เท่าที่ผมก็สังเกตุ จากตัวผมจะซักช่วงเช้าเพราะจะติดดูดินฟ้าอากาศก่อน
ซักกลางคืนเช้าไม่มีแดดนี้อย่างเซง

กองทุน หรือ หุ้นปันผล ครับอารมณ์ Tisco งี้ ปีนึงก็หลายแสนอยู่นะครับ

ผมฝากประจำ 12 ด แยกไว้บัญชีนึง ได้ดอก ปีล่ะ 51000

2! ถ้ามีที่ ที่โลดีๆอยู่แล้วแม่งโคตรดี

ปล.ผมไม่เคยทำนะ แต่ผมชอบธุรกิจนี้เฉยๆ

ข้อ 2 ถ้าคุณเสียค่าเช่า อย่าไปทำไม่คุ้มเหนื่อยหรอก

เอา 2 มาให้ดูในการคำนวณคร่าวๆ

ได้รายดีมีกำไร อยู่ที่ทำเลต้องดีจริง แหล่งชุมชน บ้านเช่า ห้องพักเยอะๆ แล้วเป็นที่ของตัวเองไม่ได้เช่า ไม่งั้นหนักแน่

แล้วคู่แข่งบริเวณนั้นมีร้านสะดวกซักกี่ร้าน ก็ต้องทำการบ้านเยอะๆ

ต้องทำระบบดีๆด้วย ผมไปซัก แล้วแอบได้ยินเจ้าของร้านคุยกับพนักงาน ไฟตกบ่อย ทำบอร์ดพัง ต้องเสียค่าบอร์ด 1แสน

ต้องวางระบบเซฟตี้ให้ดี ถ้าอยู่ในประกันก็โอเค หมดประกันอ้วกแน่

เป็นผมเลือก 3

ค่าบอร์ด 19,000 ครับ ผมเปลี่ยนมา 2ตัวแล้ว
ปล. ของผมยี่ห้อ Speed Queen น่าจะแพงสุดในตลาดแบ้ว

เมื่อวานมีกระทู้แบ่งเงินลงทุนอยู่

ทำโรงแรมแมวครับ

ถ้าเป็นเงินเย็น และท่านไม่มีความรู้ อาจจะนอกตัวเลือกเสี่ยงต่ำ

แนะนำซื้อทองเก็บไว้ครับ

All in ustc

ล้างรถ50บาทครับเห็นแถวบ้านเยอะ

ข้อ 2 ทำได้
ถ้าคุณมีหอพักเป็นของตัวเอง
หอพักต้องระดับมากกว่า 30 ห้องขึ้นไป
ถ้าเป็นหอพักนักศึกษาจะดีมาก
ตั้งเครื่องไว้ในหอเนี่ยแหละ ยังไงก็กำไร

แต่ถ้าไม่มีหอหักเป็นของตัวเอง หรือมีแล้ว แต่จำนวนห้อง ไม่ถึง 50 ห้อง ผมว่าอย่าทำเลย
เพราะตอนนี้มันมีเต็มบ้านเต็มเมืองหมดแล้ว ร้านที่ตั้งเครื่องซักผ้า

เป็นผมจะลง S&P500 ทั้งหมด แล้วใช้ชีวิตต่อ

1. ร้านล้างรถอัตโนมัติ ไม่ค่อยมีข้อมูลแฮะ แต่ผมคิดว่า มันควรจะไปอยู่ใกล้ๆห้าง หรือเช่าพื้นที่ในห้างน่าจะดี แต่เหมือนเคยหาข้อมูล ราคาเครื่องก็เอาเรื่องอยู่ แล้วผมว่ามันอยู่ที่บริการหลังการขาย เพราะถ้าเสียมา หน้าตึงเลยนะครับ สมมุติเสีย ต้องสั่งอะไหล่เข้ามาจาก ตปท. ใช้เวลา 1 เดือน ก็เหมือนรายได้เราหายไปแล้ว 1 เดือน ผมเลยว่า ถ้าเป็นผม ผมจะไม่ลง เพราะมันเหมือนเอาทั้งชีวิตไปฝากกับเครื่องๆนี้

2. ร้านเครื่องซักผ้าอัตโนมัติ







ลองดูที่เค้าวิเคราะห์หลายๆแบบดูครับ

3. ทำขายฝากบ้านกินดอกเบี้ย

อันนี้ผมก็ชอบนะ เคยคิดอยู่ แต่มันเคยมีหลายๆข่าว ที่พอยึดแล้ว เจ้าของบ้านไม่ออก แล้วเป็นพวกแว๊นหรือนักเลง หรือพวกไม่มีอะไรจะเสียแล้ว คุณจะโดนยิงได้ง่ายๆเลย

