์ หรือแม้แต่ ไรอัน กิ๊ก
สองคนนี้ชีวิตส่วนตัวเผลอๆระห่ำกว่า แรช อีก
แต่ท่านเซอร์จัดการชีวิตส่วนตัว 2 คนนี้อยู่หมัดจนขึ้นแท่นตำนานทีมได้ทั้งคู่
แม้แต่เบ็คแฮมที่พอแสงสีเริ่มส่องมากขึ้น เซอร์ก็ยอมตัดใจปล่อยทันที ขนาดเจ้าตัวจริงๆก็ไม่ได้เสียคนนะ
แต่เซอร์มองว่าถ้านักเตะกำลังจะเลือกชีวิตส่วนตัวมากกว่าผลงาน ย่อมขัดต่อการบริการของเค้าเองในอนาคต

พอมามองย้อนดูนักเตะแมนยูที่ประสบความสำเร็จในช่วง 5-10 ปีนี้อย่างบรูโน่
เราจะไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแมนยูถึงขาดเค้าไม่ได้
เดอะบ่น เดอะยั่วะ คือสิ่งที่แสดงให้เห็นความกระหายในตัวบรูโน่
คือสิ่งที่ผลักดันให้เค้าแบกแมนยูจนถึงทุกวันนี้
นักเตะอย่างบรูโน่เอาตรงๆ ควรต้องมีแชมป์มากกว่านี้

สุดท้ายผมมองว่าแมนยูจะกลับมาได้ ต้องเจอทีมงานและโค้ชแบบอาร์เซน่อล
ต้องล้างบาง Deadwood ออกไปให้หมด
และ ให้เวลาอโมริม
ผมคิดว่า อโมริม เป็นโค้ชที่ดี แต่ต้องให้เวลาในการสร้างทีมใหม่แบบอาร์เตต้า
สิ่งที่จะทำให้แมนยูกลับมา ผมว่าเหมือนจุดที่อาร์เซน่อลพึ่งผ่านมา
คือ สร้างทีมจากนักเตะที่มีทัศนคติ winning mentality

ผมยังมองว่านักเตะอย่าง การ์นาโช่ หรือ ฮอยลุนด์ ยังมีอนาคต
แต่ต้องการ การดูแลที่ดี และ พัฒนาจิตใจ
ผมโคตรเข้าใจต้าเลยว่าทำไมถึงไม่รีบเร่งโตกับ สเกลลี่ และ เอ็นวาเนรี่
เพราะ maturity แม่งสำคัญจริงๆ

เอาง่ายๆเลยคือ ผมว่าด้านทักษะ การ์นาโช่ เผลอๆดีกว่ามาร์ติเนลลี่ของปืนอีก
แต่ใจมันยังไม่ได้ครึ่งมาร์ติเนลลี่เลย
มาร์ติเนลลี่เห็นแฟนปืนบ่นเยอะๆ แต่มันโคตรขยันมากๆ
เกมรับผมบอกเลยว่ามาร์ตี้ช่วยโคตรเยอะ ใจมันสู้จริงๆนะ
ไม่แปลกว่าทำไมอาร์เตต้าถึงยังให้โอกาสสม่ำเสมอ


ส่วนเชลซีผมมองว่าทีมมันพังไปพร้อมกับการขายทีมของเสี่ยหมี
และ ผมกลัวเชลซี จะซึมยาวๆ หรือ เลวร้ายสุดคือลดระดับทีมไปเหลือระดับ สเปอร์ส
คือ ไม่ได้แย่ แต่คงไม่พีคแบบยุคเสี่ยหมีอีกแล้ว

