ควรทำอย่างไหนมากกว่าครับ

โปะบ้าน โอกาสลดดอก ได้แน่นอน

ลงทุนมีความเสี่ยง ต้องคอยตามดูตลอด วันไหนลงเครียดอีก

เป็นผม ผมโปะบ้านก่อนเลย

ถ้าลงทุนแล้วได้มากกว่าดอกเบี้ย*2 ทุกปีก็ไปลงทุน
ส่วนตัวโปะบ้าน

ส่วนตัวผมแนะนำโปะ มันสบายใจ คล่องตัว แล้วค่อยแบ่งเงินที่เหลือ มาลงทุน

แต่ถ้าคุณจะเอาไปลงทุนเลยเนี่ย สมมุติ มันไม่ได้ดังใจหวัง คุณต้องมานั่งเสียประสาทอีก หัวตื้อไปหมด

ทางสายกลางแบ่ง โปะส่วนนึง ลองลงทุนส่วนนึง อันนี้ก็ได้ ถ้าลงทุนแล้วมันเวิค ก็ปรับแบ่งกันไปตามใจ จะไปหนักทางไหน

กดดันเกินอ่ะผมว่า ต้องลงทุนให้ได้มากกว่าดอกเบี้ยบ้านโปะให้มันจบๆไปก่อนดีกว่า ชีวิตที่ไม่มีหนี้ก้อนใหญ่สะบายใจกว่าเยอะ

จัดการหนี้ก่อน ลดความกดดันครับ
แต่ผมทางสายกลางนะ แต่แค่ช่วงนึง ถึงเวลาที่วางแผนไว้ จะปลดหนี้ให้หมดครับ

ผมโปะก่อนครับ เงินลงทุนขอหัวโล่งๆ สบายตัวก่อน

ลดอัตราเติบโตของดอกบ้านดูดีกว่าหาเงินครับ
สบายใจทำอะไรก็ง่ายกว่าแหละ ต้นบ้านหายไปดอกก็ถูกลง ผ่อนง่ายขึ้น หาเงินสบายขึ้นอีก

แล้วแต่คนว่ามีความสามารถในการลงทุนขนาดไหน ของผมเพิ่งเริ่มหัดเดี๋ยวขายบ้านเก่าได้ผมกะว่าโปะ 90 ลงทุน 10 พอละ หลังจากนั้นค่อยๆเพิ่มลงทุนไปเรื่อยๆ

มีทั้งข้อดีข้อเสียกันทั้งสองอย่างมั้งครับ ที่คิดได้เร็วๆ ก็

โปะบ้าน
- ความเสี่ยงต่ำ (โปะไปเห็นผลแน่ๆ)
- ลดระยะเวลาการผ่อน (ไม่ได้ลดจำนวนค่างวด)

ลงทุน
- มีโอกาสได้ผลตอบแทนมากกว่าหนี้ที่มีอยู่ (กรณีที่ผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยจากหนี้)
- มีโอกาสได้เรียนจากการลงทุน (ถ้าเอาไปโปะ ก็จะไม่ได้ประสบการณ์จากการลงทุน ไม่ได้เครียดจริงจัง)
- มีโอกาสขาดทุนจนไม่เหลืออะไรเลย (ถ้าจัดการความเสี่ยงไม่ดีพอ)

ส่วนตัวผมจะโปะก็ตอนที่ค่างวดลดลงได้อย่างเดียว (ตอนรีไฟแนนซ์) ช่วงที่ไม่ได้รีไฟแนนซ์ก็เอาไปหาประสบการณ์ครับ

ทั้งนี้จะเลือกอะไรยังไง ก็ขอให้พิจารณาดีๆ ครับ

แล้วแต่ % การลงทุน กับ % ดอกเบี้ยบ้านครับ

อีกส่วนนึงที่ต้องคิดด้วยคือค่าความเสี่ยงจากการลงทุน

และอีกอันคือความยืดหยุ่นครับ

การลงทุนในบางอย่างถ้าเราสามารถดึงเงินกลับมาได้ง่าย เราก็สามารถลดสัดส่วนเงินเย็นไปลงทุนได้

หรือถ้าเราเจอโอกาสลงทุนที่ดีกว่า ก็สามารถโยกเงินได้เลย

กลับกันถ้าโปะบ้านไปแล้วเงินมันก็ดึงกลับมายากละ

ลงทุนตอนมีหนี้ มีภาระ ความกดดันต่างกัน กับลงทุนตอนตัวเบาๆ แน่นอนครับ ลองแบ่งๆ มาทำพร้อมกันดูก็ได้ ว่าลงทุนทำได้ดีไหม แล้วค่อยเพิ่มสัดส่วน อย่าไปคิดแค่ว่า ลงทุนได้ผลตอบแทน มากว่าดอกเบี้ย ...มันมีความกดดันซ่อนอยู่ในนั้นเยอะมาก แล้วที่สำคัญ ดอกมันต้องจ่ายสม่ำเสมอ แล้วเราลงทุนได้ผลตอบแทนแซงดอก สม่ำเสมอหรือเปล่า ถ้าคิดว่าหาได้ หรือว่ามีฝีมือพอ ก็ลุยได้เลย

ปลดหนี้ให้ได้ก่อน เงินไม่เย็นอย่าเอาไปลงทุน เดี่ยวมีจังหวะเดือดร้อน ต้องขายตอนขาดทุนไม่คุ้ม

ลองประเมินตัวเองดูครับ

ลงทุนได้ผลตอบแทน > ดอกเบี้ยบ้าน = ลงทุน

ลงทุนได้ผลตอบแทน < ดอกเบี้ยบ้าน = โปะบ้าน

ถ้าไม่มีความรู้ลงทุนแบบเชี่ยวชาญเลือกโปะบ้าน

แต่ถ้าลงมุนเก่งมากก็ลงทุนดีกว่า

เป็นผมคงโปะแหละ