ความเสี่ยง
- โดนยิง
- ไม่ออก ต้องไปฟ้องขับไล่เอา
- ถ้ายึดมา ที่ติดมือ เงินจม
- ต้องมีปัญหากับเจ้าของทรัพย์ที่โดนยึด

มันเป็นเหมือนธุรกิจสร้างศัตรูอ่าครับ ไปยึดของที่เค้าเดือดร้อนมา ถ้าเป็นยายแก่ๆ

แล้วลูกแอบเอาบ้านมาขายฝากแล้วหลุด ลูกหายตัวไปแล้ว

ท่านจะไล่ยายให้ไปอยู่ที่ไหนครับ

ในมุมกฎหมาย เราถูกต้อง 100% แหละ แต่ในมุมความรู้สึก ผมว่ามันบั่นทอนอยู่นะ

ส่วนการแก้เรื่องโดนยิง เรื่องอะไร วิธีแก้ที่ผมเคยคิดไว้ แต่ไม่รู้จะถูกมั้ย

คือเปิดเป็นบริษัทเลย แล้วเราไม่ต้องเข้าบริษัทเลย มีพนักงานติดตามทวงถาม มีผู้จัดการ

ค่อยให้ผู้จัดการเอาโฉนดมาให้ดู ว่าเราโอเคมั้ย แล้วค่อยอนุมัติ

แต่ผมว่าอย่าเลยครับ เงินมันร้อน ของมันร้อน ได้มามีแต่คำสาบแช่ง

เอาเงินไปลงพวกกอง Reit แล้วให้มืออาชีพเค้าบริหารอสังหาให้ดีกว่าครับ

ถ้าเป็นผมจะแบ่งอย่างงี้นะ

1. 1,000,000 บาทแรก ทำให้มันเติบโต โดยลง S&P500 ผลตอบแทน 10% ต่อปี ยาวๆไป 30 ปีเลย แบบซื้อลืมเลย เงินจะโตเป็น 17,449,402 บาท

2. 1,000,000 ที่สอง ลงปันผล ต้องมีกระแสเงินสดมาช่วย เผื่อตกงาน หรืออยากเบาๆเรื่องงานลง ไปหาหุ้นปันผล 10% ต่อปี หาที่จ่ายเป็นรายเดือน จะได้เงินปันผลมาประมาณเดือนละ 7,000 บาท ถือว่า ยังพออยู่ได้ ชีวิตยังพอเดินต่อได้

3. 500,000 บาท ซื้อทองคำมาเก็บ เผื่อเป็นเงินฉุกเฉิน เผื่อสงคราม ยังขายทองเป็นเงินได้

4. อีก 500,000 ที่เหลือ เก็บเป็นเงินสด เป็นเงินฉุกเฉิน หรือ เผื่ออยากลงทุนอะไร ก็ไม่ควรลงทุนเกินเงิน 500,000 บาทนี้

เพราะถ้า 3 ล้าน คุณเอาไปลงในธุรกิจ 1,2,3 แล้วเจ๊ง เงินทั้งหมดคุณหายเลย

แต่แผนด้านบนนี้ อนาคตคุณยังจะมีเงิน 17 ล้าน ยังมีเงินฉุกเฉิน ยังมีเงินลงทุน

แล้วก็ทำงานปกติต่อไป แล้วเอาเงินที่ทำงาน ทยอยเติมทุกตะกร้า

เงินลงหุ้นคุณก็จะเพิ่ม ปลายทางก็จะเกิน 17 ล้าน

ปันผลแต่ละเดือนก็จะเพิ่มขึ้น จนสามารถเลี้ยงตัวคุณได้ในแต่ละเดือน

ทองสำรองก็เพิ่ม

เงินสดที่เอาไว้ฉุกเฉิน หรือ ลงทุนก็เพิ่ม

คุณก็รวยได้แล้วครับ แค่ต้องใช้เวลา รวยช้า แต่รวยแน่

ปล. อย่าลืมทำประกันสุขภาพด้วย ปีละ 20,000+

ปล. 2 ยูส woohoooo มาช่วยวางแผนหน่อยครับ อย่าลืมแซะผมด้วยนะ