ตัวเองดันโง่เอง ต่อสัญญาเทนฮากแล้วปด ตั้งอโมริม ซื้อแดนมาแล้วก็ปลด

หมดหลายสิบล้าน

แต่ดันปลดพนักงานตัวเล็กๆ ตั๋วเข้าชมของครอบครัวนักเต๊ะที่สร้างแมนยูมาถึงทุกวันนี้ สวัสดิการที่ใช้ตังค์แค่ 40,000 ต่อปี ภาพลักษร์แมนยูแม่งเล๊ะตุ้มเป๊ะเลย

ส่วนตัวในชีวิตก็เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้นะ บริษัทอเมริกามา Take over แล้ว ปลดคนกระจายแบบเกือบๆคร่ึง ผมก็เป็น 1 ใน นั้น ในความคิดคือนอยนะ เพราะตอนนั้นขี้เกียจหางานใหม่ แล้วก็กำลังสนุกกับงาน แต่ผมก็ยังไม่ได้รู้สึกว่าเกลียดเจ้าของนะ คิดว่ามันเป็นจังหวะของชีวิตเฉยๆ

เป็นเจ้าของแนวแทรกแซงอ่ะ เหมือนจิมทำนู่นทำนี่นะ แต่ CEO สโมสร มัน บาราด้า ไม่ใช่หรอ

ในมุมพนักงานเซ็งแน่นอน เจ้าของเก่าไม่เคยทำไรแบบนี้พอมีผู้ถือหุ้นใหม่มาเปลี่ยน ลด ปลดขนาดนี้เจอแบบนี้ไงก็ท้อ ความรู้สึกพนักงานตัวเล็กๆคือกูก็ทำงานของกูเต็มที่ ผลงานไม่ดีมาลงที่พวกกูได้ยังไง ตัวนักบอล ตัวผู้บริหารที่บริหารมั่วซั่วดันลอยตัว ทำงานไปลุ้นให้นักบอลเล่นเต็มที่ไป เดี๋ยวผลงานยิ่งห่วยคนซวยก็พวกพนักงานอีก

เป็นผมท้ออะเพราะเรารู้อยูว่าฝ่ายบริหารและผลการแข่งขันแมร่งกาก ยิ่งฝ่ายบริหารเสียเงินไปละลายแม่น้ำตั้งเท่าไหร่แบบเสียโง่ๆด้วยนะ แต่ทำไมมากระทบคนที่ไม่เกี่ยวได้วะ กรูตัดหญ้า ทำอาหารอยู่ดีๆ มาลงที่พวกกรูทั้งนั้น

ก็ในมุมพนักงานไม่มีใคร Happy หรอกครับ โดนตัดสวัสดิการ และ ลดคนน่ะ (ซึ่งบริษัทผมก็โดนอยู่)

ไอสวัสดิการที่มันตัดๆไปอะ มันจะจ่ายค่าเหนื่อยบักแรชได้สักกี่วีคเอง

เห้นด้วยเรื่องลดขนาดองค์กร แต่การลดสวัสดิการไม่เห็นด้วย

จำนวนเงินที่ลดได้กับภาพลักษณ์ที่เสียไป บอกเลยไม่คุ้ม

ผมว่าตอนนี้สิ่งที่แกทำมันหลีกเลี่ยงที่จะทำคนในองค์กรไม่ Happy ไม่ได้อยู่แล้ว

ถ้าจะให้มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ต้องไปจัดการพวกเพดานค่าเหนื่อย ความเหมาะสมค่าเหนื่อยด้วย

เชื่อว่า พนง. ที่รักและอยากให้สโมสรอยู่ได้ และพัฒนาทันทีมชั้นนำตอนนี้ด้วย

พร้อมจะเข้าใจนะ หากมันจะต้องมีการปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อให้สโมสรเดินหน้าได้

ทำงานในรูปแบบคู่สัญญาการจัดการเรื่องเร่งด่วนมันต้องทำอะไรที่ไม่มีเงื่อนไขผูกมัด อยู่ๆจะไปลดค่าจ้างนักเตะแบบนอกเงื่อนไขสัญญามันไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาแถมยังเพิ่มปัญหาตามมาอีก

