อย่างที่ทราบว่า ในเวลานี้ คนขับรถไฟฟ้ามากขึ้น สถานีชาร์จไฟฟ้าก็เริ่มเยอะขึ้นพอสมควร

อยากจะสอบถามข้อดีข้อเสียในการใช้รถ EV ที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ของเราๆ ชาว SS หน่อยครับ (รวมถึงให้กับผมด้วย )

เพื่อเป็นกระทู้สำหรับคนที่กำลังสนใจที่จะซื้อในปีนี้หรือปีไหนๆ

เท่าที่ผมนึกออก คนที่ใช้รถสันดาปและสนใจ EV ก็จะมีจุดที่คิดคือ

1. การใช้งานในระยะใกล้และไกล
2. การใช้งานในเมือง
3. ความสะดวกสบายในการขับขี่
4. การชาร์จไฟฟ้า vs น้ำมัน ทั้งในช่วงเทศกาล หรือ ช่วงปกติ
5. ค่าใช้จ่ายประกัน, ค่า Maintenance ต่อปี
6. คุณภาพของรถ (EV จีน, EV ฝรั่ง, Hybrid ญี่ปุ่น)
7. ความคุ้มค่า

ใครมีอะไรอยากแชร์ แชร์กันได้เลยนะครับ ทั้งข้อดีข้อเสีย

ส่วนตัวผม ผมโอเคนะกับการใช้งาน แต่ก็ติดเรื่องค่าประกัน, ค่าซ่อม, ระยะเวลาซ่อม (ยิ่งแบรนด์จีนนะ ), เวลาชาร์จแบตที่นาน

แต่ตอนนี้ผมสนใจ Sealion 7 จริงๆ ไปลองมาละถือว่าดีอยู่นะ แต่โคลงเคลงพอสมควรเลย

ขับรถต้องล็อครถ ไม่งั้นรถมันจะหลับสตารทไม่ติด ไม่รู้sealion เป็นไหมแต่แมวน้ำเป็น

รพ ผม มีหมอ 5 คนที่ออกev ( เทสล่า 2 กู้ดแคท 1 บีวายดี2 ) พยาบาลที่รู้จักออก neta ที่เหลือก็มีแต่ไม่รู้จักอยู่คนละวอร์ด พวกหมอนี่มีรถน้ำมันมือ1 อย่างน้อยคนละ2คันที่บ้านทุกคน มาทำงานทุกวันก้เห็นแต่รถ ev ไม่มีใครใช้รถน้ำมันเลยเดี๋ยวนี้ เรื่องค่าใช้จ่ายก็มีส่วน แต่รถ ev น่าจะขับสนุกกว่ามั้ง ระดับหมอค่าน้ำมันไม่มีปัญหาหรอก ต่ำๆ รพ รัฐก็ 7 8 หมื่นขึ้นสมรรถนะรถกับออฟชั่น ระบบนุ่นนี่ที่ทันสมัย น่าจะมีส่วนมากกว่า


ส่วนผมชิวๆใช้ฟอจูนเนอไปวันๆก่อน

1. การใช้งานในระยะใกล้และไกล / ข้อดีคือยิ่งทางไกลจะยิ่งค่าเดินทางจะถูก ข้อเสียจะต้องแลกมากับการวางแผนจุดชาร์จ (ถ้าเป็นคนวางแผนการเดินทางและรู้เส้นทางอยู่แล้วแทบไม่มีผลนะ)
2. การใช้งานในเมือง / ข้อดี ประหยัดกว่า ข้อเสีย ยังไม่เห็นนะ
3. ความสะดวกสบายในการขับขี่ ในราคาเท่ากับผมว่ารถไฟฟ้าได้ความสะดวกสบายมากกว่านะ
4. การชาร์จไฟฟ้า vs น้ำมัน ทั้งในช่วงเทศกาล หรือ ช่วงปกติ ข้อดียังไม่เห็นนะ ถึงปั้มจะเยอะขึ้น ยกเลิกการจองช่วงเทศกาล รถน้ำมันก็ยังคล่องตัวกว่า ในอนาคต ถ้าชาร์จไวขึ้น วิ่งไกลขึ้น ปั้มเยอะขึ้น น่าจะดีขึ้นตามลำดับ
5. ค่าใช้จ่ายประกัน, ค่า Maintenance ต่อปี ข้อดี MA ถูกกว่าและไม่จุกจิก ข้อเสีย ประกันต่อแพงกว่าน้ำมัน
6. คุณภาพของรถ (EV จีน, EV ฝรั่ง, Hybrid ญี่ปุ่น) ส่วนตัวขับ EV จีนอยู่ตอนนี้ คุณภาพน่าจะตามราคา
7. ความคุ้มค่า ปัจจุบัน รถยังไม่มีปัญหา ถ้าหากครบระยะทาง 100k โดยยังไม่เคยขึ้นยานแม่ผมว่าสอบผ่านนะ

