[RE: ชาวไทยเฮ!! OPPO RENO13 วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ พร้อมอัพเดทซอฟแวร์ลบแอพเจ้าปัญหา]
Tommy Charlotte Jax Shelb พิมพ์ว่า:
MarkZuckerberg พิมพ์ว่า:
ขอประธานโทษด้วยนะ แต่ใครยังซื้อใช้ต่อคือโคตรโง่แล้วในความคิดผมอะ ไม่ว่าคนที่ใช้อยู่ปัจจุบันหรือซื้อไปแล้วนะอันนั้นเข้าใจได้จำใจต้องใช้ต่อ แต่ใครที่จะซื้อใหม่หรือจะเปลี่ยนไปใช้แบรนในเครือนี้(ไม่ใช่แค่ oppo นัมมีอีกหลายแบรนในเครือเลย) ผมขอด่าโง่เลยอะ ถ้ายิ่งอ้างว่าลบแอพให้แล้วไงเลิกแล้วหายกันนี่ยิ่งโง่เลย
ถ้ามันอนุญาติให้แอพเสวๆแบบนี้เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวได้ลื่นขนาดนี้แปลว่าไม่ใช้ครั้งแรกและจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย ใครยังใจแข็งใช้อยู่ผมนับถือเลยยิ่งในยุคที่แก๊ง call กับการ hack ระบาดขนาดนี้นะ ใครยังใจเย็นใช้ต่อได้ผมนับถือเค้าจริงๆ
เชื่อผมมั้ยเขื่อนแตกแบบนี้แล้วเดี๋ยวมี android dev ไทยเก่งๆไปขุดความเน่าเฟะมาอีกเพียบเชื่อผมเดี๋ยวตอผุดเรื่อยๆ
คุณไม่ได้มีความเข้าใจในเรื่องนี้พอที่จะด่าคนอื่นที่คิดจะใช้รุ่นนี้ในอนาคตหร่อแบรนด์ในเครือว่าโง่ได้เลยครับ แน่นอนมันไม่สมควรใส่มาอยู่แล้วครับผมมองว่าออปโป้โง่ด้วยที่ใส่มา แต่มันก็เป็นเพียงแค่แอพระบบเหมือนแบรนด์อื่นๆที่เค้าก็ใส่มาครับ แต่แบรนด์ควายเนี่ยเสือกไปติดแอพที่เด้งออกไปละเป็นแอพสินเชื่อที่ไม่ถูกกฎหมาย แอพตัวแรกที่ติดมาคือฟินอีซี่ตัวนี้ผ่านมาตรฐานของplay store โดย play protect สแกนแล้วไม่พบปัญหาอะไรด้วยซ้ำครับ ข้อมูลที่มันเอาไปได้เนี่ยก็เท่ากันกับทุกแอพที่มีการขอเอาข้อมูลไปมากน้อยแล้วแต่จะขอ แต่โดนปกป้องไว้ด้วยมาตรฐานแอนดรอยด์อยู่แล้ว มีแอพนึง e-commerce เจ้านึงขอข้อมูลไม่แพ้กันเลยเจ้าดังด้วยมันต่างกันแค่ออปโป้ยัดเยียดแต่แอพนี้มีทางเลือก นอกจากยัดเยียดมามีความต่างอะไรที่จะให้กังวลได้อีกละครับ ปัญหาตรงไหนที่ทำให้คุณมองคนที่จะซื้อว่าโง่คืออะไรครับ
ส่วนแบรนด์ในเครือจะไปด่าเค้าว่าโง่อีกก็ไม่แฟร์เข้าไปใหญ่เลย เค้าแยกโรงงานแยกบริหารกันชัดเจนขนาดนั้น ภาพที่เห็นชัดสุดๆคือห้างที่มีเจ้าของเดียวกันอะ เจ้านึงดันทำลูกค้าเดือดร้อน แล้วอีกห้างนึงต้องมารับผิดชอบอะไรด้วย คนที่จะไปเดินห้างอีกแห่งนึงต้องโง่ด้วยหรอครับแค่เพราะเค้าเป็นเจ้าของเดียวกันเฉยๆ แต่คนละแบรนด์คนละองค์กรคนละอย่างกันอย่างสิ้นเชิงเพียงแค่มีบริษัทนึงเป็นเจ้าของทั้งคู่
เคยเห็นข่าวสิริแอบดักฟังแอบแชร์ข้อมูลไหมครับ งั้นคนที่ใช้แอปเปิ้ลทุกวันนี้และกำลังจะซื้อในอนาคตจะเข้าค่ายโง่เหมือนกันไหมครับ ท้ายสุดคือแอปเปิ้ลไกล่เกลี่ยนะครับ
นี่ผมโง่สามเด้งเลยนะครับ ทั้งใช้ออปโป้ และแบรนด์ในเครือ แถมยังใช้ไอแพดอีก และในอนาคตก็มีความจะซื้อในเครืออยู่ดี โง่สี่เด้งแล้วครับ
