คือเรื่องที่เซอร์จิมทำตั้งแต่เข้ามาบริหาร
เรื่องลดขนาดองค์กร ปลดป๊า เอาบัตรฟรีครอบครัวตำนานออก
ทำไมถึงเสียงแตกได้มีทั้งเชียร์ + บ่น
ทั้งๆที่ เซอจิมยังไม่มีผลงานอะไรเลย

ลองเป็น เกลเซอร์+เอ็ด ทำงี้ 99.9เปอร์ ด่าแหลกแน่นอน

คือขอเหตุผลของคนเชียร์เซอจิมหน่อยครับ
เพราะส่วนตัวผมเข้าใจคนด่ามากกว่านะ ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่แกทำเลยซักอย่าง

ปล.อันนี้ไม่แขวะนะอยากได้สาระจริงๆ

ไม่ใช่แฟนผีนะแต่ขอตอบ

น่าจะเพราะเซอร์จิมแกเป็นแฟนพันธ์แท้แมนยูมั๊งครับ

ขี้หมูขี้หมาคงไม่อยากให้ทีมรักล่มจมหรอก

เพราะมองในมุมการบริหารด้วยครับ ไม่ได้มองแค่ในมุมแฟนบอล

การลีนองค์กรเป็นเรื่องปกติที่ทุกองค์กรต้องทำ เราก็ได้เห็นข่าวการเลิกจ้างพนักงานกันมาตลอดระยะเวลา 2-3 ปีหลัง

เซอร์จิมเป็นนักธุรกิจที่แสวงหาผลกำไร ไม่ได้ทำเพื่อเป็นการกุศลหรือให้ได้ใจใคร ตัวแกในมุมแฟนบอลกับผลงานของทีมก็เซ็งพออยู่แล้ว เมื่อมาลงทุนกับทีมแล้วจะปล่อยให้ขาดทุนมันก็ดูไม่ใช่เรื่องที่จะต้องยอมรับได้ สิ่งไหนต้องแก้ไขปรับปรุงก็ควรทำ หากไม่ทำนั่นแหละควรด่ามากกว่า

Glazers มีแผลมายาวนาน

ยาวมาตั้งแต่วันแรก จริงๆ ก่อนเทคฯ ด้วยซ้ำ เกือบ 20 ปี
ตั้งแต่ 2005

ว่าง่ายๆ คือ แฟนๆ เกลียดเกลเซอร์มาตั้งแต่แรกแล้ว
ไม่ได้เพิ่งมาเกลียด หลังตาสว่างยุคโซลชา

เกลเซอร์ คือ คนที่มีแผลเยอะในสายตาแฟนบอล

ส่วน Sir Jim ก็ต้องบอกว่ายังใหม่
แผลยังไม่เยอะ และแฟนๆ ก็เทใจเชียร์เพราะมองว่าเป็นความหวังใหม่
เข้ามาปรับอะไรต่างๆ ถือว่าเยอะ ในเวลาอันสั้น

ฝ่ายไม่ถูกใจก็ เข้าใจได้
แต่ฝ่ายที่เห็นด้วย ก็คงมองเป็นเรื่อง..แนวทางการเปลี่ยนแปลง

ทั้งนี้ ก็ต้องรอดูต่อไปว่า Sir Jim จะนำพาทีมไปถึงจุดไหน
จะสำเร็จอย่างที่ตั้งใจไว้ไหม ยังต้องพิสูจน์กันอีกเยอะ
(จริงๆ ก็เริ่มมีแผลถลอกๆ ตั้งแต่ให้สัญญา EtH ไปแผลนึงแล้ว
แต่ก็ยังมีอีกหลาย stage ให้แสดงผลงานอยู่)

ั้

แฟนผี เค้าไม่เอาเกลเซอร์นานแล้ว แต่มันทำอะไรไม่ได้

เลยอยากได้เจ้าของใหม่ ใครก็ได้ เพราะมันเลือกไม่ได้อยู่แล้ว

เซอร์จิมฯ เข้ามา เหมือนเป็นความคาดหวัง ดีไม่ดี ไม่รู้

แต่จะไปตัดสินเซอร์จิมฯ ตอนนี้เลยไม่ได้หรอก

สโมสรแมนยู มันมีปัญหามานานแล้ว ทั้งด้านตัวเลขบัญชี หนี้สิน ผลงานในสนามอีก ที่หมักหมมไว้

