กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ต้อนรับคณะทำงานลงพื้นที่สำรวจความเหมาะสมปลูกต้นซากุระในเชียงใหม่ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนและทำให้ประชาชนเกิดความกังวลเกี่ยวกับกรณีการนำเข้าต้นซากุระมาปลูกในประทศไทย

แสดงถึงความสัมพันธไมตรีอันดีระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่น โดยจะมีการนำมาเริ่มทดลองปลูกเบื้องต้น จำนวน 200 ต้น เพราะการนำต้นซากุระเข้ามาปลูกในประเทศไทยจำเป็นต้องมีการศึกษาพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการปลูก เนื่องจากซากุระเป็นพืชที่ต้องปลูกในพื้นที่ที่มีสภาพอากาศหนาวเย็น ในพื้นที่ละติจูดที่สูง และมีความสูงจากระดับทะเลปานกลางมากกว่า 1,000 เมตร รวมถึงมีอุณหภูมิที่ค่อนข้างต่ำหรือมีอากาศหนาวเย็นติดต่อกันอย่างน้อย 2 เดือน และเป็นพืชที่ต้องการแสง ไม่สามารถเจริญเติบโตได้ในพื้นที่ร่มหรือภายใต้เรือนยอดไม้อื่น ดังนั้น การปลูกต้นซากุระจึงควรปลูกในพื้นที่เปิดโล่ง ทั้งนี้ เพื่อให้การศึกษาการปลูกต้นซากุระเป็นไปด้วยความเหมาะสม จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานศึกษาและขับเคลื่อนการปลูกต้นซากุระเพื่อเป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติขึ้น

ผู้แทนกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ชี้แจงในที่ประชุม ว่าไม่สมควรนำต้นซากุระไปทดลองปลูกในพื้นที่อนุรักษ์ เนื่องจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้กำหนดนโยบายการจัดการอุทยานแห่งชาติตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ให้มีการควบคุมและจัดการพืชต่างถิ่น (Exotic species) ไม่ให้เกิดการะบาดหรือแพร่กระจายเข้าไปในระบบนิเวศธรรรมชาติ

เพื่อให้การศึกษาการปลูกต้นซากุระเป็นไปด้วยความเหมาะสม จึงมีการกำหนดพื้นที่ในการดำเนินการปลูกไม่ให้อยู่ในพื้นที่อนุรักษ์ โดยเลือกบริเวณพื้นที่ดังนี้

1. ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง)
2. ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (แม่จอนหลวง)
3. สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ จังหวัดเชียงใหม่ (เป็นพื้นที่ในการอนุบาลกล้าซากุระและพื้นที่ปลูก)
4. พื้นที่ในบริเวณชุมชนหมู่บ้านม้งดอยปุย ซึ่งไม่ได้เป็นเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติ
ดอยสุเทพ - ปุย (ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาหารือความเหมาะสมสำหรับการปลูก) และ
5. โครงการอนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์ ตามพระราชดำริ ในพื้นที่ภาคเหนือ (ดอยอินทนนท์) จังหวัดเชียงใหม่ (เป็นพื้นที่ในการอนุบาลกล้าซากุระเท่านั้น) เนื่องจากต้นซากุระจะถูกนำส่งมาด้วยวิธีการเปลือยราก จึงจำเป็นต้องพักฟื้นและอนุบาลกล้าเป็นระยะเวลา 6 เดือน

พืชต่างถิ่น แถมสภาพอากาศต่างกัน แต่ก็ไม่ได้ตัดโอกาสว่าไม่ปลูก แต่ไม่ปลูกในพื้นที่อนุรักษ์ ส่วนต้นไม้ของประเทศจะปลูกต้นนางพญาเสือโคร่งหรือต้นกัลปพฤกษ์ จะปลูกต้นซากุระต้องปลูกที่สูงด้วย แลัวจะมีผลต่อป่าไม้ในบ้านเรานี้ละ

ก็ไม่แปลก มันคือ เอเลี่ยนสปีชีส์ ก็ไม่ควรไปปลูกในพื้นที่อนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืชของไทยหรอก ถ้าจะปลูกแบบเชิงพาณิชย์ก็ให้เอกชนทำไป

เราก็มีพญาเสือแล้ว ชมพูภูคางี้ ครบ เพียงแต่ว่าจัดแลนสเคปให้มันสวยๆก็ดึงดูดได้

ซากุระต้องปลูกที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,000 m เลยเหรอ

ไปเดินดูดอกซากุระที่อุเอโนะ โตเกียวสูงกว่าระดับน้ำทะเล 40 เมตร

หรือคำว่า "ระดับทะเลปานกลาง" จะมีความหมายว่าระดับน้ำทะเลญี่ปุ่นสูงกว่าระดับน้ำทะเลที่อื่น


นางพญาเสือโคร่งบานที่ภูหินร่องกล้า ดอกไม้บานช่วงอากาศหนาวเย็นต่ำกว่า 15 องศาคล้ายซากุระ แต่อาจจะไม่ได้หนาวยาวนานเท่า