ใช้มา 2 ปีแล้วยังไม่เจอปัญหาอะไร
ยังไม่เคยเจอค่าซ้อมบำรุงอะไรแพงๆมีแค่ค่าช่างตรวจรถตามรอบ


ไปต่างจังหวัดช่วงเทศกาลมา 2 ครั้งลุ้นทุกครั้งว่าจะมีที่ชาจไหม
แต่ไปต่างจังหวัด ลงใต้สุด นอกเทศกาล ไม่มีปัญหาเรื่องชาจ

การใช้งานในเมืองไม่ติดปัญหาอะไรขับสบาย มีกล้องรอบด้านถอยจอดขับที่แคปได้สบายขึ้น

สำหรับคนที่ดูแลรถไม่เป็น หายห่วงเลยค่ะ ไม่ต้องซ้อมบำรุงเยอะ

ได้ Home Charge แยกมิเตอร์ เพราะติดตั้งตอนแรกเลย ได้ราคาถูก กลับบ้านไปก็ชาจ เดือนละ 600 กว่าบาทถือว่าไม่เยอะมาก


เคยโดนคนอื่นชนท้ายมา รออะไหล่ประมาณ 2 เดือน ตอนนี้เพิ่งขับได้ 3 เดือน ตอนนี้ผ่านมาปีกว่าไม่รู้ว่าอะไหล่รอนานอีกไหม


ขับไปขึ้นเขากางเต้นเรื่องว่าปีนเขาสบายเลย ลงเขาเบรกก็ไม่ร้อน เพราะมันใช้ตัวปั่นไฟเบรก แถมใช้ต่อไฟ เตาย่างไฟฟ้ากินชาบูได้ด้วย


ขับรถน้ำมันมา 2 คันถ้าให้พูดตรงๆ ก็คือไม่กลับไปขับน้ำมันแล้วค่ะ และคิดว่าคนที่ได้ขับจริงๆ แบบไม่ได้ฟังมาหรืออ่านคอมเม้นปั่นๆ ก็น่าจะเป็นแบบเดียวกัน



ขอเสียเดียวจริงๆที่คิดออกคือการขับขี่ระยะไกลในช่วงเทศกาล เพราะต้องแย่งจุดชาจกัน

สำหรับผมถ้าชาร์จที่บ้านได้ทุกวัน เน้นใช้ในเมือง EV น่าใช้มาก ๆ ครับ เรื่องค่าน้ำมันหักลบกับค่าประกันหรืออื่น ๆ ของ EV ที่แพงกว่าอาจจะพอ ๆ กัน ต้องใช้เยอะ ๆ ถึงจะคุ้มครับ

สอบถามหน่อยครับ คือev สมมุติเขาเครมว่า 500 กม.เมตรต่อการชาร์จ1ครั้ง

พอขับจริงๆ คนปกตินี่ ได้ถึงไหมครับ

ไม่ถึงครับ ผมว่าน่าจะประมาณ 400 +-

ขึ้นอยุ่กับใช้มาตราฐานไหนครับ WLTP NEDC CLTC EPA
สำหรับผม EPA+WLTP เท่านั้นที่แม่น ถ้าค่ายไหนพยายามโฆษณาโดยใช้ NEDC CLTC คือเค้าพยายามจำเคลมระยะขับที่ไม่ตามคนขับจริงๆ แค่เคลมตามรูปแบบการทดสอบที่ fix ไว้ซึ่งปลอมมมมมมมมมมมมมมมม

แล้วต้องแยกแยะด้วยนะครับว่าขับในเมืองหรือทางไกลเพราะขับในเมืองคุณวิ่งช้ารถติดบ่อยมันมีผลต่อการคำนวณระยะนะครับ เพราะรถติดอยู่นิ่งๆก็ใช้แบตเพราะฉะนั้นถ้าขับในเมืองผลลัพธ์มันออกมาได้ระยะน้อยกว่ามาตราฐานอยู่แล้ว

