พอล เมอร์สัน กุนซือพันดิทคนดังเชื่อว่า รูเบน อโมริม คงนึกเสียใจที่ตอบรับเผือกร้อนเข้าคุมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลางฤดูกาล

อโมริม ชนะเพียง 3 นัดจาก 11 เกมในพรีเมียร์ลีกที่คุม “ปีศาจแดง” นับตั้งแต่รับงานเมื่อเดือนพฤศจิกายน โดยเก็บไปได้ 11 คะแนนเท่านั้น

ขณะที่ เอริค เทน ฮาก กุนซือคนก่อนเก็บไปได้ 15 คะแนนจาก 11 เกมก่อนจะถูกไล่ออก และหลังจากการเปลี่ยนแปลงระบบอย่างรุนแรง แนวคิดการเล่นของ อโมริม ก็ดูเหมือนจะไม่เป็นที่ยอมรับ

ทางด้าน เมอร์สัน กล่าวว่า อโมริม จะตั้งคำถามว่าเขาควรเข้ามารับงานใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด หรือไม่ หลังจากที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างน่าผิดหวัง

“ชายคนนี้มีอายุ 39 ปีเองนะ ผมหมายถึงว่ามีนักเตะหลายคนเลยนะที่กำลังจะจบอาชีพค้าแข้งในวัย 38 ปี” เมอร์สัน กล่าวในรายการ Sky Sports เมื่อวันเสาร์

“เขายังเด็กและเข้ามารับงานคุมทีม เขาทำผลงานได้ดีในโปรตุเกส เขาได้ย้ายมาอยู่กับหนึ่งในสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในโลก แม้ว่าตอนนนี้พวกเขาจะไม่ใช่ทีมที่ดีที่สุดในโลก แต่เป็นหนึ่งในสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในโลก”

“และเขาก็พบว่ามันเป็นงานที่ยาก ความกดดันกำลังตกอยู่ที่เขา มีคนบอกกับเขาว่า คุณต้องกลับไปแก้ไขตรงนั้นและเริ่มโทษตัวเองเล็กน้อยที่นี่ เพราะนักเตะหลายคนขาดคุณสมบัติบางอย่าง พวกเขาขาดสิ่งนั้น พวกเขาจะไม่นั่งอยู่ที่นั่นเพื่อพูดแบบนั้น และมันจะเป็นงานยากสำหรับเขา”

“ผมไม่เห็นว่าเรื่องนี้จะเปลี่ยนไปอย่างไร ต่างกับกรณีของ ท็อตแนม ผมกลับเห็นว่าเมื่อพวกเขากลับมาได้ ผมจะคิดว่า “โอ้ ใช่แล้ว พวกเขาจะสร้างปัญหาได้ในวันที่พวกเขาเข้าฟอร์ม” โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีการเล่นของพวกเขา”

“ผมคิดว่าในใจลึกๆ ของผู้จัดการทีมคงคิดว่า “เขาควรรับงานนี้หรือเปล่า?” เขาไม่อยากรับงานนี้ไปจนจบฤดูกาล และผมคิดว่าตอนนี้เขาคงจะนั่งคิดอยู่ว่า 'ผมไม่แน่ใจว่าผมทำหน้าที่นี้ได้ไหม'”

“ผมไม่คิดว่าจะเป็นแค่เขาคนเดียวหรอกนะ ผมคิดว่าผู้จัดการทีมทุกคน ผมคิดว่าพวกเขาคงดูกฎการเงินแล้วว่าพวกเขาห่างจากจุดนั้นแค่ไหน และลองดูว่าพวกเขาอยู่อันดับไหนในลีก พวกเขาอยู่อันดับที่ 13 ของลีก แม้แต่ บอร์นมัธ ยังมีผู้เล่นที่ดีกว่า ผมหมายถึงว่า เรื่องแบบนี้มันเคยเกิดขึ้นเมื่อไหร่กัน?'

