วิธีนี้คุยแล้วครับ เค้าไม่เอาด้วย

จากข้อมูลที่ท่านให้มา ก็ต้องขออนุญาตพูดตรงๆ ตามที่คิดนะครับ

ท่านกับแฟนท่านรักกันจริงใช่ไหม ถ้าคนรักกันจริง น่าจะต้องช่วยคุยกับที่บ้านให้สิ แล้วบอกให้ไปกู้มาอีก แปลกไปใหญ่ ถ้ากู้มา แฟนท่านก็ต้องรับภาระด้วยนะ ไม่คิดถึงอนาคตเลยเหรอ เงินเดือนจะพอใช้ไหม ถ้าสร้างหนี้ที่ไม่จำเป็นแบบนี้ ถ้าห่วงหน้าตามาก ฝ่ายหญิงก็ช่วยออกได้ จบงานก็เอาคืนไป วินวินทุกฝ่าย ชายหญิงได้แต่งงาน ครอบครัวได้หน้า

แต่ก็นะไม่รู้ข้อมูลอีกฝั่งเป็นไง แต่จากที่ว่ามา ผมว่าฝั่งนั้นคิดแต่เรื่องเงินมากเกินไปอ่ะ

"อีกทั้งแนะนำให้ผมกู้เงินมาเป็นค่าสินสอด ค่าแต่งงานด้วย แล้วค่อยผ่อนด้วยกันเอา"

เป็นความเห็นส่วนตัวสำหรับผมนะ

ผมรู้สึกไม่ ok กับประโยคนี้ที่แฟนคุณแนะนำเลย
ผมมองว่า แค่กู้เงินมาเป็นค่าสินสอด ค่าจัดงานแต่ง ก็ผิดแล้ว
เหมือนแฟนคุณเป็นคนห่วงภาพลักษณ์มากกว่า
เป็นคนไม่วางแผน ไม่รอบคอบ ไม่คิดหน้าคิดหลัง ไม่คิดถึงอนาคตอ่ะ

นี่แค่คบกัน 2 ปี ยังไม่ทันแต่งงาน ก็เริ่มรู้สึกกระอักกระอ่วนในใจแล้ว

เป็นผม ผมคงขอบายอ่ะ
ไปหาคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจอ่ะ

กู้ 5 แสน ผ่อน 5 ปี นี่เดือนนึงผ่อน 13k เลยนะ

เสียดอกเบี้ยไปเกือบ 3 แสนเลยนะ

เอาเงินคุณ 20k + 25k เงินเดือนแฟนคุณ คือคุณจะเสียเงินไปผ่อนค่างานแต่ง 1/3 ของเงินทั้ง 2 คนรวมกันไป 5 ปีเลยนะ

หรือถ้าคุณผ่อนเดี่ยวอ่ะ คือคุณเหลือเงินใช้แค่เดือนละ 7 พัน ไป 5 ปีนะ

คิดเอาเองละกันว่าคุ้มมั้ย

ถ้าแฟนคุณยังคงยืนยันว่าจะให้กู้อีก...คำแนะนำเดียวคือ เลิกเถอะ สมองด้านการบริการการเงินไม่มีเลยนะ ถ้าเอาข้อมูลนี้ไปแล้วยังยืนยันให้กู้

ถ้าเป็นผมก็ต้อง Say goodbye เธอไม่ยืนข้างเรา ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะสร้างครอบครัวด้วยกัน

อยากให้ท่านมองอนาคตด้วยเผื่อไว้ ถ้าท่านแต่งด้วยการกู้หนี้เยอะๆผมให้ท่านมีความสุขเต็มที่สัปดาห์นึงหลังจากนั้นไมเกรนขึ้นแน่นอน เงินมันสำคัญครับกับชีวิตคู่อะ เห็นมาหลายคู่แล้วที่ไม่มีกระแสเงินสดใช้ สุดท้ายผมคงไม่ต้องบอกนะว่าเกิดอะไรขึ้น หย่ากันมาหลายคู่แล้วครับเพราะไม่มีเงินใช้เนี้ย ไม่มีหรอกครับผู้หญิงที่จะมาทนกัดก้อนเกลือกินด้วยกันสมัยนี้ ใครบอกเงินซื้อความสุขไม่ได้นี่โคตไม่จริง...ถ้าไม่ใช่ตัดไฟต้นลมอย่าให้ลามทุ่งครับ

แล้วที่บ้านท่านว่าไงมั่งครับลองไปปรึกษาบ้างมั้ย? ลองไปคุยกับผู้ใหญ่ฝั่งท่านดูมั่งก็ดีครับ

เข้าใจว่าตอนนี้อาจจะฟุ้งๆอยู่ ถ้าคุยกันไม่ได้ทำแค่ในส่วนของคุณเองแบบนี้ดูครับ

จดรายการรายรับ รายจ่าย ที่ต้องจ่าย ปัจจุบัน

อนาคตถ้ากู้ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม จะสร้างทรัพย์สิน หรือมีภาระ ที่ต้องจ่ายเท่าไหร่

จะเหลือกินเหลือใช้เท่าไหร่ ลงรายละเอียดสองฝั่ง รายรับ รายจ่าย แบ่งระยะสั้น กลาง ยาว

เอาเท่าที่จะคิดออกได้ละแบ่งลง excel /google ดูครับ


การเงินเป็นเรื่องของตัวเลข ถ้าคิดวกไปวนมาจะไม่เห็นภาพ

ผมว่าถ้าลองทำดูท่านก็จะมีคำตอบให้ตัวเองบ้างแหล่ะ เเล้วค่อยเอาอันนี้แหล่ะไปคุยกับเค้า

