ก็เป็นไปได้จริงๆนะ ซึ่งส่วนตัวคิดว่าค่อนข้าง Make sense ถ้าขอลดค่าเหนื่อย แล้วไปยัดโบนัส + จำนวนปี

แต่นั้นแหละครับ เราไม่รู้ว่ายื่นไปเนี่ยขอลดยังไง แค่ไหน ก็ปล่อยให้มันเป็นหน้าที่ของทีมบริหารไป

นักเตะจ้างเอเยนต์ มาเพื่อต่อรองผลประโยชน์ของตัวเอง เจ้าของมันก็จ้าง Dof มาต่อรองเช่นกัน

ซึ่งผมเห็นด้วยกับคนเขียนว่า สุดท้าย มันต้องแชร์ความเสี่ยง ไม่ใช่ผลักทั้งหมดไปที่ฝั่งใดฝั่งหนึ่ง

จากที่ดูข้อมูลมาทั้งหมด เงินมีแหละ แต่ไม่อยากให้เสียโครงสร้าง

เหตผลคือ รายได้ปีนี้จะสูงขึ้นเยอะมาก

จาก ucl จากท็อปโฟร์
จากการเปลี่ยนสต๊าฟ จากการไม่ซื้อตัวปีนี้
จากการขายเยาวชน

มองในฝั่งของ FSG
เพื่อความยั่งยืนขององค์กร
ในเรื่องของฟอร์มของโมที่อาจจะดรอปลงไม่มีอะไรการันตีและมีปัจจัยควบที่จะฟอร์มดรอปลงมาจากอายุ
เลยให้โบนัสมากขึ้นจากการยิงและลงเล่น จึงปรับค่าเหนื่อยลดลง

มองฝั่งของนักเตะ
อายุเยอะแล้วเตะได้อีกไม่กี่ปี ฟอร์มตอนนี้ดีสุดๆ เป็น core ทีม เป็นคนสำคัญพาทีมลุ้นทุกแชมป์เลยตอนนี้
แถมใจอยากอยู่กับทีมอยากเป็นตำนานทีมนี้ อยากได้ดีลที่ดีกว่าเดิม หรือ ขอสัญญาแบบเดิมก็ได้ อย่างน้อย 2 ปี

พอมาถัวเฉลี่ย ลองเพิ่มปัจจัยเสริมที่มาจากความคิดส่วนตัว
1. สัญญาของ FSG เมื่อเทียบกับสโมสรอื่นๆแล้ว ที่เป็นสโมสรระดับใหญ่เดียวกันนั้นถือว่าให้น้อยไหม
ตามคหสต คิดว่าต่ำเตี้ยมากเมื่อเทียบกับสโมสรอื่นๆ แต่พวกเราก็ไม่ทราบเรื่องสัญญาการลงเล่นโบนัส ลิเวอร์พูลอาจจะให้เยอะมาก
2. FSG มี Potential ที่จะสามารถ Cover ค่าเหนื่อยตามที่นักเตะขอได้ไหม
คิดว่าได้สบายๆ

คือถ้ามองสัญญากรณีของโม
1. ให้ค่าเหนื่อยเท่าเดิม ลดโบนัส สัญญา 2 ปี
2. ให้ค่าเหนื่อยน้อยกว่าเดิม เพิ่มโบนัส สัญญา 2 ปี
3. ให้ค่าเหนื่อยเท่าเดิม เพิ่มโบนัส สัญญา 1 ปี

กรณีของ VVD ซึ่ง คหสต VVD น่าจะยืนระยะได้นานกว่าโม
1. ให้ค่าเหนื่อยเท่าเดิม เพิ่มโบนัส สัญญา 2 ปี
2. เพิ่มค่าเหนื่อย ลดโบนัส สัญญา 3 ปี

กรณี trent อันนี้ขอไม่พูดเพราะ นักเตะไปไม่ไปอยู่ที่ใจมากกว่าสัญญา คิิดว่า

ผมว่ายังเจรจากันอยู่ ใจนักเตะน่าจะอยากอยู่ ทั้งโมทั้งกัปตัน เพราะคิดว่าต้องมีคนมาทาบทามแล้วแน่นอนทีนี้ข้อเสนอของทีมที่เข้ามาน่าจะใกล้ๆเคียงกัน แต่นักเตะน่าจะยังขอเจรจาสัญญาทีมเก่าอยู่มากกว่า