ผมมองว่าเชลซี ประสบความสำเร็จได้เพราะแพชชั่นเสียหมีล้วนๆ และ การ respect โค้ชของเสี่ยหมี
คือทุกวันนี้ผมนึกไม่ออกเลยว่า เชลซี ในวันที่ขาด Cole palmer ใครคือผู้นำทีม
เชลซีไม่มีนักเตะแบบ ดร็อกบา แลมพาร์ด หรือ เจที ที่พร้อมดูแลน้องๆ ให้เติบโตมาเก่งกล้า
เชลซีในวันนี้คือทีมที่ไม่มีซีเนียร์ในทีม และ เหมือนว่าจะของทีมจะไม่ได้มองทีมเป็นทีม
แต่มองแค่ว่าเป็นพนักงานทำงานให้บริษัท ผมคิดเสมอเลยว่าทีมจะไปได้ยังไงต้องมี Senior หรือคีย์แมนคอย Build
อย่างลิเวอร์พูล ก็มี ซาล่า ฟานไดซ์ คอยประคองน้องๆ
ปืนก็มี ไรซ์ กาเบรียล โอเดการ์ด
เรือมียุคก่อนๆ ก็มี กอมปานี ไคล์ วอลเกอร์ หรือ ปัจจุบันก็ โรดรี้(ก่อนเจ็บ)
แม้แต่แมนยูก็ยังมี บรูโน่

ถามแฟนๆทุกทีมเลยว่า
คิดว่าใน 3-5 ปีนี้
เชลซี หรือ แมนยู ใครจะกลับมา (ลุ้นแชมป์เต็มตัว)ได้ก่อนกัน
ถ้ามองระยะสั้น แน่นอนปีนี้ เชลซี ผลงานดีกว่าชัดเจน

แต่ผมกลับคิดว่าในระยะ 3-5 ปี แมนยูอาจจะกับมามีผลงานดีกว่าเชลซี
เพราะพื้นฐานบางอย่างที่แข็งแรงกว่า ซึ่งพื้นฐานนี้ผมว่าเชลซีเสียไปตั้งแต่เสียหมีขายทีม
อารมณ์เหมือน สเปอร์ส ที่มีเลวี่ บริหารอะ
ไม่แย่ แต่ไม่สุดเท่าเดิมอีกแล้ว

แมนยูดิ ล้มมาตั้งแต่บอร์ดยัน โค้ช นักเตะ ต้องแก้มาตั้งแต่ผู้บริหาร ซึ้งมันแย่มาตั้งแต่ก่อนป๋าจะเลิกอีกปีท้ายๆเห็นตตัวนักเตะ ได้แชมป์เพราะป๋าล้วนๆ
พอได้โค้ชอย่างมูก็เสริมตัวให้แกเลอะเทะอีก
พอเทนฮากเสริมตัวให้ดีโค้ชดันกาวซะงั้น


เชลซีปัญหามันคือแผนงานอะตอนนี้ คือแนวทางมันคือ ดาวรุ่ง+โค้ชดาวรุ่ง ที่เก่งไปพร้อมๆกัน ผมว่ามันยากฟอร์มนักเตะมันไม่นิ่ง แล้วโค้ชที่เลือกมาแต่ละคนก็โค้ชดาวรุ่งอะ ฝีมือมันก็มีแค่นี้ เอาจริงๆหลังปลดทูเคิ่ล ไปเลือกโค้ชดีๆมาซักคนแล้ว ซัพพอร์ทโค้ช+เสริมดาวรุ่ง แค่เนี้ยมันก็ไปรอดแล้ว แต่มันอยากล้างระบบใหม่หมด เริ่มใหม่หมดแล้วดูเลือกโค้ชมาแต่ละคนสภาพ

สาเหตุที่บอร์ดทั้งคู่

ของแมนยูช่วงก่อนเซอร์แบกจนปิดจุดอ่อนบอร์ดไปหมด ของเชลซีเปลี่ยนบอร์ดใหม่ได้3ปี ยังไม่เข้าที่เข้าทางสักที