ไมเป็นไรครับพี่ ตอนนี้อารมณ์ร้อนและเครียดมากทั้งคู่ ถอยมาก่อนครับ พี่พักก่อนแล้วลองอ่านเรื่องของเพื่อนผมแก้เครียด ละกัน เรื่องไม่คล้ายเท่าไหร่ ก็ตึงแบบนี้เลย

เพื่อนผม ตอนแรกทำงานบริษัท สักพักลาออกมา ตอนนี้ไม่มีตัง รายได้ไม่แน่นอน คบกับแฟนมา 14 ปี ตั้งแต่เรียน ม.ปลาย คือผมคบกับแฟนผมทีหลัง ยังแต่งก่อนมันอ่ะ

แล้วครอบครัวหญิงอยากให้แต่งละ แล้วก็อยากสร้างเรือนหอ ตอนแรกคุยว่า ก็แบ่งจ่ายคนละครึ่งๆ แล้วแฟนมันบ้านรวยกว่า บอกเอาที่ดินให้ มูลค่าเท่ากับค่าสร้างบ้านเลย

มันก็คุยเลย ไม่มีตัง และไม่รู้วันที่จะมีตังขนาดนั้นต้องใช้เวลาไม่รู้กี่ปี ตอนแรกคือตึงมาก ดึงกันไปมา บ้านฝ่ายหญิงก็บอกยังไงต้องออกเท่ากัน ไม่งั้นไม่แต่ง ตอนนั้นผมก็คิด เชี่ยละเพื่อนกุ ต้องเลิกจริงป่าวว่ะเนี่ย

สรุป เพื่อนผมหัวแข็ง ยืนยันคำเดิม ตอนนี้บ้านผู้หญิง ยอม ซื้อที่ดิน กับค่าลงเสาเข็มให้ละ แล้วเพื่อนผมก็ค่อยๆหาเงินแล้วค่อยๆสร้างทีละนิด

ผมคิดเลยว่า จะแต่งเป็นครอบครัวมันต้องยังงี้ดิวะ ใครมีมาก มีน้อย ไม่สำคัญ มันต้องมาเอามารวมกัน

เรื่องของพี่ ผมดูแล้ว เฮ้ย มันแต่งแล้วให้เก็บไว้คนเดียว บ้าป่าวว่ะ โครตไม่แฟร์เลย ยังงี้ยังอยากสร้างครอบครัวหรอ สู้ๆครับพี่ ไม่ได้ยุให้เลิก แต่ดูแล้ว เดินกันไปต่อนี่น่าจะเจอแต่ตอ และไม่ราบรื่นแน่ๆ หาจังหวะดีๆค่อยคุยกันครับพี่

ตอนเห็นชื้อมู้ เข้าใจว่าเรื่องประมาณที่เล่ามา แต่แฟนท่านอยู่ข้าง จขกท. แต่ติดที่ผู้ใหญ่จริงๆ

แต่ถ้ามาทรงนี้นะครับ ด้วยความเคารพนะครับผม ถ้าถูไถแต่งกันไปได้ มีลูกอีก ใช้ชีวิตกันต่อไปอีก เจอปัญหาที่น่าจะตามมาอีกเพียบครับ ดูจากทัศนคติแฟนท่านแล้ว อะไรอีกเยอะผมว่ายังไงก็ไม่รอดอยู่ดีครับ

แต่ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ สำหรับการตัดสินใจครับ

แต่งงานควรเป็นอะไรที่ทำให้ชีวิตดีขึ้น อายุเราไม่ใช่น้อยล่ะ

ถ้าแต่งแล้วมีหนี้สิน ชีวิตที่เหลือจะทำไง

แฟนไม่ยอมลดจำนวนสินสอด และแนะนำให้กู้เงินมาผ่อน


หนักอยู่นะเนี่ย mind set ทางการเงิน

รักแค่ไหน อาจต้องทบทวนเรื่อง mind set ทางการเงินนะครับ

แบบนี้เหมาะเป็นคู่ชีวิตในระยะยาวหรือไม่ ลองพิจารณาดีๆ ผมว่าอันนี้หนักสุด กู้เงินมาแต่งงานเอาหน้า

ให้กู้เงินมาแต่ง โดยไม่สนว่ามีความสามารถมาจ่ายหนี้แค่ไหน โอ้โห ขอพูดตรงๆ อยู่กันไปไม่น่ารอดครับ เค้าไม่ได้แคร์อนาคตร่วมกันเลย

เป็นผม ผมยังไม่แต่ง ก็บอกไปตรงๆว่ายังไม่พร้อม
อายุจะ40แล้ว มาเป็นหนี้ก้อนโตอีก อย่าเลยครับ
ถ้าเขาไม่ลดให้ ก็รอเก็บเงินสักพัก ค่อยว่ากันอีกที

ผมล่ะกลัวพี่ใจอ่อนยอมไปกับฝ่ายหญิงจริงๆ ในกรณีที่พี่อยากแต่งกับเค้าจริงๆ ลองไปคุยกับเค้าดีกว่าว่าขอเวลาเก็บเงิน3-5ปี เดี๋ยวมูลค่าก็ลดลงไปตามอายุครับ

เมื่อไหร่ประเทศไทยจนหลุดจากค่าสินสอดแพงๆ บ้าๆ สักที ยิ่งเคส จขกท คือ แม่งหน้าเงินจัด ไม่แปลกใจเลยทำไมคนไม่แต่งงานกันเยอะแยะไปหมด เพราะสินสอดที่เอาเปรียบฝ่ายชายฝ่ายเดียว เลิกเหอะกับเรื่องแบบนี้ ถ้าไม่เลิกก็รอวันประชากรลดฮวบฮาบได้เลย แค่จะสร้างครอบครัวยังกดดัน ยังบีบกันขนาดนี้ ก็อย่ามีเลย