แชร์ประสบการณ์คนใกล้ตัวโดนกดดันเรื่องสินสอด
จริงๆไม่ใกล้เท่าไร แต่ทำงานแวดวงราชการด้วยกัน
ตอนแต่งผมก็ดูละ เรียก 1 ล้านทอง 10 บาท ตอนนั้นบาทละสองหมื่นกว่า แกก็ทำงานพิเศษ ขายของ รับทำวิจัย หาเงินมาจนได้ทั้งที่ตัวเองก็ปานกลางบ้านราชการธรรมดา จากหล่อๆกลายเป็นแก่ลงเยอะเลย แต่ก็หาได้ ผมนี่อิจฉาเลยนะ ไม่ได้ขอพ่อแม่ด้วย
พอแต่งเสร็จ โดนบังคับกู้ร่วม สร้างบ้านให้พ่อแม่เมีย บอกทำเป็นร้านค้าจะได้มีรายได้ด้วย สองชั้นสวยงาม ผมไปขึ้นบ้านใหม่อยู่
แต่สักพักผมรู้สึกว่า.. มันแปลกๆว่ะ ฉากหน้าดี แต่ฉากหลังนี้ บางครั้งที่คุยกันแกชอบพูดว่า ผมก็ดีนะยังไม่มีภาระอะไร พอดีตอนนั้นผมโสด บางทีผมเดินดูรถผมแล้วบอกมันมีรอย
มันเปื้อน แล้วก็พูดว่าถ้าเป็นบ้านนี้ไม่ได้เลยนะ ต้องสะอาดตลอด
ตอนแรกก็นึกว่าแกขิง แล้วก็ดูไม่ออกว่าเศร้าหรืออะไรเพราะเป็นคนเงียบๆ แต่ก็ดูออกอยู่ว่าพูดน้อยลง
ผมก็ห่างไปซักพัก มาได้ข่าวอีกทีตอนย้ายพื้นที่ไปที่อื่น บอกทนไม่ไหว โดนกดดันให้ไปค้ำไปกู้อะไรเพิ่มอีก จะไปสังสรรค์ก็ไม่ได้ ทรัพย์สินต่างๆซื้อไว้ก็เป็นชื่อเมียชื่อแม่ แต่เมียไม่ให้หย่าเพราะให้ผ่อนบ้านช่วยก่อน ซึ่งผมดูแล้ว.. คงจะยันเกษียณนู่นแหละมั้ง มีลูกอีกสองคน
มันเลยกลายเป็นว่า จริงๆผมเสียดายอนาคตแกนะ เป็นคนที่ขยันสุดๆเท่าที่ผมรู้จักเลย แต่ดันเจอเหลี่ยมบ้านเมียเยอะไป แล้วความพอดีก็ไม่มี
แล้วค่านิยมที่ว่าจะซื้ออะไรให้ซื้อเป็นชื่อเมีย มันก็เริ่มมากขึ้นทุกที ผมก็ไม่เข้าใจว่ามันเป็นกระแสอะไร แบบว่าถ้าหย่ากันก็จะเอาหมด มันก็ดูย้อนแย้งในโลกที่มีการเรียกร้องความเท่าเทียมเยอะแยะไปหมดแต่เวลาปฏิบัติดันเหลี่ยมใส่กัน