ปลูกเป็นการศึกษาก็ปลูกไป ไม่ได้ขัด งบดูแลก็ตามสมควรอย่าแดรกกันมาก แล้วก็ทำผลกระทบเรื่องเอเลี่ยนสปีชีส์ด้วย เผื่อมันแพร่ ก็ไม่แน่หรอกไอ้ที่ว่าปลูกยากๆ มาไทยมันกลายเป็นดอกเล็กลง ผลเล็กลงแต่โตไวก็มีเห็นอยู่ ผักตบชวาไง

ส่วนตัวคิดว่า ไม่เห็นน่าตื่นเต้นอะไร พอปลูกแล้วก็ขี้คร้านจะแห่ไปถ่ายรูปกันเต็มดอยให้เหม็นควันเหม็นน้ำมันอีก แต่คงอีกหลายปี

อีกอย่างอุทยานตอนนี้ก็ต้องหาจุดขายให้ตัวเอง แค่นี้ก็ไม่ถือว่าน่าเกลียดอะไร เป็นงานวิจัยไป

ส่วนพญาเสือโคร่ง มันก็ปลูกยากพอกันแหละ สมัยก่อนขึ้นแต่ในป่าลึก ไอ้ที่ปลูกๆกันตอนนี้คือม้งเอามาปลูกนานแล้ว ปลูกเป็นแนวกันที่ดินสมัยก่อน

หาเรื่องแดกทั้งงบวิจัย งบดูแล คนมาเที่ยวก็เก็บค่าตั๋วได้อีก

พรรณไม้สวยๆไทยมีเยอะแยะไม่โปรโมท จะไปเลียนแบบคนอื่นเขาอย่างเดียว

เค้าน่าจะหมายถึงสภาพอากาศที่เหมาะสม ในเขตประเทศไทยมากกว่าครับ ที่เหมาะสมก็น่าจะตามนั้น ละติจูดสูงก็น่าจะหมายถึงภาคเหนือในไทย สูง 1000 เมตรก็โซนภูเขาที่มีโอกาสอุณหภูมิ​ต่ำกว่าที่อื่นๆ

ผมไปไต้หวันเห็นเค้าเอาต้นซากุระญี่ปุ่นมาไว้ที่นั่นเหมือนกัน แต่เหมือนจะไม่ได้บานทุกปี ทั้งที่อากาศเย็นกว่าบ้านเรา

ขอนอกเรื่อง ซากุระที่ดอยอ่างขางสวยมาก

ก็ตามภารกิจเขาแหละ อุทยาน นันทนาการ และพันธุ์ไม้

ส่วนใหญ๋ญี่ปุ่นเค้าก็ปลุกเชิงพานิชทั้งๆ

ปลูกแล้วเอาคนมาเที่ยว ไม่จำเป็นต้องไปปลูกบนเขาสูงที่คนเข้าไปยาก แต่ปลูกที่ง่ายๆเช่น ข้างริมธาร ข้างคลอง ข้างแม่น้ำ สวนสาธารณะ มีกำหนดผู้ดุแลชัดเจน เค้าก็ทำได้ทั้งประเทศ

อเมกาเอาไปก้ไปปลูกในเมือง เกาหลีเอาไปก้ไปปลูกในเมือง เพื่อการท่องเที่ยวทั้งนั้น

ไม่ต้องถึงขั้นซากุระก็ได้

ชมพูพันทิพ หรือ พันธู์อื่นๆ มาปลูกกันเยอะ เรียงกันมันกก็สวย กลายเป็นที่เที่ยวได้หมด

ขึ้นอยู่กับว่าทำไม่ทำ

ข้อสรุปมันยังไม่ชัดเท่าไรครับ แต่ที่แน่ๆ ท่านเข้าใจถูกแล้วครับซากุระ ญป ไม่จำเป็น
ต้องอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลมาก เมื่อก่อนในไทยก็เคยเอามาทดลองปลูกหลายชนิด
จนไปเวิคกับพญาเสือโคร่ง ซึ่งชอบพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเล ปกติพื้นที่เดิมของพญาเสือโคร่ง
ก็พวกญี่ปุ่น จีน ทิเบต นี่แหละครับ มันจะบานช่วง มค-กพ ก่อนซากุระญี่ปุ่น ละไล่ระดับลงมาเรื่อยๆ
พอถึงช่วงมี.ค. ซากุระ ญป ที่พื้นราบก็จะบาน

ใช่เหมือนจะขึ้นง่ายกว่าด้วย ชมพูพันทิพย์

ปลูกเรียงกันสวยงามดี แต่มันขึ้นอยู่ที่สูงหน่อยอาจจะต้องจังหวัดทางภาคเหนือ ภาคอีสานก็ทรงบาดาลกับต้นคูณวนไป แต่ถ้าเคยไป ม.ข. ช่วงรับปริญญาก็จะรู้ว่ามันก็สวยดี