เข้มจริงครับ อย่างผมเคยฟัง doctor tany ใน YT เขสก็บอกอยู่

หมอถ้าระดับทั่วๆไป เผลอๆไทยเก่งกว่าอีก แต่ถ้าระดับ Specialist สู้ไม่ได้เลยครับ

เพราะไทยเน้นตำรา มันก็เก่งจริงๆ แต่มันดันขาดการคิดนอกกรอบที่จะสร้างอะไรใหม่ๆแทน

บ้านเรามันโดนบีบด้วยข้อสอบ เลยเป็นการเรียนเพื่อสอบเป็นหลัก ไม่ได้เพื่อเข้าใจเนื้อหาแบบตะวันตก

เวลาที่มีก็ต้องไปทุ่มให้กับการทำโจทย์ยากๆตั้งแต่เด็ก ระบบแบบนี้จะไปได้ทุกโรงเรียนก็ต้องคุณภาพดีแบบสิงคโปร์

ของไทยเรามันก็เลยลูกผีลูกคน จะให้อิสระเด็กเน้นพื้นฐา่นความเข้าใจแบบฝรั่งก็ไม่ใช่

จะเน้นวิชาการแข่งขันภาพรวมก็ไปไม่ถึง เพราะครูกับโรงเรียนส่วนใหญ่ก็คุณภาพไม่ได้ดีเท่าชาติใหญ่ๆในเอเชีย

เราต้องยกระดับหลักสูตร และครูก่อนล่ะครับ และวิชาไหนที่ไม่สำคัญก็เป็นวิชาเลือกไป อย่าให้เด็กเอาอะไรไปใส่หัวเยอะเกินกว่าที่เค้าจะเข้าใจและย่อยมันได้หมด ยิ่งราชการไม่ต้องพูดถึงหรอก ทุกคนอยากยกระดับตัวเองเพราะเงินๆทองๆ แต่เนื้อหาในการพัฒนาเชิงบุคคลไม่ขยับตาม ดังจะเห็นว่าไดโนเสาร์เป็นใหญ่เป็นโตในระบบการศึกษาเยอะแยะ แล้วจะพัฒนาขึ้นได้ยังไง

การท่องจำมันฝังอยู่ในบ้านเรามานาน

หลักสูตรพวกนี้ก็มาจากการท่องจำ เช่น วิชา AI ดี บ้านเราก็ยัดมาเลย หรือยุคนี้ต้องมีความคิดสร้างสรรค์นะ งั้นยัดดนตรี ศิลปะเข้าไป เราไม่มานั่งตั้งคำถามด้วยซ้ำว่าอะไรคือคิดสร้างสรรค์ เอาแต่บอกให้สร้างสรรค์ให้คิดนอกกรอบ ให้ฝึกให้พยายาม... คำพวกนี้ มันก็ท่องจำมาตอบออกสื่อทั้งนั้น

ส่วนคนด่าก็ฟีลท่องจำมาว่า บ้านเราเน้นเรียนวิชาการ
ผมเห็นคนออกสื่อยังยกตัวอย่างเรื่องประเทศอื่นเอาเครื่องคิดเลขเข้าสอบได้ จดสูตรได้ แต่เด็กไทยต้องคิดมือท่องจำสูตร เลยทำให้เด็กไทยไม่คิดนอกกรอบ... โทษนะ ตอนมหาลัย ผมก็ทำแบบฝรั่ง แต่ก็ไม่ได้คิดออก ไม่ได้มีความคิดสร้างสรรค์ขึ้นเลย

ผมกล้าบอกเลยว่า ความคิดสร้างสรรค์จะเกิดขึ้นได้อย่างสูงสุดในคน ๆ นึงจริง ๆ ก็ต่อเมื่อเขาพัฒนาถูกพรสวรรค์ แต่นี้หลักสูตรที่ยัด ๆ เข้ามามันไม่ได้สนับสนุนการหาพรสวรรค์อะไรเลย

หรือถัาจะไม่หาพรสววรค์ คุณต้องขยันมากกกกก แต่บ้านเราที่ไม่ได้แพ้สงครามมา มันก็ไม่มีจิตใจนักสู้เหมือนประเทศเหล่านั้นที่ จขกท เขียนไว้ไง

สุดท้าย เราก็เรียนหนักโดยไร้ประโยชน์

เห็นที่กวดวิชาสัมภาษณ์​หลายคนได้ทุนกับหมอที่ไทยยังเลือกหมอเลย

เรื่องเงินเรื่องอะไรด้วยไหมที่ทำให้ไม่ไปนอก