ฮีโร่ผู้เข้ามากอบกู้ศรัทธาในห้องแต่งตัว

นับตั้งแต่กุนซือแหบเสน่ห์เข้ามาคุมทีมต่อจากแฟรงค์ แลมพาร์ด ในเดือนมกราคม 2023 ซึ่งตอนนั้น สถานการณ์คล้าย ๆ กับที่เป็นตอนนี้ คือเกมส์รุกแย่ เกมส์รับรั่ว ณ ตอนนั้นไดซ์คือคนเดียวที่เหมาะสมกับการเข้ามากอบกู้ทีมที่แตกไปแล้ว

ซึ่งนัดแรกที่คุม ก็เปิดหัวด้วยการเอาชนะปืนโต จากการทำประตูของศิษย์ก้นกุฎิอย่างทาร์คอฟกี้ ตอนนั้นลุ้นเยี่ยวเหนียวยันนัดสุดท้าย ที่ดูกูเร่ยิงประตูชัยชนะบอร์นมัธ 1 - 0 ในวันปิดฤดูกาล รอดตกชั้นหวุดหวิด




ศูนย์รวมจิตใจ กับการกู้วิกฤติตัดแต้มด้วย Long Pass

ปีต่อมากับการเผชิญฤดูกาลที่ทีมโดนตัดแต้มถึง 2 ครั้ง เป็นปีที่น่าจะดีที่สุดในรั่วกูดิสัน พาร์ดของเอฟเวอร์ตัน กับ ไดซ์ ปีนี้เป็นปีที่ทีมเริ่มจูนติดกับสไตล์บอล Long Pass ด้วยระบบ 4 - 5 - 1 ในยามที่ทีมต้องตั้งรับ สลับกับ 4 - 4 - 2 และ 4 - 3 - 3 ในยามที่บอลบุก ปรัชญานี้ทรงพลังที่สุด โดยมีหัวใจสำคัญในแดนกลาง 4 คน คือ การ์เนอร์ - เกย์ - โอนาน่า และดูกูเร่ ที่ยามเกมส์รุก จะขึ้นสลับไปยืนเป็นกองหน้าในระบบ 4 - 4 - 2 คู่กับ DCL ซึ่งเป็ฯบอลสไตล์โบราณ เรียบง่าย แต่ทรงพลัง สาดบอลยาวไปให้เลวิ่น โขกชิ่งให้ดูกูเร่ สอดไปทำประตู พร้อมกับสูตรการตั้งเตะ ที่ได้ฟรีคิกทีเหมือนได้จุดโทษ

จุดสำคัญคือตรงนี้ การมีโอนาน่าได้แดนกลาง คือการมีตัวทำลายจังหวะ ตัวเกะกะคู่ต่อสู้ พร้อมกับการมีเกย์ หรือการ์เนอร์คอยสนับสนุน คอยซ้อนเกมส์รับ ปีกอย่างแม็คนีลล์ และแฮร์ริสัน ก็ครอสกันแม่นหลาย แถมกองหลังอย่างทร์กี้ กับ เบรนเวธ ดูจะเข้าขากันเป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้ ทีมจึงสมดุล แม้จะโดนตัดคะแนนก็บ่ยั่น ยังเอาตัวรอดได้แบบชิว ๆ โดยในปีที่แล้วไดซ์ในนำปรัชญาที่ว่า ให้ทุกคนสามารถทำประตูได้ โดยไม่ต้องหวังพึ่งแค่ DCL กองหน้ากาชาปอง ใครด่าว่าหนูนกาก ขอให้มาดูไอ้นี่


ขาดโอนาน่า = ขาดใจ

โอเค ทีมมีปัญหาเรื่องเงิน อันนี้้คือเรื่องจริง ประกอบกับโอนาน่าเริ่มอยากได้ความท้าทายใหม่ ให้สัญญาลูกผู้ชายว่าจะไม่ทิ้งทีมระหว่างฤดูกาล ซึ่งตรงนี้แฟนเอฟเข้าใจมาก และรักโอนาน่ามาก จึงไม่เคยโกรธหรือเกลียดในตอนที่กองกลางจอมแกร่งจะย้ายไปทีมใหม่ พร้อมสร้างเม็ดเงินมหาศาลให้กับทีมถังแตก มันจึงเป็นดีลที่ วิน - วิน ทั้งสองฝ่าย

