"ผู้จัดการทีมคนนี้ จะไหวเหรอพี่ เซ้นส์ผมมันบอกว่าจะเหมือน... (อดีตผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลคนหนึ่ง)" เพื่อนผมคนหนึ่งบ่นในตอนที่รู้ว่าอาร์เน่อ ชล็อตจะมาคุมทีมลิเวอร์พูล

"เออ พี่สืบประวัติมาแล้ว คนนี้ดีแน่นอน พี่มั่นใจ"

"ไม่รู้สิ ขอให้ผมคิดผิดละกัน"

ในตอนนี้เพื่อนผมคนนั้นมันคงดีใจที่มันคิดไปเอง ส่วนผมก็ยังเก็บความภูมิใจเล็ก ๆ ไว้กับตัว ในฐานะที่เป็นคนหนึ่งที่เชื่อมั่นในชล็อตตั้งแต่วันแรก ท่ามกลางกระแสต่อต้านและความบู้บี้โค้ชเนเธอร์แลนด์

แล้วทำไมผมถึงเชื่อมั่นในโค้ชโนเนมคนนี้ ขอยกความเห็นของแฟนเฟเยนอร์ดผู้ถือตั๋วปีสโมสรมาเรียบเรียงให้อ่านกันครับ
.
ฟาสต์บิ้วด์อัพ

ชล็อตเป็นโค้ชที่ชอบเกมรุก เพรสซิ่งสูง และสร้างเกมจากแนวรับ ผู้เล่นของเขาจะต้องจ่ายบอล "แม่นยำ" โดยเขาให้คุณค่ากับการจ่ายบอลตั้งแต่หน้าปากประตู ซึ่งนักเตะจะผ่านบอลกันเร็วมากเพื่อแกะเพรสซิ่งและคอยมองหาทางจ่ายให้ "ตัวฟรี" ในแดนกลาง

ในตอนพรีซีซั่นและในสนามซ้อม นักเตะลิเวอร์พูลจ่ายบอลกันเร็วกว่าที่เราเห็นในทุกวันนี้ ในสนามจริง พวกเขาลดสปีดลงเพื่อเพิ่มความแน่นอน เพราะฉะนั้นลิเวอร์พูลที่เราเห็นว่าทำผลงานดีในวันนี้ยังไม่ใช่ที่สุด ยังไม่ใช่ชล็อตบอลแบบสมบูรณ์แบบ
.
เลทเกม

ชล็อตชอบใช้แผนเลทเกม แผนของเขาจะรักษาสภาพร่างกายของนักเตะไว้จนช่วง 15 นาทีสุดท้ายจากนั้นจึง "เร่งความเร็วสูงสุด" จนได้ประตูขึ้นนำและจบที่ชัยชนะในตอนท้าย เพราะงั้นนักเตะที่ย้ายมาใหม่มักจะถูกสร้างความฟิตอยู่หลายเดือนกว่าจะได้ลงสนาม (6 เดือนเป็นเรื่องปกติ)
.
กล้าได้กล้าเสีย

บางทีทีมเริ่มต้นเกมได้เป็นไปตามแผน แต่หากระหว่างทางมีบางอย่างที่มันไม่เวิร์ค ชล็อตก็พร้อมที่จะฉีกตำราของเขา และหาทางปรับเปลี่ยนแม้ในช่วงเวลาหยุดเกมเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่าที่จะหาโอกาสคุยกับลูกทีมได้ เพื่อที่จะกลับมาควบคุมเกมให้ได้เร็วที่สุด

เขาเป็นคนหน้านิ่งที่บ้าดีเดือดที่สุดคนหนึ่ง หากทีมยังมีสกอร์ตามหลัง ในช่วง 20 นาทีสุดท้ายชล็อตก็พร้อมที่จะโยนแนวรุกลงไปทั้งหมดเพื่อทวงประตูคืนให้ได้ เขากระหาย "ชัยชนะ" เป็นอย่างมาก
.
ทีมเวิร์คและพลังงานสำคัญที่สุด

ฟุตบอลของชล็อตต้องเล่นรับด้วยกันและรุกด้วยกัน สิ่งที่สำคัญของชล็อตคือสปิริต ความเป็นหนึ่งเดียวกัน และพลังงานเหนือแท็กติก

