ผมสอบถามแบบคนรู้งูๆปลาๆ คืออยากรู้ว่าทำไมสถานะการเงินตอนนี้แมนยูมีปัญหา คือย้อนกลับไปตอนเกลเซอร์แมนยูซื้อสตาร์ตัวท๊อปในตลาดได้ตลอดจ่ายแพงก็ไม่สน คือผมมองแมนยูเนี๊ยะเป็นทีมที่ยืนได้ด้วยตัวเองแบรนด์โคตรเเข็งไอบริหารโง่อะไรก็ช่างแต่มีตัง แต่พอปัจจุบันทำไมเป็นทีมที่ต้องรัดเข็มขัดทั้งๆที่มันเพิ่งผ่านมาไม่นานเอง สอบถามผู้รู้หน่อยครับ

มันเริ่มมีกฏการเงินครับ

มีหนี้สิน + ซื้อ-ขาย ล้มเหลวมาตลอดหลายปี

ช่วงนี้ก็ชดใช้กรรมไปก่อน

แล้วถ้าตอนนี้เป็นเกลเซอร์ท่านว่ากฏนี้ตะมีปัญหารึป่าวครับ อันนึงที่ผมว่าทำได้ดีคือหาสปอนเซอร์เหมือนช่วงนั้นจะหาสปอนเซอร์เก่งมาก

มีซิครับ สปอนเซอร์ก็เหมือนเดิมคาดอกก็เซ็นเจ้าใหม่ อดิดาสก็เซ็นยาว เอาจริงๆผมไม่รู้ว่า สปอนเซอร์เข้ามาเพราะคนดีลได้ดี หรือ ที่มีแต่ดีลดีๆเพราะมันคือแมนยู แต่ก็ยกเครดิตให้เอ็ดไว้ด้วยละกัน

มีอยู่แล้วครับ หลังๆ มันเริ่มหนักขึ้นแล้วไง

เกลเซอร์มันเลยคิดจะหาคนมาทำแทนหรือป่าว

เตรียมพร้อมรับมือ ปีหน้าครับ

จะเป็นการไม่ได่ไป UCL สองปีติดครั้งแรก

เงินจม แน่นอน พวกที่ซื้อมา ตอนนี้ใช้งานแทงไม่ได้เลย ยุคเทนฮาก

ช่วงนี้เป็นช่วงชดใช้กรรมครับ ก่อนหน้านี้ใช้เงินล้างผลาญ
แต่ก็มีเข้าไปเล่น UCL สลับกันไปรายได้จาก UCL มันเยอะมาก
แล้วสปอร์นเซอร์ก็เซ็นเข้ามาหนักๆ พอไม่ได้ไปมา 2 ปีติดๆกันจากรายได้ที่ต้องได้มันก็หาย
แต่ดันล้างผลาญเหมือนเดิม จริงๆมันเป็นมาก่อนที่เซอร์จิมจะเข้ามาละครับ
ตอนปีก่อนโน้น ถึงขั้นว่าร้องเรียนกันไม่ให้เกลเซอร์รับบันผลกันเลยทีเดียว

รายได้มันถูกนำมาคิดแบบปีต่อปีครับ เช่นเวลาที่มีข่าวเรื่องสปอนเซอร์จะถูกนำเสนอเป็นมูลค่าสัญญารวม 100 ล้านปอนด์เป็นระยะเวลาสิบปี ก็นับรายได้ปีละ 10 ล้านปอนด์ ยังไม่รวมเงื่อนไขที่ว่าหากไม่ได้ไป UCL จะลดจำนวนเงินลงเหมือนที่เป็นอยู่ในตอนนี้อีก

รายได้นอกเหนือจากสปอนเซอร์ แมตช์เดย์ สินค้าของสโมสร ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด จะถูกเอามาคิดในแต่ละปีแล้วก็หักลบกับค่าใช้จ่ายเช่นค่าจ้างนักเตะ ปัจจุบันต้องจ่ายปีละ 190 ล้านปอนด์โดยประมาณ อ้างอิงจาก Capalogy