ฟังดูเลอะเทอะ มีใครเค้าต่อสัญญาแล้วขอลดค่าเหนื่อยในช่วงที่นักเตะและฟอร์มของทีมกำลังดี ?!?
เกลียด FSG เป็นทุนเดิม ข่าวอะไรแบบนี้ออกมายิ่งชอบเลย ข่าวจริงไหมไม่รู้ กรูใส่ก่อนได้เปรียบ

คหสต. โมเรียกไม่น้อยอยู่แล้ว แต่ยังอยากเล่นในลีคระดับสูง ถ้าเอาแค่เงินเพียวๆ มันไปซาอุละ แต่โมไม่รับเท่าเดิมแน่ ๆ
จากการต่อสัญญาครั้งที่แล้ว ฟอร์มมันกดดันบอร์ดได้ด้วยไง

จากสื่อท้องถิ่นอียิป อะ

ก็ถ้ามันจริงตามข่าว มันน่าด่ามั้ยล่ะครับนั่น

ฟอร์มดีสุดๆขนาดนี้มาตั้งกี่ปี ตอนนี้ก็ยังดี

แต่จะต่อสัญญา อาจเป็นสัญญาฉบับสุดท้ายในชีวิตค้าแข้งแล้วก็ได้ กลายเป็นต้องลดค่าเหนื่อยอีก

และถึงเจ้าตัวจะฟอร์มดรอปบ้างด้วยอายุที่มากขึ้น มันก็ควรเป็นการซื้อใจ+ตอบแทนนักเตะระดับนึง

ว่าที่ผ่านมาเป็นมืออาชีพมาตลอด ผลงานดีไม่ตกทุกปี

ในบั้นปลายอาชีพ เขาก็อยากได้ความมั่นคงบ้าง ไม่ใช่ว่าจ่ายตามโบนัสตามผลงาน พอฟอร์มดรอปปุ๊บ ตังหายวับ

ลองนึกเป็นเราทำงานสิ ถ้าต้องประเมินจ่ายเงินเดือนรายวัน แบบนี้เราโอเคจริงดิ?

ผมว่าเราจะรู้สึกว่าโดนดูถูกด้วยซ้ำ ไม่ไว้ใจกับฝีมือเรา ว่าเราทำงานได้ดี ไม่เชื่อมือกันทั้งๆที่พิสูจน์มาตั้งเท่าไหร่

และในระดับความเสี่ยงของสัญญา 2 ปี ตีค่าเหนื่อย 400k ไป รวมๆก็ 41m กับการหาตัวแทน

คิดว่าหาตัวแทนระดับบังโม ได้ด้วยเงินก้อนนี้จริงดิ?

แถมสภาพสโมสรก็เงินล่ำซำ รายได้ทำลายสถิติเอาทุกปีๆ ไม่ใช่ใกล้จะล้มละลายแล้วไม่มีปัญญาจ่ายเลยสักนิด

ผมเป็นบังโม หรือฟานไดค์ ผมก็ไม่ยอมให้สโมสรหักคอกันแบบนี้หรอก

เรื่องโมต่อไม่ต่อนี่ช่างแม่งละ ลองดูเคสเก่าๆของหงส์สิ ใครเกิน 30 พวกปล่อยออกหมดไม่สนฟอร์มหรอก

ข่าวหลากหลายมากจนไม่รู้ว่าอันไหนข่าวจริง อันไหนข่าวปลอมเลย

แล้วถ้าฟอร์มไปดรอปแบบพวก aubameyang alexis งี้ยังจะพอใจไหมครับ แล้วได้ไปดูงบการเงินกับกฏการเงินประกอบปะครับ อย่าลืมว่าพวกนักเตะยังมีหลายคนรอต่อสัญญาใหม่อีก ถ้าต่อให้โมแบบที่ขอเท่าไหร่ก็ให้แล้วgapมันเต็มกฏการเงิน สรุปนักเตะคนอื่นคือต่อไม่ได้คือคุณก็ยอมแค่เพราะจะซื้อใจหรอครับ

แล้วโอบา กับ Alexis เคยได้พิสูจน์ผลงานระดับบังโมมาตลอดหลายปีบ้างมั้ยครับ?

