แถลงข่าวยาวที่สุดในประวัติศาสตร์
10 ชั่วโมง 23 นาที ดราม่าฟูจิทีวีสะเทือนญี่ปุ่น
คดีสะเทือนญี่ปุ่น เซเล็บชายคนดัง ลวนลามพิธีกรหญิงดาวรุ่ง เรื่องราวบานปลาย จนนำมาสู่ความวิบัติ ของสถานีฟูจิ ทีวี เรื่องราวเป็นอย่างไร เราจะสรุปทุกอย่าง ให้เข้าใจง่ายที่สุดโพสต์นี้
1) วันที่ 26 ธันวาคม 2024 นิตยสารบุนชุน รายสัปดาห์ (Shukan Bunshun) นำเสนอข่าวที่น่าตกใจว่า มาซาฮิโระ นากาอิ วัย 52 ปี ทำการล่วงละเมิด นักแสดงหญิงรายหนึ่ง ที่มีอายุ 20-29 ปี โดยที่ฝ่ายหญิงไม่ยินยอม โดยนากาอิ จ่ายเงินเป็นค่าปิดปากให้ฝ่ายหญิง เป็น จำนวน 90 ล้านเยน (19 ล้านบาท) เพื่อไม่ให้เรื่องไปถึงการแจ้งความ และ ศาล
นิตยสารบุนชุน คือสื่อเก่าแก่ในญี่ปุ่น ก่อตั้งในปี 1959 และเป็นคนนำเสนอข่าวสำคัญมากมาย เช่น เป็นสำนักข่าวแรกที่เปิดเผยใบหน้า 4 ฆาตกร ในคดีจุนโกะ ฟุรุตะ โดยระบุว่า คนชั่วช้าแบบนี้ไม่สมควรจะต้องปิดบังใบหน้า
รวมถึงนำเสนอข่าว ศิลปินคนหนึ่งจากวง AKB48 ที่ไปค้างคืนที่อพาร์ทเมนต์ของนักร้องบอยแบนด์วงหนึ่ง ซึ่งสุดท้ายศิลปินหญิงต้องออกมากล่าวขอโทษต่อสาธารณชน คือในเรื่องข่าวฉาว เป็นสำนักข่าวที่แม่นยำเลยทีเดียว
2) สำหรับ มาซาฮิโระ นากาอิ เขาคือศิลปินดัง ลีดเดอร์ของวง SMAP หนึ่งในบอยแบนด์ที่ดังที่สุดในเอเชีย ณ ปัจจุบัน เป็นเซเล็บสายบันเทิงที่มีรายได้มากที่สุดคนหนึ่งในประเทศ ปัจจุบัน ก็มีงานชุกมาก เป็นพิธีกรถึง 6 รายการ กับหลายๆ สถานีโทรทัศน์ ถือเป็นผู้โด่งดังในวงการบันเทิงญี่ปุ่น
ปกติแล้วข่าวในนิตยสาร ก็จะมีจริงบ้าง เท็จบ้าง แต่ในเคสนี้ เป็นข่าวที่มีมูล เพราะนิตยสารมีหลักฐานเต็มมือ คือถ้าไม่ยอมรับก็โดนแฉยับแน่ เมื่อเรื่องมันแดงหนักขนาดนี้ ทำให้ สถานีโทรทัศน์ ทั้ง นิปปอน ทีวี, ช่องทีบีเอส, ทีวี อาซาฮี, วิทยุนิปปอน บรอดคาสติ้ง และ ฟูจิ ทีวี ระงับการฉาย รายการที่นากาอิมีส่วนร่วมทั้งหมด
3) สุดท้าย นากาอิ ยอมรับว่าเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นจริง มีความสัมพันธ์กันทางเพศจริง แต่เขาไม่ได้ใช้ความรุนแรงกับผู้หญิงแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ต่อให้สารภาพแล้ว สังคมก็ไม่ยอมให้อภัย เพราะมันแทบไม่ต่างอะไรกับการขืนใจอีกฝ่าย
4) เมื่อโดนสังคมประณามข้ามวันข้ามคืน นากาอิ ประกาศอำลาวงการบันเทิงตลอดไป ในวัย 52 ปี และลบบัญชีแอคเคาน์ของตัวเองในทวิตเตอร์ทิ้งด้วย เรียกได้ว่า ทุกสิ่งที่สั่งสมมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น พังทลายในพริบตาเดียว