ของแมนยูแก้ปัญหาที่โค้ชมา10ปี พึ่งมาเปลี่ยนทีมบริหารตอนเรดคลิฟเข้าหุ้น ผมว่าอาจจะดีขึ้น

แต่ใดๆผมว่าแผนหลัง3มันตกเมต้ามาสักพักแล้ว ผมแฟนเชลซีผมยังไม่เชื่อว่าอโมริมจะทำทีมประสบความสำเร็จเลย (หลัง3แบบที่เอาแบคเล่นนะ หลัง3แบบใช้ปีกเล่นหรืออินเวิท อย่างแมนซิตี้ น่อล เชลซี ผมว่ายังไม่ตกเมต้า)

เชลซีไม่ซื้อตำแหน่งที่ขาดอะ อยากได้ดาวรุ่งตัวไหนก็ซื้อ ตำแหน่งไหนไม่สนตะบี้ตะบันซื้อมันอยู่นั่น

พูดตรงๆ ณ ตอนนี้เชลซีดูมีทรงมากกว่าครับ

เชลซี - ถ้าเอาตามที่ทีมบริหารว่าไว้ ก็คือรอเด็กพวกนี้สุกงอม แข็งแกร่งพอที่จะเป็นกระดูกสันหลังให้ทีมได้นานๆ ทีมก็น่าตะเสถียรอยู่ในระดับลุ้นแชมป์ได้ คือเหมือนบอร์ดอยากให้พวก ไคเซโด้ พาลเมอร์ เอนโซ่ โคลวิลล์ เป็นแกนให้ทีมเหมือน เทอร์รี่ แลมพาร์ด ดร็อกบา อะไรประมาณนี้

ส่วนไอ้เรื่องซื้อเด็กนั่นนู่น ก็ต้องบอกว่าส่วนหนึ่งเพราะทีมต้องรักษาสภาพการเงิน เชลซีไม่ได้อยู่ในยุคที่อยากได้อะไรก็ทุ่มยับๆ เปย์ค่าเหนื่อยแพงๆ อีกต่อไป เพราะกฎการเงินมันค้ำอยู่ ถ้าอยากปลดล็อคก็ต้องเริ่มสร้างสนามใหม่ (แต่คนที่นั่นไม่อยากสร้าง งงใจ)

คือสุดท้ายมันจะสำเร็จไหมก็ทำได้แค่รอดู ตอนนี้อย่าไปคิดถึงการลุ้นแชมป์เลย ทีมที่มีแต่นักเตะอายุน้อยมันก็จะดีบ้างเป๋บ้างเป็นปกติ

ส่วนแมนยู บอกตรงๆว่า ผมยังมองไม่ออกว่าทีมบริหารต้องการอะไร ทิศทางเป็นยังไง ตั้งแต่ตั้งแอชเวิร์ธ ตั้งเบร์ราด้า ให้โอกาสเทนฮาก ซื้อนักเตะให้เทนฮาก ปลดเทนฮาก ตั้งอโมริม ดูเป๋ไปหมด สภาพเหมือนตอนเชลซีโดนเทคใหม่ๆเลย มันมั่วไปหมด การเงินก็ดูมีปัญหา แผนงานในตลาดก็ไม่ชัดเจน

แต่เชลซี มันคิดวางแผนอย่างไร มันก็ทำอย่างนั้นเลย จะบิลด์ทีมแบบ 4-2-3-1 มันก็เล็งเลือกเฉพาะโค้ชที่ใช้ระบบนี้ ต้องการทีมดาวรุ่ง มันก็ซื้อแต่ดาวรุ่งจริงๆ ไม่มีการเหลียวมองคนอายุเกินเลยสักนิด

คืออย่างน้อยเชลซีมีทิศทางและทำตามทางที่คิดอย่างชัดเจน (จะสำเร็จไหมก็อีกเรื่อง) แต่แมนยูผมไม่เห็นอะไรเลย

