เครดิต https://www.facebook.com/bangkokbma

กลับมาอีกครั้ง กรุงเทพกลางแปลง ดูหนัง-ฟังดนตรีท่ามกลางลมหนาว ประเดิมแปลงแรก “สัปเหร่อ” เสาร์ที่ 4 ม.ค. 68

(2 ม.ค. 68) นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร เผยว่า กรุงเทพมหานคร ร่วมกับสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย หอภาพยนตร์ Thai Film Archive และ Happening Mag จัดงาน “กรุงเทพกลางแปลง” ขึ้นระหว่างวันที่ 4-19 มกราคม 2568 โดยได้รับการสนับสนุนจาก THACCA-Thailand Creative Culture Agency กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ประเดิมเรื่องแรก “สัปเหร่อ” ที่เสาชิงช้า เสาร์นี้

การจัดงานกรุงเทพกลางแปลงในครั้งนี้ เกิดขึ้นภายใต้งาน “Colorful Bangkok 2024” ซึ่งนอกจากจะมีหนังกลางแปลงแล้ว ยังมี คอนเสิร์ต การเสวนา การออกบูทอาหารอร่อยประจำพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร การออกบูทของชาวกองถ่ายและนักสร้างสรรค์ และกิจกรรมสร้างสรรค์มากมาย

โดยงานจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2568 ไปจนถึงวันที่ 19 มกราคม 2568 (ทุกวันเสาร์-อาทิตย์) ตั้งแต่เวลา 17.00 น.เป็นต้นไป และฉายภาพยนตร์เวลา 19.00 น. ต่อด้วยคอนเสิร์ตจากศิลปินมากมาย เข้างานฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

สำหรับการฉายหนังกลางแปลงประเดิมปีใหม่ด้วยภาพยนตร์ไทยทำเงินสูงสุดประจำปี 2566 เรื่อง “สัปเหร่อ” ในวันเสาร์ และวันอาทิตย์เป็นเรื่อง “ทวิภพ” 1 ในหนังขึ้นทะเบียนมรดกภาพยนตร์ของชาติ ส่วนหนังสั้นจะเป็น “พิธีโล้ชิงช้า” และ “อัศเจรีย์” โดยหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) และอีก 1 กิจกรรมที่ไม่ควรพลาด นั่นก็คือ คอนเสิร์ตจาก วันซ์ ด็อกส์, ปรีชา ปัดภัย และ Whal & Dolph Scrubb และ The Proper Clan และการเสวนาจากคอหนังตัวจริง ตัวแม่ และตัวพ่อของวงการอย่าง ต้องเต และตาต้า จากภาพยนตร์ เรื่อง “สัปเหร่อ” ดำเนินรายการโดยนักแสดงสาว ทราย เจริญปุระ เป็นต้น

นอกจากนี้ นายเอกวรัญญู โฆษกของกรุงเทพมหานคร ยังได้เชิญชวนทุกท่านกางเสื่อดูหนังกลางแปลงด้วยกัน พร้อมอุดหนุนร้านค้าชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น ใครสะดวกตรงไหนไปตรงนั้น เพราะมี 3 จุดด้วยกัน ได้แก่ ลานคนเมือง คลองผดุงกรุงเกษม (ฝั่งหัวลำโพง) และสวนลุมพินี (อาคารบันเทิง) หรือใครอยากดูเรื่องไหนก็ตามไปดูกันได้เลย โดยจะฉายทั้งหมด 6 เรื่อง ได้แก่ สัปเหร่อ ทวิภพ Sea Sparkle Redlife ดอยบอย ทะเลของฉันมีคลื่นเล็กน้อยถึงปานกลาง
--------------------
#กรุงเทพกลางแปลง #ภาพยนตร์ #ฉายหนัง #ดนตรี #ฟรีตลอดงาน

ให้ออกไปนั่งดูหนังสูดฝุ่น pm 2.5 หรอ

คือถ้ากทม.ยังจัดงานเหมือนปกติ
ประชาชนก็ยิ่งเข้าใจว่าทำกิจกรรมกลางแจ้งได้
ในช่วงที่ pm2.5 สูงทั่วกรุงเทพ

ก็ยิ่งเคยชินกับปัญหากันไป

ผลงานชิ้นโบว์แดงของชะช่า

ทำไมพยามให้ประชาชนใช้ชีวิตเหมือนว่าประเทศนี้ไม่มีฝุ่น PM2.5 กันแล้ว ทั้งที่ควรจะเตือนให้งดกิจกรรมกลางแจ้งด้วยซ้ำ ทีมงานที่ดูแล้วน่าจะมีการศึกษา มีตรรกะที่ดี ทำไมกลายเป็นทำอะไรโง่ๆได้แบบนี้นะ

- งานพวกนี้ ปกติประชุมกันหลายเดือนก่อนจะเริ่มงานนิครับ ช่วงเวลาประชุมและเคาะวัน ตอนนั้นฝุ่นยังไม่ขนาดนี้เลย

- ตอนคริสมาสต์ / ปีใหม่ ไม่มีใครท้วงแย้งซักคนเรื่องนี้ทั้งที่งานห่างกันไม่กี่วัน แต่พอมาเป็นงานกรุงเทพฯ กลับตื่นตัว ตอนนี้เริ่มสงสัยละว่าห่วงสุขภาพจริงหรือแค่หมั่นไส้ผู้จัดงาน

- การตื่นตัวทั้งฝั่งรัฐและฝั่งประชาชนยังเฉยๆ กับเรื่องฝุ่นเยอะ รัฐก็ไม่ประกาศเตือนแบบจริงจังเหมือนตอนก่อนโควิด ประชาชนก็ยังทำกิจวัตรประจำวันแบบไม่ใส่หน้ากากอยู่เลย

ขอบคุณที่มาแจ้ง เดี๋ยวไปดูสัปเหร่อ วันอาทิตย์ไปดู Interstellar ต่อ