ชล็อตไม่สนใจว่านักเตะของเขาจะมาจากไหน เยาวชน ยืมตัว อดีตดาวดัง หรือสตาร์ ถ้าคุณทุ่มเทและขายวิญญาณให้ทีม ชล็อตก็พร้อมที่จะสนับสนุน ชล็อตรู้ว่าจะต้องใช้งานนักเตะแต่ละคนแค่ไหน เมื่อไรและยังไง นั่นทำให้นักเตะมีฟอร์มการเล่นที่ขึ้นถึงจุดพีคในเวลาที่อยู่กับชล็อต
.
เข้าอกเข้าใจ

ชล็อตในสมัยเป็นนักเตะไม่ต่างจากเยอร์เก้น คล็อปป์ เป็นนักเตะที่รู้ว่าควรทำและอยากทำอะไรในสนาม แต่ร่างกายไม่ตอบสนอง ชล็อตเคยเป็นกลางรุกที่วิ่งเร็วเป็นเต่า เขาใช้เวลาบนม้านั่งสำรองในการวิเคราะห์เกมและรอคอยวันที่ก้าวขึ้นเป็นโค้ช

ชล็อตเป็นคนบ้าบอล เวลาว่างคือการดูฟุตบอล สมองของเขาเต็มไปด้วยแท็กติก แต่ในขณะเดียวกันก็มีคารมคมคาย ตรงไปตรงมาแต่ไม่ผ่าซาก และเขายังมีความเป็นมนุษย์สูงมาก คือเข้าอกเข้าใจในความยากลำบากของลูกทีม และสามารถพูดคุยเพื่อคลี่คลายปมในใจ

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ชล็อตเป็นโค้ชที่ต่างจากโค้ชชาวฮอลแลนด์คนอื่นคือ Sympathy และ Empathy เขาเข้มงวดในระเบียบวินัย แต่ยืดหยุ่นและรับฟังปัญหาของลูกทีมเสมอ และไม่ค่อยชอบพูดจาหักหาญน้ำใจใคร
.
ความสำเร็จ

เฟเยนอร์ดไม่ได้แชมป์มานานมาก และจบในอันดับที่ 5 ก่อนที่จะได้ชล็อตมาคุมทัพ ไม่มีใครคาดหวังอะไรทั้งนั้น เพราะพวกเขาไม่มีงบเท่าพีเอสวีและอาแจ็กซ์ และไม่มีนักเตะดี ๆ

หลังจบฤดูกาลแรก (2021/22) ชล็อตพาทีมกลับไปจบอันดับ 3 และเข้าชิงคอนเฟอเรนซ์ลีก แพ้โรม่าของโฆเซ่ มูรินโญ่ด้วยรูปเกมที่แฟนบอลยิ่งกว่าพอใจ และนั่นคือครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2015 ที่เฟเยนอร์ดเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ของฟุตบอลยุโรป

แฟนบอลไม่อยากจะเชื่อว่าชล็อตใช้เวลาไม่นานลบล้างฟุตบอลที่แสนจะน่าเบื่อของดิ๊ก แอตโวคาท และเปลี่ยนมันเป็นชล็อตบอล ไฮเพรสซิ่งติ๊ดชึ่งที่แสนจะน่าตื่นเต้น ด้วยงบประมาณจำกัดจำเขี่ย

ซัมเมอร์ 2022/23 ด้วยความเป็นทีมเล็ก ชล็อตจำต้องเสียดาวเด่นหลายคน (เซเนซี่, มาลาเซีย, ซินิสเตอร์ร่า, กุส ทีล, เอาร์สเนส) ก็เลยต้องเสริมผู้เล่นโนเนมเข้ามาเยอะมาก

และในฤดูกาลที่ 2 เฟเยนอร์ดก็สามารถคว้าแชมป์ลีกได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2017 เป็นครั้งที่สองของพวกเขาในศตวรรษที่ 20

ท่ามกลางการขับเคี่ยวแย่งแชมป์กับพีเอสวี และ อาแจ็กซ์ ชล็อตพาทีมขึ้นยึดจ่าฝูงในเกมที่ 14 และไม่ยอมลงจากบังลังก์เลยจนกระทั่งจบฤดูกาลที่ 82 คะแนน มากกว่ารองฯ 7 คะแนน ยิงประตูได้น้อยกว่าคู่แข่ง แต่เสียเพียง 30 ประตู เกือบน้อยที่สุดในลีก

นักเตะโนเนมเหล่านี้ แมตส์ วีฟเฟอร์, อิกอร์ ปัยเซา, ควินเตน ทิมเบอร์, ซานติอาโก ฆิเมเนซ, ดาวิด ฮันจ์โก, เกียร์ทรุยด้า, ควินด์ชี ฮาร์ทมัน, อาร์กุน ค็อกชู กลายเป็นที่ต้องการในยุโรป ด้วยฝีมือของอาร์เน่อ ชล็อต นั่นเอง
.
แพ้ยาก