แต่มันก็เริ่มเข้สู่หายนะอย่างแท้จริง นักเตะที่เอาเข้ามาแทนอย่างอิโรคบูนัม ยังสร้างความแตกต่างไม่ได้ การ์เนอร์เจ็บ DCL เล่นแบบไม่มีใจ แต่ก็ไม่ยอมขาย ทั้งที่กำลังจะหมดสัญญา ก็ขยันดันมันลง ไอกองหน้าที่มีก็ไม่ยอมใช้ ทุกอย่างมั่วไปหมด ลูกตั้งแตะที่เคยเป็นจุดขาย กลายเป็นเป็ดง่อย , การเข้าทำ ก็เปลี่ยนจาก Long Pass เป็นสาดส่ง ๆ เน้นซื้อเกมส์รับ ใครมันก็จับทางได้



เมื่ออีโก้เข้าครอบงำ





ทำประตูได้เป็นอันดับสุดท้าย ได้ประตูจาก Open Play เป็นอันดับสุดท้าย
เปลี่ยนโอกาสเป็นประตูเป็นอันดับสุดท้าย พลาดการได้ประตูเป็นอันดับสุดท้าย

ทุกคนเห็นว่ามันดิ่งขนาดไหน ทุกคนรู้ว่าแย่ เจ้าของสโมสรอย่างโมริชี่รู้ว่ามันไปต่อไม่ไหวแล้ว อยากจะปลดนานแล้ว แต่โมริชี่ไม่อยากเสียเงิน เพราะจะขายทีม

ซื้อเกมส์รับ ทิ้งเกมส์รุก สถิติการเข้าทำ รั้งบ๊วยลีก มีคนแนะนำให้หาโค้ชเกมส์รุก แกกลับบอกว่า ทีมรุกตอนนี้ดีแล้ว สัมเอาหล่อไปวัน ๆ

เอาแต่ตัวแก่ ๆ ลง อย่างยังเนี่ย โอเคตอนหลังฟอร์มดีขึ้น แต่ก็เวลาเจอตัวเร็วๆ หลุดตลอด มิโก้ฟอร์มกาก ส่งลงตลอด Dixon ที่ว่าเล่นดี ๆ ดองยาว ตัวใหม่ซื้อมาก็ดองเค็ม ไม่ใช้

มีแผนเดียว คือโยนแล้วไปวัดดวง ไม่ใช่ Long Pass แบบก่อนหน้า

อุดมันตั้งแต่แรก ลูกตั้งแตะที่เป็นลายเซ็น หายไปหมด คือมันแย่ไปหมดแล้ว


ไอที่ท่านเห็นว่ายันเสมอทีมใหญ่ได้ เพราะเน้นซื้อเกมส์รับเป็นหลัก + การเข้าทำไม่มี ต่อให้หลังแข็งแรงแค่ไหน แต่ถ้าเกมส์รุกมันไมไ่ด้ ยังไงมันก็ได้แค่แต้มเดียว แล้วจะเอาไรไปรอด

สุดท้ายถึงเวลาที่ต้องแยกกันสักที แม้จะช้ากว่าที่ควรจะเป็น ขอบคุณสำหรับการพาทีมรอดมา 2 ปี ยอมรับว่า การคุมห้องแต่งตัว แกเก่งจริง นักเตะซีเนียร์เคารพมาก แต่... มันคงได้แค่นี้แหละ

ผมตื่นมาดูทีมทุกนัด ดึกแค่ไหนก็ดู ยอมรับว่าเชียร์ทีมปีนี้ไม่สนุกเลย บอลแย่มาก ทีมรักเสียอัตลักษณ์ไปแล้ว กลายเป็นทีมที่เล่นเกมส์รุกไม่เป็น

คงไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้แล้ว มันไม่เหมือนกับสมัยสตีฟ คีน คุมแบล็คเบิร์น อันนั้นโค้ชดีอยู่แล้ว แต่ทีมบ้าปลดออก อันนี้คือแย่ทุกอย่างหมดแล้ว ไม่เหลือแล้ว ยิ่งนัดบอร์นมัธล่าสุด คือ โกล์เขา อีกนิด นอนเลยก็ได้ เพราะยิงไม่ตรงกรอบ ยิงไกลอย่างเดียว เข้าทำไม่ได้

ถึงเวลาไปเสี่ยงโชคกับโค้ชใหม่ครับ

Next Everton Manager odds
Here are the latest odds:

David Moyes - Evens
Jose Mourinho - 3/1
Lee Carsley - 4/1
Gary O'Neil - 8/1
Steve Cooper - 10/1
Michael Carrick - 16/1
Edin Terzic - 20/1
Thomas Frank - 20/1
BAR - 22/1