งบการเงินดูประกอบสิครับ ถึงพูดได้ว่ารายได้ทำลายสถิติ รวมถึงเห็นค่า wage bill ที่เพิ่มขึ้นมาอย่างไม่สมเหตุสมผลด้วย

ส่วนนักเตะคนอื่นที่รอต่ออยู่ ถามจริงคิดว่าเขากล้าเรียกค่าเหนื่อยระดับเท่าบังโมหรอครับ?

ถ้านักเตะตั้งใจจะอยู่ต่อ เขาประเมินพร้อมเอเย่นได้อยู่แล้วครับ ข้อเสนอแบบไหนที่ยอมรับได้

และถ้าตั้งใจจะอยู่ต่อ ก็คงไม่เรียกร้องเวอร์เกินความสามารถของสโมสรไปหรอกครับ

แล้วถ้าการเพิ่มค่าเหนื่อยมันทำให้ถึง cap ที่ว่า 70-85% ของรายได้จริงๆ ก็ไปเพิ่มรายได้ topline เอาสิครับ

ตามงบ รายได้ก็โตมาตลอดจนสูงเป็นประวัติการณ์ ถ้าทำให้รายได้โตต่อไม่ได้ พวกผู้บริหารก็ไม่ควรอยู่ต่อครับ เพราะมันหน้าที่เขา

เพราะงั้นการที่เขาเลือกจะเจรจาค่าเหนื่อยตรงนี้ มันก็แค่การคุมต้นทุน เพื่อให้กำไรสโมสรออกมาสูงสุดก็แค่นั้นอ่ะครับ

ถ้ามีโบนัส ยิงประตู สูงขนาด 150k จริง ผมจะไม่แปลกใจเลยทำไมบางนัดบังโมมันเห็นแก่ตัวอยากยิงเอง พอโดนเปลี่ยนออกก็ไม่พอใจ
แถมอาจมีโบนัสดาวซัลโวให้อีกก็ได้ พอเห็นว่าตัวเองมีลุ้นมันก็ยิ่งอยากยิงเอาโบนัสดาวซัลโว

บางทีการจ่ายโบนัสแบบนี้มันก็เป็นดาบสองคมล่ะครับ นักเตะจะทุ่มเททำผลงานเต็มที่ แต่แฟนบอลก็ต้อวเข้าใจถ้ามันจะเล่นเห็นแก่ตัวบ้าง

ในมุมนักเตะแล้วจะลดทำไมอะในเมื่อ base มันการันตีว่าได้แน่ๆ โบนัสมันไม่ชัวร์จะได้
เปรียบเสมือนเซลส์บริษัทขอลดเงินเดือนแล้วให้ไปเพิ่มยอดขายเอาดิอยากได้เท่าเดิมก็ขายให้ได้มากขึ้นดิ ต้องเหนื่อยมากขึ้นพยายามมากขึ้นเพื่อให้ได้เงินเท่าเดิม บริษัทนี้ยังจะน่าทำงานด้วยหรอนอกจากไม่มีที่ไป

ต่างกันนิดนึงนะฮะ..ถ้าเทียบอาชีพเซลล์

กรณีโม ก็เปรียบเหมือนเดิมได้ค่าคอม 20% แต่ contact ใหม่บริษัทฯขอเปลี่ยนเป็นเพิ่มค่าคอมให้ 50 % เลยแต่ขอลด base salary

ถ้าโมมั่นใจว่าขายได้ยอดเท่าเดิม ก็ได้เงินต่อเดือนเท่าเดิมหรือมากกว่าเดิมแน่ๆฮะ ไม่จำเป็นต้องเหนื่อยขายมากขึ้นเพื่อได้เงินเท่าเดิม

คำถามจากพนักงาน(โม) ก็คือ "อ้าว..ถ้ายอดขายตกลงไปไม่เท่าเดิมที่เคยทำ ผมก็ได้เงินน้อยกว่าเดิมสิ??"

บริษัทก็จะตอบว่า "อ้าว ก็ถ้าคุณคิดว่าผลงาน(ยอดขาย)จะไม่เท่าเดิม ทำไมคุณยังยืนยันขอเงินเท่าเดิม หรือเพิ่มขึ้นอีกล่ะ??"

การเจรจามันก็จะประมาณนี้แหละฮะ

ในมุมลูกจ้าง base เยอะกว่าคงไม่อยากลดนอกจากรักองกรค์จริงๆหรือไม่มีที่ไป ต้องรอดูจะออกมุมไหนแต่ผมอยากให้ไปนะ