5) แต่ความดราม่าของเรื่องนี้ ไม่ได้เกี่ยวพันกับแค่ การกระทำของเซเลบริตี้คนหนึ่ง แต่บานปลายไปไกลกว่านั้น เพราะโยงใยไปถึงวัฒนธรรมองค์กรของสถานีโทรทัศน์ ฟูจิ ทีวี ด้วย
ฟูจิ ทีวี คือสถานีโทรทัศน์ที่เก่าแก่ของประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันมีอายุ 67 ปีแล้ว เป็นช่องทีวีที่ร่ำรวยมาก มีสินทรัพย์โดยรวม มูลค่ามากกว่า 8.4 แสนล้านเยน (1.8 แสนล้านบาท)
รายการดังๆ ออนแอร์ที่ช่องนี้นับไม่ถ้วน เช่น อนิเมะ (ดราก้อนบอล , ดาบพิฆาตอสูร และ วันพีซ) ละคร, เกมโชว์, รายการเพลง นอกจากนั้นยังถ่ายทอดสด ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย, การแข่งขันฟุตบอลของทีมชาติญี่ปุ่นทุกแมตช์ และ ฟุตบอลเจลีก อีกด้วย
6) สำหรับเหตุฉาวของนากาอิ กับ นักแสดงหญิงวัยรุ่น ต้องย้อนกลับไปในเดือนมิถุนายน 2023 เหตุการณ์เกิดขึ้นระหว่างงานปาร์ตี้อาหารค่ำแบบส่วนตัว โดย "สตาฟฟ์ A" ของสถานีโทรทัศน์ ฟูจิ ทีวี เป็นผู้นัดหมาย บอกฝ่ายหญิงว่า ให้มาร่วมกินข้าวกับ นากาอิ และ ผู้บริหารของฟูจิ ทีวี
เมื่อไปถึงที่หมายตามเวลา ปรากฏว่า ผู้บริหารฟูจิ ทีวี ไม่มีใครมาร่วมทานอาหารด้วยเลย จนเปิดโอกาสให้นากาอิ อยู่กับฝ่ายหญิง สองต่อสอง และจุดนั้น ก็เกิดเรื่องราวบานปลายขึ้นมา
สังคมจึงวิเคราะห์ว่า ฟูจิ ทีวี อาจจะ รู้เห็นเป็นใจแต่แรก จัดฉากให้นากาอิ ได้ทำการล่วงละเมิดผู้หญิงอย่างสะดวกแบบนั้น
7) ไม่ใช่แค่เรื่องนี้เท่านั้น แต่นิตยสารบุนชุน ได้เปิดเผยอีกข้อมูลว่า ในปี 2022 ผู้บริหารของฟูจิ ทีวี ได้นำพิธีกรหญิงในสถานี หลายคน มา "เอ็นเตอร์เทน" ให้นากาอิ กับเซเลบริตี้ชายคนอื่นๆ ความหมายคือ พิธีกรหญิงเหล่านั้น ถูกใช้เป็นแค่เครื่องมือเอามาบำเรอให้กับเซเลบริตี้ชายเท่านั้น
8 ) ประเด็นนี้ สะท้อนให้เห็นถึง "ค่านิยมในองค์กร" ว่ามองผู้หญิงเป็นอย่างไร เป็นแค่เครื่องมือ ในการสร้างความบันเทิงทางเพศให้ฝ่ายชายหรือไม่ สังคมต้องการทราบจุดยืนของฟูจิ ทีวี ในเรื่องนี้ และอยากรู้ว่า มีพนักงานเกี่ยวข้องกับการจัดหาหญิง ให้เซเล็บชายจริงหรือไม่
9) วันที่ 17 มกราคม 2025 ฟูจิ ทีวี จัดเพรส คอนเฟอเรนซ์ แถลงข่าวเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่กลายเป็นการ "เทน้ำมันลงในกองไฟ" ให้กับสังคมมากขึ้นไปอีก โดย โคอิจิ มินาโตะ ประธานฟูจิ ทีวี ออกมาแถลงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่พูดจาปกติเหมือนกับแถลงรายงานประจำเดือน