อะไรที่ทำแล้วเป็นศัตรูกับแฟนบอล Local อันนั้นแหละอันตรายเลย

มองแบบกลางๆเลยนะ ปฏิบัตกับพนักงานกับตำนานทีมแบบนั้น คนดีๆเก่งๆที่ไหนอยากจะไปร่วมงานด้วย ถ้าผมเก่งและดีจริงนะผมหางานใหม่แน่นอน อนาคตของตัวเองอยู่ตรงไหน สโมสรฟุตบอลมันไม่ใช่บริษัทเอกชนนะ มันมีเรื่องวัฒนธรรม จิตวิญญาณ อารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องเยอะ ต้องใช้อำนาจและใช้ใจด้วย

มองในมุมแฟนหงส์นะ ผมโอเคนะเหมือนดูแมนยูกำลังทำลายตัวเองไปเรื่อยๆ เชียร์ให้ทำต่อไป

โอ้ย ท่าน ผมไม่ได้หมายถึงไปลดค่าเหนื่อยนักเตะที่มีอยู่สิ มันทำไม่ได้อยู่แล้วสิ สัญญามันผูกมัดอยู่

ผมก็บอกอยู่ว่าหมายถึงเรื่องเพดานค่าเหนื่อย ที่จะต้องกลับมารัดกุมและสมเหตุสมผล ประมาณว่าการต่อสัญญานักเตะหลังจากนี้ หรือซื้อตัวมาและให้ค่าเหนื่อยที่สมเหตุผล และระบายพวก deadwood ที่ค่าเหนื่อยแพงๆ ออกไป แก้จุดนี้ก่อน และโฟกัสให้ฟอร์มทีมกลับมาดีอีกหน่อย แล้วค่อยมาลดในส่วนจุกจิก มันจะลดแรงต่อต้านได้มากกว่าที่ทำอยู่

มันไม่มีใครแฮปปี้หรอกครับที่ทีมโดนตัดนู้นตัดนี่ออกซึ่งบ้างอย่างมันก็ไปคาบเกี่ยวกับวัฒนธรรมสโมสรด้วย
แต่แฟนบอลก็ต้องเข้าใจด้วยว่าทีมอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องร่วมแรงร่วมใจกันให้มันผ่านวิกฤตินี้ไปให้ได้

บางคนอาจจะบอกว่าทำไมไม่เลขายพวกค่าเหนื่อยเยอะๆ คือถ้ามันง่ายแบบเล่นเกมเขาคงทำไปนานแล้ว release ทิ้งไปจบๆ แต่มันทำไม่ได้ไงเลยต้องมาแคะๆตรงนู้นตรงนี้ในสโมสรแทน SJR เขาเอาเงินตัวเองมาลงกับสโมสรต่างกับเกลเซอร์ที่ไม่ได้ลงเงินตัวเองซักเพนนีเดียว เพราะฉะนั้นปล่อยให้แกทำงานไปเถอะผลสุดท้ายมันจะบอกเองมาผิดหรือถูกที่ทำแบบนี้ แทนที่จะมาด่า SJR ไปด่าผู้บริหารชุดก่อนด่าเกลเซอร์นู้นที่ซุกปัญญาจนมันไม่มีที่จะซุกแล้ว

เอาจริงเรื่องบริหาร บ้างอย่างตัดำด้ควรตัด เพราะแมนย๓ไม่ได้เหมือนเดินกี่ปีแล้วที่ห่างหายจากความสำเร็จ UCL ก็ไม่ได้ไป มันไม้ได้เฟืองฟูเหมือนอดีต + กับเศรษฐกิจแยา อันไหนประหยัดได้ก็ประหยัด ส่วนเรื่องของ ทูตสโมสรนี่ผมก็ไม่เห็นด้วยที่จะไปตัดนั่นโน้นนี่ งานฉลองแระจำปีควรจะมี ในเศวนี้ยบ้างอย่างเห็นด้วยบ้างอย่างไม่เห็นด้วย ย้ำว่าทีมเีากินบุญเก่ามานานแล้ว ถ้าไม่รัดกุม อาจจะพังได้