ผมคนนึงที่กู้มาแต่งงาน

บอกเลยวินัยทางการเงินต้องดีมากๆ

ผมได้เงินเดือนมา2คนกับแฟน โปะๆๆๆๆ

แม่งดอกโคตรเยอะเลยพวกกดเงินสด + รูดซื้อทอง

ตอนนั้นยังดีที่ไม่มีภาระอะไร รถยังไม่ซื้อ บ้านมีแล้วไม่ต้องผ่อน

เลยง่ายหน่อยที่ปิดเร็ว

แคร์อะไร โดนตำหนิโดน ไซโคมาป่าว คนในเน็ตใช่ว่าจะรู้จักตัวจริง ฝ่ายหญิงรู้สึกไม่ดี ที่โดนว่า หรือรู้สึกไม่ดีเพราะคิดว่าตัวเองก็ทำไม่ถูก? ดูทรงไม่ได้คิดอะไรนอกจาก ตกใจที่โดนคนว่าเยอะ


Edit เพิ่มคนเค้าไม่ได้ว่าฝั่งหญิงเป็นคนไม่ดี เค้าแค่บอกว่าทัศนคติเรื่องการกู้มาแต่งอ่ะที่ไม่ดี

ถ้า จขพ ได้อ่าน ผมว่าผมเข้าใจ ฝ่าย ญ นะครับ ต่างจังหวัดเป็นแบบนั้นจริงๆ ความรักคือการรักคนสองคนจริงๆแต่การแต่งงาน คือ การรวมครอบครัวทั้งสองฝั่ง ไหนจะพ่อแม่พี่น้องฝั่ง ญ อีก มันไม่ใช่เรื่องของคนสองคนแล้วเพราะว่า พี่ชายผมก็เป็นแบบ จขพ กู้เงินมาแต่งเหมือนกัน บวกกับท้องก่อนแต่งอีก ไหนจะ ฝ่าย ญ คบกันไม่ถึงปีอีก บ้านผมก็ค่อนข้างแอนตี้ฝั่งนั้นไปเลย จนถึงตอนนี้ หลานก็ไม่เคยพามาให้เห็นหน้า นานๆ หลายๆปีไปเที่ยวที่แถวๆบ้านผมก็พาไปทีนึง จนถึงตอนนี้ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ที่พิมพ์ๆมาคือให้ จขพ เป็นคนจัดการครับ คุณเป็นหัวหน้าครอบครัวแล้ว แล้วพวกที่บอกให้ๆ เลิกๆ ซื้อ กินอ่ะ สมาชิกเขาไม่รู้ ตื่นลึกหนาบางด้วย ยิ่งสมัยนี้สินสอดมันเป็นเรื่องที่ควรจะไม่มีแล้ว แต่ก็นะ เอาเป็นว่าเอาใจช่วยครับ คุณเครียดได้ คุณระบายได้ แต่ที่คุณจะนั่งคุยกันจริงๆจังคือแปนคุณนะครับ นี้แค่แต่งงานอีก ยังไม่มีลูก ค่าใช้จ่ายคุณยังไม่ไหวเลย

จากที่อ่านมู้เก่า แล้วมาอ่านมู้นี้

ก็ต้องแล้วแต่ท่านแล้วล่ะครับ เงินเดือนท่าน กับสินสอดที่เค้าขอไม่บาลานซ์กันเลย

แล้วเอาเงินจากซองไปจ่ายค่าแต่งงานเอามันเหลืออีกเท่าไหร่ก็เก็บไว้เป็นขวัญถุงเลย
คิดว่าจะเหลือจริงๆหรอครับ

ผมยังมองไม่ออกเลยว่าจะหาเงินมาจากไหนนอกจากกู้ แต่แนะนำว่าถ้ากู้ให้จด แล้วก้อกู้ร่วมนะครับ
หน้าใหญ่นักก็รับผิดชอบร่วมกัน แล้วถ้าเริ่มต้นด้วยความเป็นหนี้อะไรแบบนี้ชีวิตน่าจะไม่สงบสุขหรอก

จะแชร์ปสก.ของลูกพี่ลูกน้องผมให้ฟัง
เป็นทหาร ฝั่งเมียคนเหนือแต่งที่กรุงเทพ ต้องเหมารถทัวร์ เปิดห้องให้ญาตินอน จัดงานแต่งใหญ่ๆเพราะ
ชาวบ้านเค้าจะว่าได้ สุดท้ายไอลูกพี่ลูกน้องผมรับหนี้ที่กู้มาแต่งคนเดียว ตอนนี้เลิกกันไปละ

สินสอดกับค่าใช้จ่ายในการจัดงานทุกอย่างควรจะขึ้นอยู่กับสถานะทางการเงินของท่านเลยครับ คือถ้ามีเยอะจะเรียกเยอะหรือใช้เยอะก็ไม่เป็นปัญหาครับ แต่ถ้ามีน้อยแต่ใช้เยอะเริ่มต้นคู่ชีวิตด้วยหนี้ยังไงก็มีปัญหาครับ ยิ่งถ้าถึงขั้นต้องกู้มาเพื่อจัดงานที่จบในวันเดียวโดยที่ไม่ได้เป็นการใช้เงินเพื่อลงทุนต่อยอดสำหรับอนาคตผมมองว่ายังไงก็ไม่คุ้ม