ในห้องแถลงข่าว ทางฟูจิ ทีวี เลือกแค่บางสำนักข่าวให้เข้ารับฟังได้ และไม่อนุญาตให้ช่างภาพของสำนักข่าวไหนเลย เข้าไปเก็บภาพ ยกเว้นแต่ช่างภาพของฟูจิ ทีวี เจ้าเดียวเท่านั้น แม้แต่สถานีแห่งชาติอย่าง NHK ก็ยังเข้าไปเก็บภาพไม่ได้ รวมถึงห้ามมีการไลฟ์สตรีมใดๆ ทั้งสิ้น และที่สำคัญคือ ประธานฟูจิ ทีวี จะไม่ตอบคำถามใดๆ ทั้งนั้น มาแถลงในมุมของตัวเองจบ ว่าจะมีการสืบสวนภายใน แค่นั้น แล้วก็กลับ
10) ในแง่การบริหาร Crisis Management นี่คือการกระทำที่ทำให้เกิดหายนะมากขึ้นกว่าเดิม คือถ้าเกิดวิกฤติ คุณต้องสู้ด้วยความจริงใจ โปร่งใส แต่อันนี้ ไม่สนใจ ไม่ตอบ ไม่รับฟังใครทั้งนั้น ทำให้สังคมยิ่งเดือดดาลไปกว่าเดิม เหมือนว่าจงใจปิดบังเรื่องแย่ๆ เอาไว้ใต้พรม ไม่ให้คนอื่นรับรู้
11) สังคมด่ากันทั้งประเทศ แม้แต่พนักงานของบริษัทตัวเองยังไม่พอใจ โดยศาสตราจารย์มาโมรุ นิชิยามะ จากมหาวิทยาลัย เจเอฟ โอเบอร์ลิน บอกว่า "ผู้บริหารของฟูจิทีวี ไม่ให้คำตอบอะไรเลย พวกเขาบอกว่า จะให้บุคคลภายนอกมาช่วยในการสืบสวน แต่ก็ไม่ให้ข้อมูลว่า บุคคลนั้นจะเป็นใคร คือคุณจะไปรู้ได้ไง เขาอาจจะไปจ้างคนที่สนิทสนมกับฟูจิ ทีวี มาช่วยสืบก็ได้"
12) เมื่อสังคมโมโห เหล่านสปอนเซอร์เองก็ต้องเทกแอ็กชั่น สินค้ามากกว่า 70 ชิ้น ประกาศถอนตัวจากการเป็นสปอนเซอร์ให้ฟูจิ ทีวี แบรนด์ใหญ่ๆ อย่าง โตโยต้า, แม็คโดนัลด์, เบียร์อาซาฮี ฯลฯ ทุกแบรนด์ตัดสัมพันธ์หมด ตอนนี้ฟูจิ ทีวี วิกฤติทุกอย่าง ปัญหาก็ยังแก้ไม่ได้ แล้วรายได้ก็หายอีก
13) สื่อมวลชนทั่วญี่ปุ่น และพนักงานบริษัทเอเยนซี่โฆษณา มากกว่า 17,000 คน ลงชื่อกดดันให้ฟูจิ ทีวี ให้ออกมาตอบคำถามให้ดีกว่านี้ เมื่อแรงกดดันถาโถมจนทนไม่ไหว ผู้บริหารของฟูจิ ทีวี จึงตั้งโต๊ะแถลงข่าวอีกครั้ง ในวันที่ 27 มกราคม 2025 คราวนี้สื่อมวลชนทุกสำนักเข้าได้หมด และ สามารถถามได้ทุกคำถาม นอกจากนั้นเป็นการแถลงข่าวที่ไม่มีกำหนดเวลาจบ คือจะสิ้นสุดจนกว่าคำถามของนักข่าวจะหมด
14) ในห้องแถลงข่าว มีนักข่าว 437 คน จาก 191 สำนักข่าว อัดแน่นในห้องประชุม โดยงานแถลงข่าวเริ่มต้นตั้งแต่เวลา 16.00 ลากยาว 10 ชั่วโมง ไปจบเอาในช่วง 2.23 น.ของวันใหม่ โดยถ่ายทอดสดบางช่วง ทางช่องฟูจิ ทีวี
ปรากฏว่า เรตติ้งในงานแถลงข่าวครั้งนี้ พุ่งกระฉูดเป็นอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น ผู้คนนั่งฟังไปเรื่อยๆ โดยในช่วงพีก มีเรตติ้งสูงถึง 13.1 เลยทีเดียว ถือว่าในวิกฤติ ก็ยังอุตส่าห์ได้เอนเกจเมนต์ของสถานี