เดวิด มอยรีเทินหรอครับเนี่ย งานนี้

มีความเป็นไปได้ครับ แต่ยัง 50/50 เพราะมอยส์ไม่อยากพาทีมหนีตกชั้นอีกแล้ว แกอยากไปแนวแบบเวสแฮม คือพร้อมจะก้าวไปข้างหน้า ยกเว้นแต่ว่า บอร์ดจะใช้สาลิกาลิ้นทองกล่อมแกได้

เพราะสถานการณ์ทีมตอนนี้กับตอนสมัยแรกของแกต่างกัน ตอนนี้ทีมเริ่มจะมีเงินให้ใช้บ้าง เพราะยอมรับส่า เจ้าของใหม่หัวธุรกิจจริงๆ เริ่มปรับโครงสร้างหนี้ จนตอนนี้ หนี้ = 0 (ในทางการเงิน)

เช่น

ระดมทุนจากผู้ถือมาใช้สำรองจ่ายหนี้ดอกเบี้ยสูงในส่วนที่เหลือ


ใช้สนามใหม่ที่ท่าเรือแบรมลี่ย์มัวร์ค้ำประกันเงินกู้ 300 ล้านปอนด์จาก JP Morgan Chase เพื่อมาหมุนในสโมสร ทำให้สโมสรประหยัดเงินดอกเบี้ยจากที่เคยกู้จาก Right Media Fund ถึง 3% ต่อปี

โอนหนี้ของฟาร์ฮัด โมชิรี่ที่มีที่มาจากการสร้างสนามใหม่อย่างน้อย 200 ล้านปอนด์ มาที่บริษัทตัวเอง ใช้เวทมนต์ทางการเงิน พยุงสโมสร และคิดว่าเดือน ม.ค. มีงบมากพอจะช้อปปิ้ง

ต้องหาสายพัฒนานักเตะ และใช้งบน้อยหน่อย เพราะต้องหาตัวที่เข้ามาช่วยทีมได้จริงๆ

จริง ๆ นักเตะเยาวชนดี ๆ มีหลายคนครับ แต่โค้ชมันปอดอหกไม่กล้าใช้

อย่างอาร์มสตรองที่ลงแทนมองกาล่า ตอนครึ่งหลัง นี่พาบอลบุกข้างหน้า กล้าลุยมากกว่าไอตัวที่มี แต่ก็ยังไม่กล้าใช้ ใช้แต่ตัวแก่ ๆ

อีกประการนึง ที่ยุคนี้ต่างจากยุคแลมพ์คือแบ็คสองฝั่งไม่ดี สมัยแลมพ์มี อ.โคล แบ็คซ้ายระดับโลกคอยติว เรื่องเกมส์รุกกับรับริมเส้นดูดีกว่านี้มาก ส่วนหน้ามีดันแคน จอมบ้าดีเดือดคอยติว

ยุคไดซ์คือ รั่วเกินทั้งสองฝั่ง มิโกเลนโก้จากเดิมที่มันล่กอยู่แล้ว ไม่มีใครคอยชี้แนะมันยิ่งเตลิดจนออกทะเล รับแย่ รุกห่วย ก็จบ

โค้ชใหม่ ขอให้เอาทีมงานมาติวแบ็คสองฝั่ง กับกองหน้าทีเถอะ

จะปลุกท็อฟฟี่ ต้องใช้รูนีย์

ผมติดตามเอฟมาตั้งแต่ยุคราฟา จนยาวมาถึงยุคไดซ์ ผมสังเกตเห็นแฟนบอลอยากได้ฟุตบอลที่เล่นเกมรุก แต่ผมว่าบางคนคงลืมอะไรไป

ก่อนจะเล่นเกมรุกได้ มันต้องมีการครองบอลที่เหนียวแน่นก่อน ซึ่งไปย้อนดูสถิติได้เลย ตั้งแต่ยุคราฟา, แลมพาร์ด มาจนถึงไดซ์ มีกี่เกมที่เอฟเวอร์ตัน ครองบอลเหนือกว่าชาวบ้าน ชาวช่อง คือโค้ช 3 คนแล้วอ่ะ ขนาดเอาโค้ชเกมรุกอย่างแลมพ์ เข้ามา ทีมยังครองบอลสู้คู่แข่งไม่ได้เลย