ถ้ามองกระบวนการตอนนี้ คหสต ว่าเชลซีจะนำแมนยูนิดนึง ถ้าเทียบง่าย ๆ ตอนนี้เชลซีมาเข้าสู่กระบวนการ trust the process เหมือนยุคต้าปีแรก ๆ ซึ่งผลจะออกมาเป็นแบบไหนต้องลุ้น ทีมวัยรุ่นโตไปด้วยกันเรียนรู้ไปด้วยกัน เชลซีหลังได้เจ้าของใหม่มามันเลือกแต่โค้ชที่ต้องการเติบโตไปกับทีมในระยะยาวทั้งนั้น มันเลยออกไปในด้านของโค้ชหน้าใหม่อายุหน่อยที่ยังไม่ได้มีโปรไฟล์ไรมากมาย ซึ่งเสี่ยงมาถ้าเลือกผิดคน เจ้าของใหม่พยายามสร้างวัฒนธรรมให้กับแฟนบอลใหม่ซึ่งเอาจริงผ่านมา 2-3 ปี แล้วก็ปลดไป 2 ประจำการ 1 ละนะ

แผนงานเชลซีคือเอาผจก.มาปั้นเด็ด ต้องรอผลงานระยะยาว แต่ใจร้อน อยู่ไม่ค่อยยืดกันเลย เปลี่ยนแผนไปเรื่อยๆ ถ้าเจอคนเก่งหรือเด็กในทีมพร้อมแล้ว ก็ดีเอง

ส่วนผีไม่รู้ 55

แมนยู พึ่งเริ่มสร้างทีมใหม่ ยังต้องรอดูอีกซัก 2 ปีถึงจะเดาทรงการล้างทีมได้ว่าจะออกหน้าไหน

ส่วน เชลซี ทำไปแล้ว 2 ปีกว่า แต่ปีแรก ( ยุคทูเคิ่ล กับ พ็อตเตอร์ ) เสริมทีมค่อนข้างมั่วเลยต้องรื้อทีมไล่ขายออกซื้อเข้าใหม่อีกรอบในยุคพอช เพราะงั้นถ้านับแบบที่เป็นแบบเป็นแผนจริงๆก็ 1 ปีครึ่งละ

กว่าจะถึงจุดที่มันออกดอกออกผลนี่ต้องกี่ปีไม่ชัวร์แต่ถ้าเอา อาร์เตต้า เป็นเกณฑ์แบบไม่นับเรื่องเงินที่ลงทุน ก็ 2 ปีครึ่งถึงกลับมาจบในท็อป 4

ถ้า เชลซี มันมั่นใจว่ามาถูกทางฤดูกาลหน้าต้องการันตีท็อป 4 ได้แล้ว เพราะงั้นจะได้รู้ว่าแผนงานนี้มันผ่านมั้ยก็ฤดูกาลหน้าอะตัดสิน มันต้องติดท็อป 4 ให้ได้ ซึ่งทีมตอนนี้ไม่ไหวอะ โกล เซ็นเตอร์ กองหน้า มาตรฐานยังไม่ถึง

ต้องวัดใจที่ตลาดต้นฤดูกาลหน้า ที่มันอั้นไม่เสริมมกรานี้ทั้งที่ฟอร์มกากก็น่าจะเพราะรอไปเสริมตัวที่อยากได้ตามแผนตอนซัมเมอร์นี่แหละ

แล้วดูลิสต์มันซิ กองหน้าน่าจะ ดีแล็ป เซ็นเตอร์น่าจะ ฮุยเซ่น 2 คนนี้มาแล้วจะสร้างความแตกต่างได้ขนาดไหนนี่ไม่รู้เหมือนกัน

อาร์เซนอล ปีที่ข้ามจากจบที่ 5 ไปจบที่ 2 เขาเสริม เฆซุส ,ซินเชนโก้ แล้วได้ ซาลิบา กลับมาจากยืมตัว จนยกระดับไปจบที่ 2 ได้เลย