สถิติความพ่ายแพ้ของชล็อตถือว่าโคตรต่ำ เขาคุมมา 267 เกม และแพ้ไปเพียง 41 เกม (รวมลิเวอร์พูลด้วย) แพ้เพียง 15% เท่านั้นเอง

ที่ลิเวอร์พูล เขาเพิ่งคุมไป 25 เกม ชนะ 21 เสมอ 3 แพ้ 1 Winrate อยู่ที่ 84% ถือว่าโหดมาก ทำให้เชากลายเป็นผู้จัดการทีมพรีเมียร์ลีกคนที่ 4 ที่สามารถพาทีมครองจ่าฝูงในช่วงคริสมาสต์ตั้งแต่ฤดูกาลแรก
.
เกือบคุมไก่

ก่อนที่ท็อตแนมป์จะคว้าน้าอันจ์ ปอสเตโคกลูมาคุมทีม พวกเขาเคยติดต่ออาร์เน่อ ชล็อต แต่ถูกปฏิเสธเนื่องจากเฟเยนอร์ดเพิ่งได้แชมป์ลีก และต้องพาทีมลุย UCL

แต่ช่วงหนึ่งของฤดูกาล 2023/24 หลังจากที่เยอร์เก้น คล็อปป์ประกาศลาออก ลิเวอร์พูลติดต่อไป ชล็อตตกปากรับคำทันที "เวลามาถึงแล้ว"
.
อ้อนเก่ง

อาร์เน่อ ชล็อตปฏิเสธที่จะอาศัยในคฤหาสน์ของสโมสรที่เยอร์เก้น คล็อปป์เคยอยู่ เนื่องจากครอบครัวไม่ได้ย้ายตามมาด้วย

ตอนแรกทุกคนเข้าใจว่า ชล็อตคงไม่ได้กะจะคุมลิเวอร์พูลยาว แต่ล่าสุดเขาเปิดเผยว่า ภรรยาและลูกสาวต้องอยู่ที่เนเธอร์แลนด์ เพราะลูกสาวติดสอบปีสุดท้าย

แต่ถ้าดีที่สุด หวังว่าเขาและครอบครัวก็น่าจะได้อยู่ด้วยกันที่ลิเวอร์พูลนี่แหละ

นี่คือเรื่องราวของอาร์เน่อ ชล็อต ชายผู้ใช้เวลาเพียง 6 เดือนยึดครองหัวใจแฟนบอลเรียบร้อยแล้ว

#JB #ไดอารี่คนบ้าบอล

https://www.facebook.com/share/p/18ZfBeM8ty/

● สัมภาษณ์ดี
● แก้เกมโคตรเก่ง
สุดจัดคับบอส

ตอนประกาศว่าได้อาเน่หลายคนในนี้บ่นว่าจะกลับไปยุคปู่รอยด้วยมั้ง แต่แกพาทีมมาขนาดนี้ได้โคตรสุด

สารภาพเลยผมเป็นคนนึงที่ไม่ค่อยเชื่อมือโค้ชจากลีคฮอลแลนด์เพราะตัวอย่างมันเห็นชัดเจนมากตั้งแต่ P.Bosz F.DeBoer E.TenHag โดยเฉพาะรายหลังผลงานระดับสะเทือนยุโรปในถ้วย UCL แต่สภาพแต่ละคนหลังออกมาคุมลีคใหญ่ของยุโรปกลับเละเทะไม่เป็นท่าเลยต้องยกเครดิตให้ทีมดาต้าเลยที่จั่วได้ A.Slot มา หวังว่าจะสานต่อ JK พาทีมกวาดถ้วยรางวัลได้แบบ B.Paieley ที่มารับมรดกต่อจาก B.Shankly นะ

สารภาพว่าเคยประหม่า ชล็อต และชอบอโมริมมากกว่าา

ตอนแรกผมก็สงสัยแก จนได้ดูเกมพรีซีซั่นนี่แหละ มันแตกต่างจากคลอปป์พอสมควรแต่กลิ่นอายมันยังอยู่

ฉันคงนึง เคย ปรามาส ตาโล้นคนนี้ แถมพี่ยังมั่นใจ ไม่เสริมใครอีก จบทอป 4 ก่อหนุลพ

ผมคนนึงที่ต้องมาขอขมา แต่ไม่ได้ด่านะ แค่ไม่มั่นใจและชอบอโมริมมากกว่า