เสียใจทำไม ได้ตังตั้งเยอะ โดนปลดก็ได้อีก

มันก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ แต่ส่วนตัวก็คิดว่าถ้ามาตอนเริ่มฤดูกาลแต่แรกน่าจะดีหว่านี้เยอะ สู้ๆ ครับ

ไม่อาจอ่านใจอโมริมได้

แต่ก็คิดเหมือนกันว่ารับงานตอนปิดฤดูกาลดีกว่า มีเวลาซ้อมแผน เสริมนักเตะ

ก็บอร์ดไปกดดันเอง now or never แถมแทรกแซงการทำงานตาแดนด้วย

Move เน่าสองครั้งติดๆ ต่อ eth ทุ่มเงินให้แล้ว แล้วก็ไปเอาโค้ชใหม่คนละสไตล์มา

เคสนี้ผมว่าต้องด่าไอ้พวกบอร์ดนะ

ตัดสินใจผิดไปตั้งกี่ครั้ง อย่างที่ท่านอื่นๆบอก

ไม่ปลดเทนฮากซะตอนจบฤดูกาล

แถมให้เงินช็อปวอดวายไปเยอะอีก สุดท้ายปลดกลางครรภ์ แล้วกดดันคนที่ชีวิตอยู่ดีมีสุขอยู่แล้วให้มารับงานบ้าๆ ทั้งที่สไตล์โคตรจะต่างกัน

ถ้าไม่บ้าก็เมาแล้วแหละ ไอพวกบอร์ด

รู้ดีกว่าเจ้าตัวอีก

ถ้าอโมริมพาทีมกลับมาได้ในซีซั่นหน้า ไม่ต้องถึงแชมป์หรอก

แค่พาทีมอยู่หัวแถว ลุ้น UCL ยาวๆ จนท้ายซีซั่น เท่านี้ก็เก่งเกินอายุแล้ว

กับสภาพทีมที่เต็มไปด้วยนักเตะไม่เอื้อต่อการใช้งานในแผนตัวเอง

สภาพบอร์ดที่คิดแต่เรื่องลดค่าใช้จ่าย ปลดคนงาน ขายนักเตะ

และสภาพการเงินที่ขยับซื้อใครก็โคตรลำบาก

แต่พี่ก็ต้องผ่านซีซั่นนี้ให้ได้ก่อนนะ

อโมริมไม่พลาดหรอกรับงานคุมผี

ผิดที่บอร์ดนั่นแหละ ไม่ปลดฮากตั้งแต่ซัมเมอร์

ผมเข้าใจสถานการณ์ทุกฝ่ายนะ..

แมนฯยูฯก็กลัวว่าเดี๋ยวรอจบฤดูกาลจะโดนทีมอื่นฉก (ตอนนั้นซิตี้ฯยังไม่ต่อสัญญาเป๊บ แถมกำลังได้ DOF ของลิสบอนมาทำงานด้วย)

ก็เลยไปตั้งเงื่อนไข now or never บีบทางอโมริมซะอย่างงั้น..อันนี้ไม่รู้ว่าจริงๆมันสามารถเซ็นล่วงหน้ากันได้มั๊ย แต่ทีมจะเอาเลยอ่ะ

พี่เจ๋งแกก็กลัวเงื่อนไขนี้เหมือนกันแหละ โอกาสคุมทีมใหญ่ของอังกฤษ เอาจริงๆแกก็อยากจะย้ายตั้งแต่ซัมเมอร์ก่อนหน้านั้นละ

ก็คงกลัวพลาดเดี๋ยวไม่มีโอกาสนั้นอีก เลยยอมตามข้อเสนอ ย้ายเลย (เสียดายเหมือนกันตรงที่ลิสบอนกำลังทำสถิติโคตรสวยเลย)

กลายเป็นจังหวะนรก..เรือเองก็ไม่ได้จะเอา เพราะต่อสัญญาเป๊บออกไปได้ แถมอโมริมเองก็ปรับเปลี่ยนทีมกลางฤดูกาลลำบาก

แต่เรื่องเสียใจมั๊ย ก็คงไม่หรอกมั๊ง ย้ายมาทีมใหญ่ ชื่อเสียง,เงินเดือนมากกว่าเดิมตั้งหลายเท่า..สมมติตกงานก็ยังเนื้อหอมอยู่แหละ

ยังไม่ได้สร้างทีมตัวเองเลย จะรีบเสียใจไปทำไม

เสียใจทำไม ได้ตังส์เพิ่ม โดนปลดก้ได้ตังส์ หางานใหม่ก้ไม่ยากหรอก ยังมีชื่อเสียงอยู่

โทษบอร์ดเถอะ

ไร้สาระ

บอร์ดโง่ตั้งแต่ต่อสัญญาแรช + ไม่ยอมปลดฮวยตั้งแต่จบฤดูกาลละ