สำหรับผม ทางไกลใช้ WLTP ในเมืองใน EPA ครับ

ข้อเสียจริงๆ คือการลดราคานี่ละ

1. การใช้งานในระยะใกล้และไกล
ระยะใกล้ไม่ต้องพูดถึงตื่นมาทุกเช้าแบตเต็มอยู่ละ ส่วนระยะไกลตอนนี้ EV station เกลื่อนประเทศครับผมบอกเลย ไม่มีอีกแล้วนักสู้หน้าตู้ชาร์ทแถมมี trip planner app ให้ใช้อีกยิ่งง่าย
2. การใช้งานในเมือง ความสะดวกสบายในการขับขี่
โคตรชิลโคตรสบายครับถ้า one padle คือไม่ต้องเหยียดเบรคเลยโคตรสบาย แถมเปลี่ยนเลน แซง ก็ง่ายไม่ต้องกลัวพวกกั๊กเลน ผมกดทีมันเร่งขึ้นมันกั๊กไม่ทันสักคัน
4. การชาร์จไฟฟ้า vs น้ำมัน ทั้งในช่วงเทศกาล หรือ ช่วงปกติ
ทางใกล้ชาร์ทที่บ้านเต็มทุกวันไม่มีปัญหา ทางไกลอย่างที่บอกไปจำนวนตู้ชาร์ทโคตรเยอะและจะโตเร็วกว่า จำนวน ev แน่นอน
5. ค่าใช้จ่ายประกัน, ค่า Maintenance ต่อปี
ประกันแพงกว่ารถสันดาบ ณ ตอนนี้แต่ผมคาดว่าจะถูกลงเรื่อยๆเมื่ออะไหล่แพร่หลายมากขึ้น ค่า maintenance ผมพูดได้แค่ Tesla คือ 0 บาทต่อปี ผ้าเบรคไม่ต้องเปลี่ยนเพราะแทบไม่เคยใช้เบรค แต่ยางแพงและหมดเร็วถ้าขับแว้นมากต้องระวังตรงนี้
6. คุณภาพของรถ (EV จีน, EV ฝรั่ง, Hybrid ญี่ปุ่น)
คุณภาพพูดยากมาก คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าคุณภาพคือวัสดุและสัมผัสเฉยๆ จริงแล้วไม่จริงเคย คุณภาพคือรถคันไหนจะวิ่งได้นานที่สุดโดนไม่ต้องเปลี่ยนอะไหล่ต่างหากครับ ซึ่ง ev จีน ญี่ปุ่นยังใหม่มากไม่กี่ปี ไม่มีใครรู้หรอกว่าโป๊ะจะแตกปีไหนครับ แต่ที่ชัวที่สุดคือ tesla ครับเพราะทำ ev ขายมาตั้งแต่ 2008
7. ความคุ้มค่า
คุ้มกว่าอยู่แล้วถ้าคุณไม่เคยมีรถมาก่อนเลยแล้วกำลังจะตัดสินใจซื้อ แต่ถ้าคุณมีรถอยู่แล้วและยังใช้ได้อยู่ปรกติความคุ้มค่าในการเปลี่ยนเป็น EV มันก็น้อยลงเยอะละครับ

ใช้มา 3 ปี ทั้งจีน ทั้งเมกา

รวมๆจีน BYD ไม่ได้แย่อะไรเลยครับ ใช้งานปกติ ยังไม่เคยเจอเอ๋อ ขับขี่เก็บเสียงดี ช่วงล่างเน้นนุ่ม ถ้าวิ่งไม่เกิน 140 คือสบายๆ แต่อย่าโดดสะพานแรง ประกันก็ถูกด้วย ศูนย์เยอะ เคลมบางอย่างรอนาน 1-2 เดือน บางอย่างมีเลย ที่สำคัญแอร์เย็น

แต่ที่ต้องทำใจคือ สเปกมันเหมือนจะดี แต่บ้านเราอากาศร้อน เวลาซัดหนักๆติดพัน กำลังมันดรอปลงแบบงงๆ แล้วการชาร์จไม่ Exclusive แบบ Tesla ไปวัดดวงเอาเอง

ซึ่งตอนนี้ 3 ครั้งหลังสุด ที่ออก ตจว ผมมั่นใจแล้วผมดวงไม่ดี ไม่เจอ 2 คันชาร์จ 1 คันรอ ก็ตู้เสีย หรือหนักสุดเจอมา 2 รอบติด ชาร์จแล้วพวกหายตัวไปไหนก็ไม่รู้ เลยเวลาจองโดนตัดเงินฟรี ผมเลยเลิกเอา EV วิ่งทางไกลล่ะครับ กลับไปใช้น้ำมันสบายใจกว่า ยิ่งเทศกาล Hub 4 ตู้ 8 หัว ผมขับผ่านเปิดในแอพดูก็เต็ม อิจฉาคนไปทีไรก็ได้ชาร์จเลย ตอนนี้จะซื้อไฟฟ้าเพิ่มผมเบรกไม่เอาเพิ่มล่ะครับ เอาที่มีใช้งาน Daily ชาร์จบ้านไปพอแล้ว แล้วซื้อใหม่เอารถน้ำมันไว้วิ่งทางไกลดีกว่า