15) นักข่าวจี้ถามอย่างต่อเนื่อง แม้หลายๆ คำถามจะซ้ำกันก็ตาม โดยคนที่มาตอบคำถาม มี 5 คน โดยในจำนวนนั้น คือ ประธานบริษัท ฟูจิ ทีวี โคอิจิ มินาโตะ กับ ประธานกรรมการ ของฟูจิ มีเดีย โฮลดิ้ง ชื่อ ชูจิ คาโน่ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของฟูจิ นั่งตอบคำถามตั้งแต่แรก
16) ทางฟูจิ ทีวี อธิบายในหลายๆ ประเด็น เช่น
- ที่ไม่ได้มีการสืบสวนการกระทำของนากาอิ ตั้งแต่แรก เพราะเข้าใจว่า สองฝ่ายมีการตกลงไกล่เกลี่ยกันได้เรียบร้อยแล้ว ถ้ามีการสืบสวน ก็จะเสียหายทั้งตัวนากาอิเอง และฝ่ายหญิง
- ประธานมินาโตะ บอกว่ารู้เรื่องนี้ ตั้งแต่แรกแล้ว แต่ไม่เอาเรื่องนี้เข้าสู่บอร์ดที่ประชุมเอง และเขาก็รู้สึกเสียใจในการตัดสินใจของตัวเอง
- พนักงาน A ระบุว่า เป็นคนนัดแนะฝ่ายหญิงให้ไปเจอนากาอิจริง แต่หลังจากนั้นก็ไม่รู้แล้วว่า สองคนจะทำอะไรกัน เมื่ออยู่ลำพัง
17) สรุปคือ ตลอดกาลแถลงข่าวก็ไม่ได้คำตอบอะไรที่ชัดเจนมากนัก แต่สุดท้าย ประธานโคอิจิ มินาโตะ และ ประธานกรรมการของกรุ๊ป ชูจิ คาโน่ ประกาศลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบ โดยให้ เคนจิ ชิมิสุ โปรดิวเซอร์อนิเมะ ชื่อดัง อย่าง ดราก้อนบอล, คนเก่งทะลุโลก และ ดร.สลัมป์ กับ อาราเล่ ขึ้นมาเป็นประธานบริษัทคนใหม่แทน
18) จากนี้ไปจะเริ่มขบวนการสืบสวนโดยบุคคลภายนอก ว่าเหตุการณ์ ที่ฟูจิ ทีวี ติดต่อให้พิธีกรหญิง และดาราวัยรุ่น ไปเป็นเหมือนนางบำเรอของเซเลบริตี้ชายเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ซึ่งคงต้องใช้เวลาสักระยะกว่าจะได้คำตอบ ในขณะที่แบรนด์สินค้า ที่ถอนตัวออกไปแล้วมากกว่า 70 แบรนด์ แม้จะจบการแถลงข่าวแล้ว ก็ยังไม่กลับมาสนับสนุน ดังนั้นทางฟูจิ ทีวี คงต้องสร้างความเชื่อใจกันใหม่ตั้งแต่แรก ทั้งกับคนดู กับพนักงานตัวเอง และกับแบรนด์ลูกค้า
19) หลังจากมีเรื่องของนากาอิ กับ พิธีกรหญิง หลุดออกไป ผู้หญิงญี่ปุ่นเริ่มมีการตื่นตัวมากขึ้น เกี่ยวกับประเด็นการโดนล่วงละเมิดทางเพศ โดยยูทูบเบอร์สาว ชื่อ คานง อาโอกิ ออกมาเปิดเผยว่า เธอเคยโดน "ดาวตลกระดับประเทศ" ทำการลวนลาม ตอนร่วมงานกันที่ฟูจิ ทีวี
20) ในเคสของฟูจิ ทีวี เป็นประเด็นใหญ่มากที่ประเทศญี่ปุ่น และทำให้เห็นว่า ผู้หญิงที่ญี่ปุ่นยังต้องเจอกับการโดนคุกคามอย่างต่อเนื่อง แม้กระทั่งทำงานในบริษัทระดับประเทศก็ยังไม่เว้น ซึ่งถ้าหากฟูจิ ทีวี ไม่สามารถเคลียร์ตัวเองให้โปร่งใสได้ล่ะก็ คงต้องใช้เวลานานมากๆ กว่าจะกลับมาอยู่จุดสูงสุดแบบที่เคยทำได้อีกครั้ง
สำนักข่าว TODAY
สำนักข่าวออนไลน์ เปิดความรู้ ดูทูเดย์
#สำนักข่าวทูเดย์
#MakeTomorrowTODAY