ถ้าอนาคต AI มีทักษะที่สามารถทำทุกอย่างแทนมนุษย์ได้ และ ทำได้เก่งกว่ามนุษย์

คำถามคือ เด็กรุ่นหลังๆที่เรียนจบมา จะหางานได้ไหม ลำพังสมัครงานสู้กับคนที่มีประสบการณ์สูงก็กระอักเลือดแล้ว นี่ยังต้องมาเจอ AI ที่มีความเก่งกว่าคนที่มีประสบการณ์สูงอีก

ถ้ามาทรงนี้ นายจ้างคงจ้างคนเพียงไม่กี่คนให้มาบังคับ AI ก็พอ ไม่ต้องจ้างมาเป็นทีมทุกตำแหน่งเหมือนอย่างในอดีตแล้วไหมครับ

ถ้าแบบนี้ เด็กรุ่นหลังที่อุตส่าห์เสียเวลาเรียนมา 20 ปี เด็กพวกนี้ส่วนใหญ่จบออกมาจะมีงานทำไหมครับ

แล้วทำไมถึงตอนนั้นยังจะมีนายจ้างที่เป็นมนุษย์อยู่ล่ะครับถ้า AI มันไปได้ขนาดนั้นแล้ว?

AI น่าจะแพงกว่าคนงาน ทั้งค่าแรกเข้า ค่าบำรุงรักษา ต่างๆ ในจุดเล็กๆน้อยยังไงก็ใช้คนก็สะดวกกว่า

มนุษย์เราไม่ได้ราคาแพงอะไร

โลกมันก็วนลูปแบบนี้นั้นละเดี่ยวต่อไปผมเชื่อว่าสิ่งที่ดูยาก ๆ วันนี้จะง่ายในอนาคต

ยกตัวอย่างง่าย ๆ สมัยก่อนมีอาชีพพิมดีด ใครพิมดีดเป็นในยุคนั้นมีแต่คนต้องการ สมัยนี้เด็ก 3 ขวบมันยังพิมเป็นเลย

สมัยก่อนตัดต่อใคร ๆ ก็มองว่ายากสมัยนี้ ใคร ๆ ก็ทำได้ ถ้าถามว่าเรียนเสียเวลาไหม ก็ถทอว่าได้ความรู้ไปแล้วกัน

เอาง่าย ๆ สมัยผมเรียน วิทยุ เพื่อเรียนเอาใบประกาศเพื่อเอาไปใช้ในอาชีพดีเจ ปีสุดท้ายที่ผมเรียนดันยกเลิกใบประกาศนี้ ใคร ๆ ก็เป็นดีเจได้ ... เพราะงั้นที่ผมเรียนมาเที่ยวท้องเที่ยวอ่านข่าวพระราชสำนักให้ถูกเอาไปสอบก็ไร้ค่าทันที

ผมมองว่าอนาคต AI มันจะทำงานแทนคนในวันนี้ได้แน่นอน แล้วคนจะไปทำอย่างอื่นที่ AI ทำไม่ได้แทน

AI เป็นเครื่องมือครับ

อยากมีงานทำ หลักสูตรการเรียนการสอน หรือความตั้งใจของนักเรียนเอง

ที่จะอยากใช้เครื่องมือ AI ถึงจะรอด

ยุคข้างหน้าจะไม่มี ยวนๆ ไม่ Go Hard ก็ต้อง Go HOME อย่างเดียว

K-Shaped ในตลาดแรงงาน
“คนที่พร้อมในยุคสมัยนี้ ไม่ใช่คนที่มีปริญญา แต่ต้องมีความคล่องตัวด้านอาชีพ มีความพร้อมที่จะดิสรัปอาชีพของตัวเองตลอดเวลาเพื่อไปกับธุรกิจที่ปรับตัวได้”

การปรับตัวคือทักษะที่สำคัญ มิเช่นนั้น เราจะเข้าสู่สภาวะที่มีแรงงานเพียง 2 กลุ่มเท่านั้นที่กลายเป็นผู้รอด โดยกลุ่มแรก เกียรติอนันต์เรียกว่า ‘ซูเปอร์เป็ด’ หมายถึงกลุ่มคนที่มีความรู้รอบด้าน และรู้ว่าเมื่อไหร่ควรจะดึงศักยภาพออกมาใช้เพื่อทำให้ตัวเองเเกร่งขึ้น กระทั่งกลายเป็นซูเปอร์เป็ดในด้านนั้นๆ

กลุ่มที่สองคือ ‘Jobs Innovators’ หมายถึงกลุ่มคนที่สามารถสร้างงานได้ในแบบที่คนทั่วไปคิดไม่ถึง เช่น รับจ้างงานเอนเตอร์เทนโดยการไปอ่านหนังสือให้คนฟัง คนทั้งสองกลุ่มนี้จะกลายเป็นผู้รอด โดยทิ้งห่างคนจำนวนมหาศาลไว้ที่หางของตัว K-Shaped เมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งที่ตามมาคือ ความเหลื่อมล้ำด้านรายได้

ช่วงรอยต่อนี้อาจจะใช่ เด็กจบใหม่ ไปจนถึงพวกทำงานไม่ได้เรื่องจะถูกแย่งงานไป
แต่สักพักจะไม่แล้วล่ะ AI จะถูกบรรจุให้เป็นอะไรที่ต้องเรียนตามสาขาของตัวเองไป รุ่นนั้นจบมาก็ใช้ AI ในการทำงาน ยังไงปริมาณงานก็น่าจะสัมพันธ์กับอัตราเกิดที่ก็ลดลงเหมือนกัน