ว้าววว tamon ตอบโดนใจ

ปล.หายไปไหนมาไม่ค่อยเจอเลย สมัยก่อนตอบแทบทุกมู้

ก่อนคิดแต่งงาน ดูเรื่องใช้ชีวิตกันด้วยนะครับ การเงิน ที่อยู่ ถ้าแต่งงานมันใช้เงินแล้วไปเบียดการใช้ชีวิตด้วยไหม

การเป็นหนี้มันน่ากลัวนะครับ

ผมจะกู้กรณีเดียวเลยนะ คือเอาสินสอดไปวางแล้วคืนให้เรา ผมยอมเสียดอกนิดหน่อยแค่นั้น
แต่ถ้ากู้แล้ว พ่อแม่ผญ.เอาเงินไปกอดไว้ ผมถามว่าทำเพื่อออ??
ต่อให้กู้ร่วมกับฝ่ายหญิงก็เถอะ กู้มาแล้วเอาเงินไปถือไว้เฉยๆ ทำทำไม
ดอกเบี้ยต้องจ่ายให้ธนาคารเท่าไร มันใช่เรื่องหรอ
แทนที่ทำงานจะมีเงินเก็บ ต้องเอาไปจ่ายดอกให้ธนาคารเปล่าๆเนี่ยนะ ถามจริง

สุดท้ายถ้าจะให้เวิคแฟนท่านจะต้องอยู่ข้างท่านเพื่อช่วยคุยกับฝั่งบ้านแฟน เพราะถ้าเป็นท่านอยู่คนเดียวชีวิตท่านดูทรงจะลำบากยาวแน่ ถ้าสุดท้ายถ้ายังไงก็จะกู้จริงๆขอให้จดทะเบียนก่อนและกู้ร่วมครับ อยากจะใช้ชีวิตคู่ด้วยกันก็ต้องมาดูแลหนี้ที่ก่อมาเพราะฝั่งบ้านเค้าด้วยไม่ใช่ให้ฝั่งเราจัดการอย่างเดียว และก็ไอ้คำว่ากลัวเสียหน้า กลัวเป็นขี้ปากคนนี่แหละที่จะทำให้งบบานปลาย เตรียมตัวได้เลยครับ

ของผมสินสอดไม่เยอะ
เน้นทอง (เอามาวาง)
ผมเป็นคนไม่ใส่ทองอยู่แล้ว
อาศัยไปไถ ญาติผู้ใหญ่ฝั่งผม
เอามาวางเยอะ ๆ ไว้ก่อน 555555

จบงาน ส่งคืน

ไหนๆก็กู้แล้ว จัดไป 1 ล้าน ทอง 10 บาทเลยครับ

เอาให้ยิ่งใหญ่อลังการ อย่าไปครึ่งๆกลางๆ

หรือ 5 ล้าน ทอง 20 บาท ก็จะไปอีกระดับครับ

ถ้าอยากได้หน้าก็กู้มาแล้วพอแต่งเสร็จก็ชำระคืนเลยคือดีที่สุด
เคยเม้นไว้กระทู้เก่าๆ ของผมเสนอให้เลย สองแสน ทองสองบาท แต่จริงๆ ก็ทองหนึ่งบาทเพราะฝ่ายหญิงซื้อตอบแทนกลับหนึ่งบาท แล้วบ้านฝ่ายหญิงออกเงินจัดงานด้วย เงินใส่ซองก็ได้คืนมาหมด เงินสินสอดฝ่ายหญิงก็คืนมาให้หมดมีเงินมาดาวน์รถสบายๆ เลย

ยังไงก็ไม่เห็นด้วยกับการต้องกู้เงินมาเพื่อหน้าตา หรือหลักประกันอะไร

ถ้าเพื่อหน้าตา ขอยืมเงินพ่อแม่ฝ่ายหญิงมาวางสิ ถ้ากลัวเสียหน้ามาก

หรือถ้าอยากได้หลักประกัน แล้วยังไม่มีเงินก็เลื่อนงานแต่งไป รอจนกว่าจะเก็บเงินได้ 5 แสนจริงค่อยแต่ง เพราะการกู้เงินมา มันไม่ใช่หลักประกัน มันคือภาระ

ถ้ากู้มาวางแล้วคืน เสียดอกนิดหน่อย อาจจะไม่เสียหายมาก แต่คำถามคือ เพื่อไรอะ เอาหน้าเหรอ ไม่ต่างจากพวกไม่เคยไปต่างประเทศ แล้วไปกอปรูปคนอื่น มาลงอวดในโซเชียล

ถ้ามองว่าสินสอดคือหลักประกันความมั่นคง ถ้ากู้มาวางแล้วไม่คืน ให้ลูกจ่ายดอก หลักประกันบ้าบอไรละครับ สร้างหนี้ สร้างภาระชัดๆ

เพราะงั้นสรุปง่ายๆเลย ถ้าอยากได้หลักประกัน 500k คุณไม่ควรกู้ ก็ไม่ควรแต่งเพราะทั้งคู่ไม่พร้อมอะครับ

ถ้าอยากได้หน้า ก็ยิ่งไม่ควรแต่ง เพราะ ครอบครัวที่เห็นแค่หน้าตาตัวเอง ไม่สนความลำบากที่ตามมา ทัศนคติมันไม่ผ่านแต่แรก

จริงสุดๆ คือมันไม่มีเหตุผลเลยไอ้คำว่าเงินเป็นหลักประกันว่าเราจะไม่ทิ้งลูกค้า และถ้าฝ่ายหญิงทิ้งเราล่ะ มันมีหลักประกันอะไรให้เราบ้าง ดูแล้วฝ่ายบ้านผู้หญิงคือมองแต่ฝั่งตัวเองจริงๆ