และสุดท้ายถ้าคิดจะซื้อรถจีนต้องทำใจ ชาวโซเชียลเพิ่งเล็ง

ส่วนรถเมกาก็ไม่ต้องพูดเยอะดีอยู่แล้ว แต่ถ้าถามว่าคุ้มเพิ่มเงินจากจีนมั้ย บางรุ่นส่วนตัวผมคิดว่าไม่คุ้มเพิ่มตังมันยังมีบางอย่างที่ดีกว่า

ถ้าเป็นทุกวันนี้แล้วเป็นรถคันแรกผมก็คิดว่ามีความเสี่ยงจากอะไรไม่รู้พอสมควร แต่ถ้าเป็นคันที่ 2-3 นี่ผมว่าชิลล์เลย เท่ากับมีเงินสำรองเผื่อกรณีฉุกเฉิน รับความเสี่ยงได้ ถามว่าเสี่ยงอะไร ตอบก็คือไม่รู้ครับ ถ้าซวยขึ้นมาก็น่าจะแพง เห็นแต่ละกรณีแล้วมันแพงจริง

1 ผมขายรถน้ำมันทิ้งหมด เมื่อใช้คันแรกผ่าน 2เดือน ตอนนี้เข้าปีที่ 3คันแรก ใกล้ไกลไม่เป็นปัญหาอะไรสำหรับเทสลา
2 ในเมืองดีจัดๆ
3 นี่ก็ดีมากสำหรับผม ระบบดี รถดี (ยางแตกง่ายสำหรับผม เพราะ 235/35/20 ยี่ห้อที่ติดรถมาไม่ค่อยสู้หลุมเท่าไหร่ พอเปลี่ยนอีกยี่ห้อก็ไม่มีปัญหานั้นเลย
4 การชาร์จนอกบ้านไม่เป็นปัญหากับผมเลย สายสำคัญๆ เทสลามีสถานีชาร์จของเทสลาเองอยู่ เร็วและถูกกว่าตค่ายอื่นด้วย 7.17บาท
5 2 ปีเต็มสำหรับคันแรก
- กรองแอร์ชุดนึง 750บาท พร้อมค่าแรง
-สลับยาง 6 รอบกลมๆ ครั้งละ 200บาท
- เปลี่ยนยางไปชุดนึง อย่างที่บอก เส้นละ 14500 บาท สี่เส้น
-ค่าประกัน ปีสอง 38600 บาท Sunday ปีสามกำลังฟังเบี้ย เดือนหน้าต้องต่อแล้วครับ
6 คุณภาพ ตอบไม่ได้เพราะไม่ได้ใช้ครบทุกยี่ห้อ เอาว่าตั้งแต่ขับมา ผมชอบเทสลามากกว่าที่เคยขับ
7 เรื่องเชื้อเพลิง จากเคยจ่าย 8500-10000 บาท เหลือ 12-1500 บาท (TOU หน่วยละ 3.77 บาท ตอนนี้ ชาร์จที่บ้านเป็นหลัก)

BYD Seal Dynamic
1. การใช้งานในระยะใกล้และไกล > ดี แต่ผมไม่ค่อยออกต่างจังหวัด จะกลับบ้านก็แค่ปีละครั้ง
2. การใช้งานในเมือง > ดีมาก อัตราเร่งดี
3. ความสะดวกสบายในการขับขี่ > ดี นุ่ม สบาย byd seal ผมเปลี่ยนสปริงหลังจบเลย เพราะผมไม่ได้ขับเร็วอะไร ไม่เกิน 120
4. การชาร์จไฟฟ้า vs น้ำมัน ทั้งในช่วงเทศกาล หรือ ช่วงปกติ > ตอนนี้ใช้ EV เป็นหลัก ปกติก็ชาร์จที่บ้าน เทศกาลก็เอา EV ไป ที่ชาร์จก็เพียงพอ เหลือๆด้วยซ้ำ ยังไม่เคยเจอปัญหาที่คนอื่นเจอกันนะครับ
5. ค่าใช้จ่ายประกัน, ค่า Maintenance ต่อปี > ค่าประกันฟรี 2 ปี ครบเวลาจ่ายอีกที ต.ต 68 คร่าวๆ น่าจะ 30k ค่า Maintenance ตามรอบก็สลับยางรอบ 10k 20k 30k รอบละ 150 ของ bq ที่ซืัอในแอพส้ม
6. คุณภาพของรถ (EV จีน, EV ฝรั่ง, Hybrid ญี่ปุ่น) > งานประกอบดีกว่าที่คาดหวัง(ผมมาจากรถญี่ปุ่น)
7. ความคุ้มค่า > ดอยสิครับรอไร ราวๆ 300K แต่ก็ไม่ได้คิดไรมาก ถ้าย้อนไป ผมจะซื้อรถใหม่อยู่ดี ไม่ดอยคันนี้ก็คงไปดอยคันอื่นแน่ๆ ตอนนี้ก็ใช้ยาวๆ ทำงาน เก็บตังต่อไป