เผยดื่มกาแฟ-ชา ลดความเสี่ยงเกิดมะเร็งศีรษะ-ลำคอ เทียบกับคนไม่ดื่มเลย



ผลการศึกษาใหม่เผย ดื่มกาแฟ-ชา เพียงดื่มแค่เพียงวันละแก้ว ลดความเสี่ยงเกิดมะเร็งศีรษะ-ลำคอ เมื่อเทียบกับคนไม่ดื่มเลย

เว็บไซต์ต่างประเทศ รายงานว่า ผลการศึกษาใหม่ในอังกฤษเผย ผู้ที่ชอบดื่มกาแฟ และชาเป็นประจำ อาจลดความเสี่ยงในการเกิดโรค โดยเฉพาะมะเร็งศีรษะ-ลำคอลงได้เล็กน้อย เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ดื่มเลย

ตามรายงานของ Cancer Research UK พบว่า มีในสหราชอาณาจักร ผู้ป่วยมะเร็งศีรษะและคอประมาณ 12,800 คนต่อปี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 4,100 ราย แม้ว่าการวิจัยใหม่นี้จะยังไม่สามารถพิสูจน์ผลการป้องกันโดยตรงจากเครื่องดื่มยอดนิยมเหล่านี้ได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ผลการวิจัยนี้ให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับสาขาการศึกษาที่ถกเถียงกันมานานแต่ยังไม่ชัดเจน

นักวิจัยรวบรวมข้อมูลผู้ป่วยมะเร็งศีรษะและลำคอ 9,548 ราย และผู้ป่วยกลุ่มควบคุม 15,783 รายที่ไม่มีมะเร็ง โดยพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น อายุ เพศ จำนวนสูบบุหรี่ต่อวัน การบริโภคผัก-ผลไม้ พบว่า เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ดื่มกาแฟ ผู้ที่ดื่มกาแฟที่มีคาเฟอีนมากกว่า 4 แก้ว มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งศีรษะและลำคอโดยรวมลดลงร้อยละ 17



ในที่นี่รวมถึง การดื่มกาแฟที่ไม่มีคาเฟอีนช่วยลดความเสี่ยงเป็นมะเร็งช่องปากได้ร้อยละ 25 การดื่มชาช่วยลดความเสี่ยงเป็นมะเร็งโพรงคอหอยได้ร้อยละ 29

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักวิจัยพบว่าการดื่มกาแฟที่มีคาเฟอีนมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงเป็นมะเร็งช่องปากและคอหอยส่วนที่อยู่ด้านหลังปากลดลงอีกเช่นกัน

นอกจากนี้ การดื่มชา 1 ถ้วยหรือน้อยกว่านั้นต่อวัน ช่วยลดความเสี่ยงเป็นมะเร็งศีรษะและลำคอโดยรวมได้ร้อยละ 9 และลดความเสี่ยงเป็นมะเร็งโพรงคอหอยได้ร้อยละ 27 อีกด้วย

แต่การดื่มชาเกินวันละ 1 แก้วมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งกล่องเสียงเพิ่มขึ้นร้อยละ 38 โดยทีมวิจัยคาดว่า อาจเป็นเพราะการดื่มชามากไปปนั้นอาจเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคกรดไหลย้อน ซึ่งเชื่อมโยงกับความเสี่ยงเป็นมะเร็งกล่องเสียงที่เพิ่มมากขึ้น



ดร. หยวน-ชิน เอมี ลี จากสถาบันมะเร็งฮันต์สแมนและคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยยูทาห์ ซึ่งเป็นผู้เขียนอาวุโสของการศึกษานี้ เผยว่า การศึกษาใหม่ไม่ได้พิสูจน์ว่าชาและกาแฟสามารถป้องกันโรคมะเร็งได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ผลการค้นพบดังกล่าวช่วยไขความกระจ่างในประเด็นที่มีการถกเถียงกันมากและมีผลลัพธ์ที่ไม่สอดคล้องกัน

แม้ว่าจะมีการวิจัยเกี่ยวกับการบริโภคกาแฟและชา และความเสี่ยงต่อมะเร็งที่ลดลงมาก่อนหน้านี้ แต่การศึกษานี้ได้เน้นย้ำถึงผลกระทบที่แตกต่างกันของกาแฟและชาต่อบริเวณย่อยต่างๆ ของมะเร็งศีรษะและคอ รวมถึงการสังเกตว่าแม้แต่กาแฟที่ไม่มีคาเฟอีนก็ยังมีผลกระทบเชิงบวกในระดับหนึ่ง

ตามที่นักวิจัยได้กล่าวไว้ว่า กาแฟมีสารประกอบมากกว่า 2,000 ชนิด บางชนิดมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ในขณะที่บางชนิดมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และทั้งสองประเภทอาจส่งผลต่อโรคและอายุขัยได้

กาแฟมีคาเฟอีนและกรดคลอโรจีนิกในระดับสูง ซึ่งพบว่าสามารถป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ เบาหวานชนิดที่ 2 และภาวะที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบได้

ที่มา: https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_9565731

เป็นผลสรุปจากงานวิจัยเฉยๆ
ส่วนตัวคิดว่าความน่าเชื่อถือน่าจะต่ำ
โดยเฉพาะงานวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับ risk factor ที่ทำให้เกิด หรือ ป้องกันมะเร็งได้ งานวิจัยประเภทนี้ผมว่า confounding factor มันเยอะและควบคุมไม่ได้

เอาจริงๆคือดีว่าชอบกินชาอยู่แล้ว ส่วนได้ผลหรือไม่ได้ผลไม่เป็นไร

คนอังกฤษนี่ coffee กับ tea ทั้งวัน
ผมไปอยู่กับสามีป้าที่อังกฤษ เจอหน้าทีไรต้องบอกให้ผมชงชาให้ทุกที บางวัน3แก้ว บางวัน4แก้ว
ส่วนกาแฟ Max สุด 3 แก้ว เช้า เที่ยง บ่าย

งานวิจัยผมไม่ค่อยคล้อยตามอะไรมาก พวกนี้จะเน้นกลุ่มทุน การตลาดอยู่เบื้องหลัง อะไรรึเปล่าเราก็ไม่รู้

พวกกลุ่มทุนชอบเอางานวิจัยมาดันผลิตภัณฑ์ตัวเอง บางครั้งเอางานวิจัยมาถล่มผลิตภัณฑ์ฝ่ายตรงข้ามด้วย

แล้วมันก็จะมีงานวิจัยที่ตรงข้ามกัน