ศักยภาพของตัวผู้เล่น มันไม่เหมาะกับการเล่นแบบครองบอล มันไม่เหมาะกับการเล่นเกมรุก ถ้าจะให้เล่นเกมรุก ทำไมไม่เอาตัวเบสิคแน่นๆ ทักษะดีๆ ครองบอลเก่งๆ เข้ามาบ้าง นี้แม่งมีแต่กลางสายแย่งบอลเก่งทั้งนั้น

เอาเป้ป มาคุม แล้ว set up ระบบเกมรุกให้ มันก็ไม่มีทางเล่นเกมรุกได้อ่ะ เผลอๆ เอาจริงๆ ต้องรื้อทั้งทีมอ่ะ ทั้งทีมจริงๆ นะ น่าจะรอดก็มีแค่พิคฟอร์ด แต่นั้นแหละ ถ้ารื้อทั้งทีมจริง จะกล้าทำรึป่าว

เห็นสมควรอย่างที่ ท่านพิมพ์เลย ครับ

ปีนี้เป็นปีที่ผม ดูเอฟ แล้ว ไม่สนุกเลย
แฟนเอฟที่เห็นพูดกัน คือไม่ได้อยากให้ทีมเล่นเกมรุก แต่ อยากให้ทีม มีเกมรุกที่ดีบ้าง

ตอนนี้ เกมรุก หวังแค่ Ndiaya ตัวเดียว ไม่ไหวอ่ะ

ท่านพูดเรื่องโอนาน่า แล้ว แผลนี้สำหรับผมชัดเจนที่สุด ตัวมาใหม่แทนไม่ได้ เลย แล้วปีหน้า เกย์ น่าจะไม่ไหว ต้องหาตัวมาแทนอีก

เอริค เทนฮาก ว่างอยู่นะ

เจ้าของเป็นทีมงานเดียวกับโรม่าที่ปลดมูรินโญ่ มีชื่อติดมาได้ไง

DCL ตอนนี้เป็นไงแล้วบ้างครับไม่ค่อยได้ดูเอฟเตะเลย

ศักยภาพนักเตะอย่าหาทำมาเล่นบอลคอนโทรลตอนนี้ ถ้าจะวางรากฐานใหัเป็นทีมที่เริ่มครองบอลสู้คนอื่น ก็เสี่ยงตกชั้นไปสักปีสองปี แต่ถ้าปีนี้ มันไม่ใช่เวลาทำแบบนั้น ผมว่า น่าจะต้อง มอยส์ เข้ามาดูไปก่อนระยะสั้น แล้วค่อยหาโค้ชหนุ่มมาทำ มาสร้างทีมใหม่

ประตู พิคฟอร์ด มันเซฟดีนะ แต่ถ้าจะทำบอลบิ้วอัป ก็คงอยู่ไม่ไหว นักเตะในทีม 95% ตอนนี้เด่นเรื่อง Physical กับบอลกลางอากาศ ต้องเล่นแบบ transition จ๋า ๆ ไปก่อนตามสภาพ เน้นเกมรับเอาแบบที่ผ่านมา มันอาจจะชนะยาก แต่ผมคิดว่าถูไถไปก่อน ให้รอดซีซั่นนี้

ริมเส้นตัวรุกผมชอบ เอนดิอาย ดูวูบวาบดี น่าจะยืม ริมเส้นจี๊ด ๆ มา อีกคน กับกลางรุกที่ work rate สูง ๆ อาจจะรอด

ในลีกยืมไม่ได้ครับ เพราะใช้โควต้ายืมตัวในลีค ครบ แล้ง 2 คน คือโบรย่า กะ แฮร์ริสัน ดังนั้น ต้องหาตัวนอกลีก แบบที่ยืมลินสตรอมมาครับ

ไดซ์อยู่ก็มีฝีมือเท่านี้ โอกาสรอดชั้น 80% ตกชั้น 20% แต่อันดับก็อยู่ประมาณ 13-18 ตลอดไปแน่นอน

แต่ถ้าปลดกลางฤดูแล้วไปหาโค้ชมือไม่ถึงมาคุม ท็อฟฟี่ได้ตกชั้นแน่ๆ ให้ไดซ์คุมถูๆไถๆ จบอันดับ 16-17 ไปก่อนดีกว่า ปีนี้ดูแล้ว นักบุญ กับ จิ้งจอก น่าจะไม่รอด เหลืออีกหนึ่งที่ ท็อฟฟี่วัดดวงกับทีมอืนๆเอา