เชลซี จะยกระดับได้ขนาดไหนในเมื่อนโยบายเป็นกล่องสุ่มดาวรุ่งแบบนี้ ต้องรอฟลุ๊คเจอตัวซีเคร็ทแบบ พาลเมอร์ อีกซัก 2 ตัวอะถึงจะมีลุ้นกับเขา

อันนี้พูดเฉพาะในแง่ทีมบริหารเลยนะ โค้ชคนไหนมา เชลซี มันก็คงมุ่งการทำทีมไปทางนี้แหละ

ผมว่าซื้อถูกตำแหน่งนะครับ แต่ตัวนักเตะที่ซื้อมาไม่ตอบโจทย์หรือยกระดับทีมได้เลย เช่น

GK เอามากองตั้ง6-7คน แต่ไม่มีใครคงเส้นคงวาสักคน

CB โทชิน ดิซาซี่ บาเดียชิลด์ 3คนนี้ก็ผีเข้าผีออก

เชลซีค่อยเป็นรูปเป็นร่างแล้ว เหลือแค่ใช้เวลา
ส่วนแมนยูยังก่อแล้วล้มๆอยู่นั่นแหล่ะ อีกนาน อย่าลืมว่ารอบนี้เจอเรื่องกฎการเงินอีก จะมาลองสร้างมั่วๆเหมือนที่ผ่านมาไม่ได้แล้ว

เชลซีตอนแรกก็บี้มากับหงส์นะ อยู่ๆทำไมสะดุดรัวๆ งง

ไม่ได้ดูเชลซีด้วยดิ

ตัวเจ็บก็ไม่ได้เยอะนิ ใช่มะ?

clearlakeเริ่มมีคนไม่เอาเหมือนกันตอนนี้

ของเชลฃีนี่ รื้อ โครงสร้างของจริง นักเตะท๊อดปีแรก ค่าเหนื่อยสูงๆ โดนโล๊ะออกหมด เหลือแค่ โฟฟาน่า คุนคู สเตอร์ริ่ง เจมส์ ชีเวล พวกนี้คือนักเตะที่ค่าเหนื่อยสูงทั้งนั้นเลย คงปรับต่ออีกสักระยะนึงเลย
ส่วนแมนยูผมว่าอาการหนักกว่าเชลฃีเยอะอยู่นะ คงได้รื้อโครงสร้างเหมือนกันแหละ ต่างกันตรงที่ค่อยๆทำไป ส่วน เชลฃีมันได้รื้อเลยเพราะ เสี่ยหมีโดนบังคับขายทีม

อย่างน้อย เชลซี ก็โฟกัส ฟุตบอล กับ ทีมนักเตะอะ

แมนยู โฟกัส แต่ลด Cost ลดคน สร้างสนาม…

สมมติสร้างสนามเสร็จ อดไปยุโรปต่อเนื่อง นี่ บันเทิงเลยนะ….ใช้หนี้ยาวๆ เลย อาเซนอล 10 ปีถึงกลับมาทุ่มซื้อนักเตะได้อะ

ช่วงฟอร์มดีมันมีแผลที่เกมรับอยู่แล้วครับ จะโดนยิงตลอดแต่คู่แข่งไม่คม + ซานเชส มันเซฟด้วยเลยรอดมาได้

เชลซี มันหลังรั่วแต่ก่อนหน้านี้ยิงเยอะกว่าเขาเลยเก็บแต้มได้ พอมาช่วงที่สะดุดเนี่ยตัวรุกไม่มีใครยิงแล้วนอกจาก พาลเมอร์ กับ ช่วงหลังมี มาดูเอเก้ โผล่มายิง 2 นัด แต่ตัวรุกคนอื่นไม่มีใครยิงเลย 7-8 นัดที่ผ่านมา ก็เลยกลายเป็นหลังรั่ว หน้าสาก