ก็ภฃถ้าระบบต้องการแรงงานน้อยลง การเรียนการสอนอนาคตก็จะมุ่งเน้นให้เด็กคิดค้นธุรกิจของตัวเองแทน อันนี้ผมเดานะ ก็ปรับเปลี่ยนกันไป

ผมว่าไม่ AI จะมาช่วยมากกว่า อย่างให้AIเจนโค้ดสุดท้ายก็ต้องมาเกลาเองอีกว่าส่วนไหนใช้หรือไม่ได้ใช้

อีก 5-10 ปี AI อาจจะเจนมาแบบที่ไม่ต้องเกลาก็ได้ครับ

AI ทำไม่ได้ทุกอย่างหรอกครับ

งานบางอย่าง ก็ยังต้องใช้มนุษย์ เป็นคนทำ

ต่อให้มี หุ่นยนต์ AI แล้วก็ตาม

ไม่มีทางครับยังไงก็ต้องจ้างโปรแกรมเมอร์ที่เป็นคนอยู่ดีครับ

ผมขอแชร์ประสบการณ์ที่ใช้ AI chatgpt แบบจ่ายตังและเรียนรู้มันมาสักพักนึงละกันครับ และใช้มันช่วยเขียนงานวิจัย

ข้อดีของ AI คือ ตอบสนองดี เข้าใจง่าย และช่วยทำงานที่เป็น routine ซ้ำๆได้รวดเร็ว

้ข้อเสียของ AI คือ ข้อมูลยังไม่แม่นยำ (ระดับเฉพาะทาง) ข้อมูลที่พิมให้เรามา ยังขาดแหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ และถ้าถามรายละเอียดลึกๆ ยังมีข้อมูลบางส่วนที่พิมไม่ได้ หรือ เจาะลึกได้ไม่มากพอ

ดังนั้นความเห็นผมคือ งานที่โดน AI แย่ง (คือเรียกได้ว่าหายไปในอนาคตเลย) คืองานง่ายๆที่ทำโดยใช้ความรู้เดิมๆแบบไม่เปลี่ยนแปลง เช่น แปลภาษา, ความรู้พื้นฐานทั่วๆไป (ระดับต่ำกว่ามัธยม), คนทำงานเอกสาร, ให้มันคิดภาษี เรื่องพวกนี้ถ้าให้ข้อมูลดีๆมัน ทำได้รวดเร็วมาก

ผมว่างานที่ไม่มี AI แย่งคืองานที่ต้องยุ่งเกี่ยวกับคน เช่นงานบริการ, งานที่ต้องชำนาญระดับ expert ชนิดที่ AI ให้คำตอบคุณไม่ได้, งานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์

ตอนนี้ลองใช้ใมันวันละ 2-3 ชั่วโมงต่อวัน พบว่าฝีมือมันผมให้ intermediate คือเก่งกว่าเด็กจบใหม่ ดังนั้น คนต้องรีบพัฒนาตัวเองไปจนถึง expert ให้เร็วที่สุด

อนาคตผมมองว่า AI จะมาแทนที่เราหลายๆอย่าง ผมนึกภาพมันเสมอว่าเป็นยุคที่ อินเตอร์เน็ต เข้ามาใหม่ๆ คนที่หาความรู้โดยไปค้นห้องสมุดทีละเล่ม กับใช้ google หา คนที่ใช้ google เป็นย่อมเร็วกว่าเสมอ

สรุป งานไม่ได้โดน AI แย่ง แต่งานโดนคนที่ใช้ AI เป็นแย่งไปหมดครับ

คนก็จะกลายเป็นแหล่งผลิตพลังงานให้ ai แทน โดยการถูกทำให้หลับแล้วไปอยู่ใน metaverse

แล้วถ้าวันนึงมันเก่งกว่าคนทุกอย่างเลยอะ แบบคิดโหดกว่า แล้วเราก้ต้องใช้หุ่นยนสร้างหุ่นยน ซักพักทั้งโรงงานก้จะมีแค่หุ่นยน

หุ่นยนสร้างโรงงานสร้างหุ่นยน

หุ่นยนสร้างโรงงานหุ่นยนสร้างโรงงานหุ่นยน

แล้วก้วนไปเรื่อยๆ

สุดท้ายโลกก้จะมีแต่หุ่นยน

ผมมองว่า AI มันเหมือนกับ Computer (ยุคแรกๆ)
หน้าที่ของมันคือเครื่องมือ ต่อให้มันฉลาดแค่ไหน
ทำแทนเราได้มากแค่ไหนมันก็ยังเป็นเครื่องมือ
มันต้องมีคนสั่งการ คนควบคุม ต่อให้ไปถึง AGI
ก็ต้องมีคนควบคุมอยู่ดี
ปัญหาเรื่องตกงาน เพราะ AI แย่งงานก็คงไม่ใช่ทั้งหมด
แต่คนที่ใช้ AI ได้ดีอาจเพิ่มโอกาสในการเข้าทำงานมากขึ้น
(ในบางบริษัทที่ให้ความสำคัญในด้านนี้)