ข่มขู่มันมีหลาย degree ไงครับตั้งแต่ ขู่จะตบ ขู่จะฟ้อง ขู่จะไล่ออก ไปจนถึง "ขู่จะยัดคดี" <<<< ซึ่งอันนี้สังคมไทยตอนนี้ยอมรับไม่ได้แน่ๆ

แสตมป์พยายามพูดว่าภรรยาไม่รู้จัก แต่ไม่ได้บอกว่าตัวเองรู้จักดีถึงขนาดมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกัน

จริงๆตรงข้ามเลยครับ ไม่ได้พยายามจะโพสแบบอุดมคติแต่อย่างใด แต่อารมณ์มนุษย์ปุถุชนก็ไม่ควรปล่อยให้อคติจนไม่สนอะไร ผมคิดว่าถ้าเราจะเห็นใจใครเราต้องรู้เรื่องทั้งหมดก่อน

ไม่งั้นผมตั้งสมมุติฐานแบบเชื่ออีกฝั่ง 100% ก็จะเป็น
เป็นชู้กัน>โดนจับได้>แยกย้ายไปแล้ว แต่สแตมป์ไม่ยอมจบ ยังพยายามใช้อิทธิพลในวงการบีบให้อยู่ไม่ได้จนสติแตกไปตามผู้ใหญ่ฝั่งตัวเองมาขู่กลับ แบบนี้น่าเห็นใจไหม

ผมถึงได้ท้วงว่าไม่ควรโฟกัสแค่มีทหารมาขู่จริงไหมอย่างเดียว ต้องสาวไส้ไล่ timeline ตั้งแต่แรกว่าใครเริ่มใครไม่จบ แล้วจะเห็นใจใครค่อยไปว่ากันตอนนั้นไม่ใช่มาโฟกัสกันอยู่ประเด็นเดียว ระหว่างขู่กันไปมาดูว่าแบ็คใครใหญ่กว่า กับโดนคุกคามฝ่ายเดียวนี่หนังคนละม้วนเลย

แบบนี้ก็เข้าใจได้ แค่ส่วนตัวเชื่อไปทางแสตมป์มากกว่า
และเชื่อว่าเรื่องนี้ ยังไงก็โดนขุดทั้ง 2 ฝั่งแบบละเอียดยิบเคลียยิบ ระดับ 90%+ แน่นอนเป็นอย่างน้อย
ใครผิดกว่า ใครถูกกว่า รายละเอียดเรื่องแบบนี้ ง่ายระดับจิ๊บๆ ไม่ควรจะมีอะไรซับซ้อนเลย

ความเห็นโซเชียลก็เท่านั้นแหละ เรื่องนี้ เดี๋ยวก็กระจ่างแน่ๆ ในคหสต.

แต่แค่คิดว่า ถ้าเรื่องนี้เป็นแบบท่านว่าจริง (ซึ่งก็เป็นไปได้) แต่ถ้าเป็นแบบนั้นจริง แสตมป์ก็จะโง่สุดๆ

ถ้าแสตมป์ต่างหากเป็นฝ่ายไม่ยอมจบ แล้วโดนเอาคืนด้วยระดับนายพล
แสตมป์ถ้ามีความคิดอยู่บ้าง ก็ควรจะจบเรื่องนี้ไปซะ ด้วยการเลิกแล้วต่อกัน จบๆไป
นายพลก็ไม่ควรมีเหตุผลให้ยื้อต่อ

ไล่ timeline เรื่องนี้ ถ้าเป็นแบบท่านว่าจริง แสตมป์ จะเอาอะไรมารอด
เรื่องแค่นี้สติปัญญาของคนในค่าเฉลี่ยๆ น่าจะเข้าใจ แล้วแสตมป์จะมองไม่เห็นจริงหรือ ไหนจะทนายนิด้าอีก
ด้วยเหตุผลนี้ เลยขอเข้าข้างแสตมป์ไว้ก่อนละกัน

อีกอย่างก็คือ ส่วนตัวค่อนข้างมั่นใจว่า ไอ่เรื่องที่ท่านสงสัย มันก็เรื่องเบสิคเช่นกัน
เรื่องแบบนี้ กระแสแบบนี้ ไม่มีทางจะหลุดพ้นได้แน่นอน ความจริงเปิดเผย ความเชื่อมั่นผมให้ 99% เลยละกัน

*edit อธิบายความ

ความเชื่อมั่นหมายถึงว่า เรื่องนี้มันจะกระจ่างแน่นอน ถ้าเป็นแบบท่านว่าในมุมคดีพลิก

