รอเรื่องเงียบนั่นแหละครับท่านผู้ชม

เมาด้วย

กฎหมายมันไม่ได้แปลว่าฝ่ายนึงผิด (เมาแล้วขับ)

อีกฝ่ายกลายเป็นขาวสะอาดถูกต้อง100%นะ

ซ้อน3, ใส่หมวกกันน็อครึเปล่า, จอดรถไม่ถูกต้อง (ไม่ต้องเถียงไหล่ทางหรือไม่ไหล่ทาง บนสะพานห้ามจอดอยู่แล้วยกเว้นฉุกเฉิน ซึ่งขวดน้ำตกคงไม่ใช่)

ประมาทร่วมได้อยู่แหละ ถึงในแง่ความรู้สึกคนเมามันควรจะผิดมากกว่า

แต่อีกฝั่งก็ทำผิดเหมือนกัน

ต้องไปดูตามที่ตกลงกันว่า ต้องชดใช้ หรือเยียวยาแค่ไหนอะ ได้ครบตามที่ตกลงกันไว้หรือยัง

ถ้าได้ตามตกลงแล้วก็คือตามนั้น เรียกร้องออะไรต่อไม่ได้แล้ว

ผิดส่วนผิด ชดใช้ก็ส่วนนึง เยียวยาก็อีกส่วนนึง เอาอารมณ์ร่วมมาใช้ตัดสินไม่ได้

แต่ถ้ายังไม่ครบ อันนี้สนันสนุนให้ออกมาเรียกร้องสิทธิ์เต็มที่เลย ถือว่าฝั่ง ติ๊ก ไม่รับผิดชอบ

เมาก้ส่วนนึง แต่มอไซก็ไม่เบานะ

เมาแล้วขับ ยังจะต้องถามหาจุดยืนอีกหรอ แค่ยอมรับผิดง่ายๆแมนๆยังไม่ทำ ต้องมีการพิสูจน์ว่าเมา ถึงจะยอมรับ โคตรแย่เลย

ผมว่าต้องแยกประเด็น

มีคดีเมาแล้วขับ 1
อันนี้ผิดจริง

กับเมาแล้วขับ เป็นเหตุให้เสียชีวิต
อันนี้ต้องพิสูจน์อีกที

ถ้าความเห็นผมนะ สมมติถ้าศาลตัดสินแล้วว่าฝ่ายชนผิด ผมมองว่าค่าใช้จ่ายรพ.ทั้งหมด+ค่าจัดงานศพถือว่าไม่ใช่การเยียวยาอ่ะ มันเป็นสิ่งที่ต้องรับผิดชอบ เพราะสาเหตุคือโดนชนเลยเข้า รพ และเสียชีวิต เยียวยาคือนอกเหนือจากค่าใช้จ่าย 2 อย่างนี้ ซึ่งแล้วแต่ตกลงตามความเป็นจริงที่เหมาะสม

สอบถามเพิ่มครับ อันนี้ คน ตาย พูดไม่ได้นะครับ แต่เรื่องอุปการะเลี้ยงดูพ่อแม่ สมมุติ ถ้าน้องที่โดนชน ไม่มีความคิดที่อยากจะตอบแทนพ่อแม่ทำยังไงครับ ใน กรณี ว่า ถ้าพ่อแม่ อ้างว่า เลี้ยงลูกมาอย่างดี โตไปบลาๆ แต่ ตัวลูกทำงานเลี้ยงส่งตัวเอง ไม่ได้ง้อที่บ้าน แต่เรื่องจริงไม่มีใครรู้ เรื่องนี้เอามา อ้างได้ด้วยหรอครับ สอบถามเฉยๆนะครับ

ผมมองว่าอยู่ที่เรียกร้องค่าชดเชยแค่ไหน ถ้ารู้สึกว่ามากเกินไป ตกลงกันไม่ได้ก็สู้เรื่องประมาททั้ง 2 ฝ่าย เพื่อต่อรองค่าชดเชย
แต่ไม่ว่ายังไงก็ต้องชดเชยในระดับนึง ซึ่งให้ศาลตัดสินแล้วกัน

- คำว่าประมาทร่วม ไม่มีอยู่จริง มีแต่คำว่า ต่างฝ่ายต่างประมาท คำว่าร่วมทางกฎหมาย มีได้เฉพาะการกระทำโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 เท่านั้น
- การเยียวยาอย่างเหมาะสม ต้องอ้างอิงกับค่าใช้จ่ายที่แท้จริงเป็นหลัก เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายอื่นที่สืบเนื่องจากการรักษาพยาบาล+ ค่าเสียหายอื่นที่ไม่ใช่ตัวเงิน เช่น ค่าขาดไร้อุปการะ
- การที่ฝ่ายหนึ่งเมาขับ ก็ไม่ได้หมายความว่าอีกฝ่ายจะไม่มีโอกาสประมาทด้วย ต้องดูการกระทำของทั้ง 2 ฝ่าย เช่น คู่กรณีอีกฝ่ายที่ไม่เมาขับรถล้ำเข้ามาในช่องเดินรถของคนเมาขับ อย่างกะทันหัน