เห็นมู้ล่างมีคนบอกว่า ใครไม่เลือกส้มคือพวกโง่

คนในเมืองที่มีงาน มีฐานะเค้าพึ่งตัวเองได้หมด แต่คนรอบนอกเค้าหวังพึ่งคนช่วยเหลือ เค้าไม่ได้พึ่งนโยบาย

งานศพมีคนใส่ซองให้เค้ามั้ย มีคนตายไปขอความช่วยเหลือได้มั้ย งานวัดงานบุญเข้าไปจัดเข้าไปลงเงินร่วมมั้ย
เวลาเจ็บไข้ได้ป่วย มีทีมงานพาเค้าไปหาหมอมั้ย ซึ่งส้มให้ไม่ได้ ถึงเลือกมาก็ไม่มีเงินไปช่วยอยู่ดี 555

ตาผมตายผู้ใหญ่บ้านถึงอย่างไว หลังจากรู้ข่าวใช้เวลา4ชั่วโมงรับศพจาก รพ ทุกอย่างที่จำเป็นเสร็จหมดแล้ว
อยากเพิ่มอะไรมีคอนแท็คเตรียมไว้ให้อีก แล้วใส่ซองให้2พันก่อนใคร ซึ่งจริงๆบ้านผมไม่จำเป็น แต่เขาทำแบบนี้ทุกบ้าน

ผมเลยเข้าใจว่าทำไมแพ้ เพราะอะไรแบบนี้ส้มไม่มี

เคยไปหาเสียงอำเภอนอก ๆ บ้างมั๊ย เคยไปให้คนเลือกเห็นหน้าบ้างมั๊ย ปราศรัยแต่ในเมืองก็ได้แต่คะแนนในเมืองก็ไม่แปลกอะไรนี่

ว่าแต่เด๋วนี้คนเสื้อเหลืองเค้าหันมาเลียแดงแล้วหรอ

จริงๆ มันคืออำนาจ และบารมีนั่นแหละ

รอบนอกมันต้องอาศัย บารมี

จริงๆ เรียกว่าอาจจะไม่ต้องให้เงิน แต่คุณต้องไปสร้างผลประโยชน์ให้เค้า

ดังนั้นการตีรอบนอก ยากมากจากเกมการเมือง เพราะ

คนก่อนเค้าได้ใจไปแล้ว

20ปี ผ่านไป ความคิดยังดูถูกชาวบ้านเหมือนเดิม สลิ่มก็คือสลิ่ม อดีต เห้หน่อย เพราะสู้ไม่ได้ก็เรียนทหารออกมา ปัจจุบันทำไม่ได้ก็จะกำหมัดหน่อย สมน้ำหน้าพวกสลิ่ม ชนชั้นกลางในเมือง

ทักษินฟีเวอร์ หน้ามืดตามัวชอบความ VIP

หน้าเขากับหลังเขา ข้อมูลได้ไม่เท่ากัน

มีการซื้อเสียง บ้านนอกซื้อเสียงง่ายกว่า อันนี้ไม่เถียงครับ
แต่ถ้าบอกว่าแพ้เพราะไม่ได้แจกตังค์ น่าจะไม่ใช่สาเหตุทั้งหมดครับ

คนรอบนอกอาจจะรู้สึกว่าใครเป็นก็เหมือนกัน เลยเลือกคนที่เขารู้จัก(จากงานบวช งานแต่ง งานศพ)
ไม่ก็อาจจะบูชาคนมีเงิน คิดว่าเขาเป็นพระผู้มาโปรด

รอบน้องอยากเจริญเหมือนในเมือง หาคนมาช่วย
ในเมืองเจริญแล้ว หาคนพาเจริญทิ้งห่างชนบท จนลืมชนบท

มันคือระบอบอำนาจนิยมครับ

การรู้จักผู้มีอำนาจ เชื่อว่าจะช่วยเค้าแก้ปัญหาในอนาคตได้

ไม่ใช่แค่แก้ปัญหาสาธารณูปโภค ยังรวมไปถึงการใช้อิทธิพลเพื่อแก้ปัญหาส่วนตัว