แน่นอนว่าออปโป้ไม่ควรทำแต่คนที่คิดจะซื้อเค้าประเมินตัวเองได้เค้าประเมินสินค้าได้ครับ ความเสี่ยงที่ดูเหมือนจะมีแล้วหรือมีแล้วเราคอนโทรลได้ป้องกันได้เนี่ย ไม่แฟร์เลยครับที่จะไปด่าเค้าว่าโง่
แอพเสวๆเข้าถึงข้อมูลยังไม่ได้ครับถ้าไม่ได้เข้าไปใช้ ไม่ได้อนุญาตอะไรครับ ย้ำอีกทีว่าออปโป้บื้อมากที่มำแบบนี้
หลายเรื่องเลยที่อยากพูดขอไล่เป็นประเด็น
1. "เพียงแค่แอพระบบเหมือนแบรนด์อื่นๆที่เค้าก็ใส่มาครับ"
มาถึงคุณก็หลงประเด็นเลยนะ ประเด็นไม่ใช่การ default app ครับ ประเด็นมันคือกระบวนการตรวจสอบและนำ app มา default ต่างหากครับ ใช่ครับทุกค่ายมี default app เช่นกันครับเช่นเดียวกับ iphone แต่มาตราฐานและความรับผิดชอบการเลือก app มา default คือตัวแยกยะความกากก็แต่ละค่ายครับ เอา app ที่ทะลุถึงข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้งานไปส่ง sms รัวๆนี้คือหยาบขั้นสุดแล้วครับ ใครยังมองไม่ออกว่ามันคือปัญหาใหญ่ผมก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงต่อแ้ลว ย้ำอีกครั้งปัญหาไม่ใช่การ default app แต่เป็นการคัดกรอง app ครับ
2."เค้าแยกโรงงานแยกบริหารกันชัดเจนขนาดนั้น ภาพที่เห็นชัดสุดๆคือห้างที่มีเจ้าของเดียวกันอะ"
ครับ oppo + realme คนละแบรนแต่เจ้าของเดียวกันครับ และใส่แอพจีนเทามาเหมือนกันครับ เห็นหรือยังครับนี่คือตัวอย่างของบริษัทในเครือเดียวกันครับ
ไม่ต้องเป็นอัจฉริยะก็รู้ครับว่าบริษัทในเครือเดียวกันต่างมีนโยบายและปรัชญาที่คล้ายคลึงกันทั้งนั้นครับ
3."เคยเห็นข่าวสิริแอบดักฟังแอบแชร์ข้อมูลไหมครับ" อุ้ยข่าวดังจ้า แต่ความแตกต่างมันคืออย่างแรกผมไว้ใจ apple จากชื่อเสียงและผลงานที่ผ่านมาด้าน privacy สองผมกดปุ่มเดียวก็ปิด function siri ดักฟังแล้ว
ไม่เป็นปัญหาสำหรับผม ความแตกต่างมันคือ apple เก็บข้อมูลเอง แต่ oppo+realme ประเคนข้อมูลให้ใครก็ไม่รู้แอพเถื่อนมาเก็บ <<<<< นี่ครับความแตกต่าง
4."ความเสี่ยงที่ดูเหมือนจะมีแล้วหรือมีแล้วเราคอนโทรลได้ป้องกันได้เนี่ย ไม่แฟร์เลยครับที่จะไปด่าเค้าว่าโง่"
อ่าาา แปลว่าท่านไม่ได้เข้าใจจริงเรื่อสิ่งที่เรียกว่า butterfly effect ผมฝากไว้คำถามเดียว "ถ้า oppo อนุญาติให้แอพเถื่อนผิดกฏเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของผู้ใช้งานได้โดยพลการ มีช่องโหว่อย่างอีกอะไรอีกที่ oppo วางหรือปล่อยไว้" สำหรับผมที่เป็น software engineer มันทำให้ผู้รู้ดีครับว่าการ default app ที่ระเมิดกฏ PDPA มันร้ายแรงมากขนาดไหนและผู้ให้บริการ OS ที่ปล่อยให้เกิดช่องโหว่นี้ขึ้นไม่น่าไว้ใจขนาดไหน คำว่า "คอนโทรลและป้องกันได้เอง" มีแต่คน awareness ต่ำที่จะเข้าใจแบบนี้แหละครับหลังจะได้ยินข่าวนี้