ทีนี้พอทีมไม่ได้ไป UCL รายได้จากลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดที่เป็นจำนวนเงินสูงก็หายไปแต่ค่าจ้างนักเตะยังคงสูงอยู่ ยังไม่รวมการใช้เงินซื้อตัวที่ผิดพลาดมาต่อเนื่องหลายตลาด พอเฉลี่ยออกมา 3 ปี PSR ซึ่งระบุไว้แล้วว่าห้ามขาดทุนรวมแล้วเกิน 105 ล้านปอนด์ พอติดกฏการเงินสภาพก็เลยงอกง่อยแบบตอนนี้ครับ

คำพูดที่ว่า "ทีมระดับ UEL แต่ใช้เงินระดับ UCL" จึงถูกใจใช่เลย

ตังกุยพูดเรื่องรายได้จาก UCL ไว้ในคลิปนี้

ผมว่า 2 เหตุผลหลักๆ

1. 70% cap limit on transfer, salary and agent fee จะเริ่มใช้รอบบัญชีนี้
2. ไม่ได้ไปแชมป์เปี้ยนลีค 2 ปีติด ทำให้รายรับลดลงเยอะมาก

ปัญหามันลุกลามมาตั้งแต่บอร์ดยุคก่อนนั่นแหละ หาสปอนเก่งจริง แต่แม่งใช้เงินโง่มาก ซื้อแต่ละตัว overprice ตลอด แถมเข้ามาแล้วเป็นภาระทีมซะส่วนใหญ่ ปัญหาค่าเหนื่อยแพงเนี่ยทำให้ขายออกยาก สุดท้ายเหมือนมะเร็งค่อยๆกัดไปเรื่อยๆจนเริ่มออกอาการนี่แหละ ไม่ได้ไป ucl รายได้หาย ซื้อตัวแพงๆ ขายไม่ออก บัญชีติดลบ วนลูปแบบนี้

ส่วนทีมบริหารยุคจิม เข้ามาก็เหมือนจะดี เอาคนมีความรู้ด้านฟุตบอลมาทำ แต่จากไอ้ผลงานเสียงานไปฉีกสัญญาแดน ทำได้ 5 เดือนปลดออก ความไม่เด็ดขาดที่ไปต่อสัญญาเทนฮาก+เสริมทัพให้ พอคุมได้ 10 กว่านัดไล่ออก แล้วไปเอาโค้ชหลัง 3 ที่ต้องเปลี่ยนระบบใหม่หมดมากลางฤดูกาล พยายามจะลดรายจ่าย แต่ตัวเองนี่ก็ 1 ในสาเหตุเหมือนกัน แต่อย่างน้อยมันก็ถือว่าดีกว่ายุคไอ้เอ็ด

แมนยูขาดทุนมา 5 ปีติดต่อกันแล้ว จริงๆ ต้องโดนเรื่องผิดกฎการเงินแล้ว แต่ชี้แจงว่าสโมสรต้องใช้งบประมาณในการปรับโครงสร้างเลยเอาตัวรอดมาได้ ปัญหาสะสมมานาน ซื้อตัวเยอะและแพง แต่ขายออกได้ถูก ค่าเหนื่อยก็สูงลิบ และคงใช้เวลานานในการแก้ปัญหาภายใน เหมือนซื้อตัวไม่คุมทั้งค่าตัวทั้งเพดานเงินเดือน ยิ่งถ้าปีหน้าไม่ได้ไป UCL อีกเนี่ยยิ่งพัง เพราะเงื่อนไขสัญญาจะต้องลดเงินสนับสนุนถ้าไม่ได้ไป UCL 2 ปีติดต่อกัน แถมยังโดนสปอนเซอร์ปรับเงินอีก

ถ้ามองถึงตอนนี้ ineos บริหารแย่กว่า glazer

เพียงแต่ภาพลักษณ์ที่ออกมามันดูดีกว่าเท่านั้น

แมนยูตอนนี้เข้าอีหรอบกบเลือกนาย สุดท้ายกบเกมยกบ่อ

ปัญหาตอนนี้คือเหตุผลที่มันขายหุ้นไงครับ
มันรู้แล้วว่าปัญหาเกิดแน่จากการบริหารฟายๆมาตลอด 10กว่าปี

แฟนบอลท้องถิ่น เค้า เปลี่ยน
นามสกุล ใหม่ ให้ เซอร์ จิม แล้ว

จิม แรดคลิฟฟ์

เปลี่ยน เป็น จิม เกลเซอร์