แสตมป์ก็โคตรโง่อะ ซึ่งผมยังไม่เชื่อว่าจะโง่ได้ขนาดนั้นเฉยๆนะ

เอาตรงๆ ก็ตรงกับที่คิดไว้เกือบทั้งหมดครับ...ไม่มีพระเอกในเรื่องนี้
- ฝั่งนึงก็...เล่นใหญ่เอาใจเมีย ทั้งๆที่ก่อคดีไว้เอง แต่ไล่บีบคนอื่นให้ไม่มีที่ยืนในวงการ ไม่ได้อย่างใจก็ฟาดงวงฟาดงาไปเรื่อย
- ฝั่งนึงก็...พอรู้สึกว่าตัวเองเสียเปรียบแบบไม่ยุติธรรม ก็เล่นนอกเกมส์นอกกฎหมายซะงั้น
- ฝั่งนึงก็...ได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง ได้สามีคืนทั้งๆที่ตัวสามีเป็นปัญหาหลักและลอยตัว แถมได้เงินติดปลายนวมมาอีก

ผมอาจจะง่วงเลยอธิบายไม่เคลียร์ ที่ผมแย้งเพราะอ่านมาหลายกระทู้แล้วมาโพสกระทู้นี้ อธิบายตัวเองอีกทีนะครับ

ที่ผมโพสแย้งนี่ไม่ได้ให้น้ำหนักไปทางฝั่งไหนเลย แต่เพราะจากหลายๆกระทู้ใน ss คนจำนวนมากเห็นไปในทางเดียวกัน(ที่บอกว่าจำนวนมากเพราะคอมเม้นแนวนี้ท๊อปเม้นทั้งนั้น)คือเหมือนจะไม่สนด้วยซ้ำว่าเรื่องเป็นอย่างไร สนแค่มีทหารมาคุกคามจริงไหม บอกว่าอย่าเบี่ยงประเด็นบ้าง อย่าหลงประเด็นบ้าง ถ้าค่อนไปทางเชื่อสแตมป์แบบท่านผมยังพอเข้าใจ แต่นี่เหมือนพยายามบอกว่าอย่าไปสนเรื่องอื่นสนแค่เรื่องทหารคุกคามจริงไหม มี 112 จริงไหมก็พอ

ก็เลยงงว่าไม่ว่าจะเพราะในมุมความเห็นใจแบบท่านว่า หรือมุมความยุติธรรม ก็ควรจะต้องการทราบเรื่องทั้งหมด ไม่ใช่สนใจกันแค่เรื่องนั้น ที่ผมสงสัยคือเพราะเหม็นหน้าทหารเป็นทุนเดิมจนสนใจแค่นี้รึเปล่า ไม่สนด้วยซ้ำว่าใครทำอะไรสนแค่นี้ เพราะอ่านกระทู้ก่อนๆแล้วรู้สึกแบบนั้นจริงๆ

ผมว่า สต อาจจะคาดไม่ถึง ว่าผู้หญิงจะกล้าเปิดหน้าแลก เปิดเผยว่าตัวเองเป็นเมียน้อยขนาดนี้ เพราะผู้หญิงก็แต่งงานแล้วมีหน้ามีตาในสังคม
สต คงมั่นใจว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่าจากคำสั่งของศาล บวกกับการที่ตัวเองโมโหที่อีกฝั่งใช้คนมีสีมาเอาคืน จึงอาจจะเดินเกมไม่รอบคอบได้

เพราะจากที่ผมสังเกต ตั้งแต่ฝั่งทิลลี่เบิร์ดเปิดหน้าแถลงมา รวมกับแฟนผู้หญิงออกมาสมทบอีก สต กลับเก็บตัวเงียบเลย คงคาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะยอมหักไม่ยอมงอขนาดนี้ ทั้งที่ตัว สต เองก็ให้ทนายขู่ไว้แล้วเรื่องการเอาคดีมาเปิดเผยโดยโจทก์ไม่ยินยอมนั้นถือว่าผิด แต่อีกฝ่ายก็ไม่สนใจ ยังคงเปิดเผยรูปคดีนั้นจนทำให้ สต เสียภาพลักษณ์ไปพอสมควร

ทำไมหล่อจัง ทำไมหล่อกว่าคนอื่นเขา

จริงๆเคยเจอ ผญ ใกล้ๆ

ดูสวยเพอเฟ็คเลย ดูไม่ออกว่าจะเป็นแบบที่ข่าวกล่าว

แค่ดูเป็นปลื้ม ชอบนักร้องผู้หญิงมากกว่า

พึ่งรู้ว่าชอบ สต. ด้วย

ในมุมมองผม
สต. อยากจะหยุดเรื่องที่ คู่กรณี ข่มขู่เเละคุกคาม เเต่ไม่อยากให้มันไปถึงเรื่องชู้สาว เลยไม่บอดรายละเอียดอื่นๆ
คู่กรณี กับ ทล. ลากเมียตัวเองมาตบ ซะเลย

ดูทรงแล้ว เดี๋ยวเย็นนี้มีพลิกอีก