เข้ามาในช่วงที่ทีมตกต่ำสุดๆ ทุกๆด้าน

จะให้ทุ่มเงินปฏิรูปในสนามเลย ล้างทีมเลย ก็ยาก เพราะว่ามันมีกฏการเงินอยู่

เซอร์จิมฯ คือต้องเข้ามาปฏิรูปใหม่หมด

เค้าเพิ่งเข้ามา มันก็ต้องดูกันไป แม้ว่าหลายอย่างจะทำอะไรขัดใจก็ตาม

3-5 ปี ค่อยมาตัดสินอีกทีครับ

ตอนนี้ไม่ได้มีความรู้สึกชอบและไม่ชอบนะ แต่อย่างน้อยก็เห็นการเปลี่ยนแปลงจากยุคเกลเซอร์ที่บ่นกันมานาน

ส่วนการตัดสวัสดิการ ถ้ามองในมุมบริหาร พอเข้าใจได้ เนื่องจากผลงานตกต่ำมานาน
ตอนนี้บัญชีของทีมคงขาดทุนสะสมมานาน ซื้อแพง ขายถูก/ปล่อยฟรี ค่าเหนื่อยก็แพงทั้งนั้น
เบื้องต้นก็ต้องค่าใช้จ่ายที่ผู้บริหารมองว่าไม่จำเป็นออกแหละครับ

ในอนาคตก็คงต้องรอดูต่อไป ถ้าผลงานทีมดีขึ้น สวัสดิการพวกนี้ สามารถเอากลับมาได้ตลอดนะผมว่า

บริษัทขาดทุน 5 ปี ติด เพิ่งเอาพนักงานออก ปรับโครงสร้างองค์กร สภาพทีมบอลก็เหมือนยอดขายบริษัท สภาพก็กากสุดๆ บริษัทไหนอยู่ในสภาพนี้ยังจัดคริสมาสต์ได้ผมยอมใจ

เกลเซอร์บริหารทีมฟุตบอลให้เป็นเชิงพาณิชยการ พนักงานน่าจะเยอะเกินจำเป็น พวกกับเป็นอเมริกันน่าจะซื้อใจพนังงานเยอะด้วยการให้โบนัสและสวัสดิการเยอะ

เซอร์จิมน่าจะมองเห็นตรงนี้ พนักงานเยอะเกินไป โบนัสสวัสดิการต่างๆมากเกินไป

การปรับโครงสร้างบริษัทมันต้องเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น

นักเตะค่าเหนื่อยแพงๆก็โดนแน่นอน ไม่ต้องห่วงเลย เพียงแต่มันทำปุปปับไม่ได้

เหมือนสายการบิน ประกาศขายเครื่องบิน มันไม่ได้มีคนมาซื้อทันที

มุมผมแฟนทีมอื่นนะ ผมว่าจับไม่ถูกจุดอ่ะเอาจริง

** ส่วนตัวผมเลยมองว่าจริงๆแล้ว SJR **

- ต้องปรับโครงสร้างสโมสร อันนี้อ่ะสำคัญ ผมเห็นด้วยเรื่องปลดพนักงานเพื่อปรับปรุงหรือเสริมทีมงาน Support นะ เพราะ นั่นเป็นสิ่งแรกๆที่ FSG ทำเหมือนกัน แต่ Process นี้ ใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าจะลงตัว เท่าที่ทราบคือแมนยูมี Report จาก Scout เยอะมาก แต่ไม่มีคนทำสรุป นั่นบ่งบอกถึงงาน Data ภายในองค์กร ยังไม่มีคนทำหน้าที่ Support สิ่งต่างๆเหล่านี้

- เคลียร์เพดานค่าเหนื่อยนักเตะที่ไม่ตรงกับนโยบายสโมสร ย้ำว่า นโยบายสโมสร ผมยกตัวอย่างสิ่งที่เชลซีทำละกัน พอเค้ากำหนดนโยบายสโมสรแล้วเรื่อง ค่าเหนื่อย อายุ เค้าก็ไม่พังเพดานเลย นั่นคือสิ่งที่ควรทำ Rashford , Mount , Casemiro และ Antony พวกนี้คือมะเร็งในแง่ค่าเหนื่อยนะ บางคนอายุเยอะแล้ว จะปล่อยก็ต้องปล่อย เพราะ ผลงานมันไม่สมเหตุสมผลกับค่าเหนื่อย

- ปรับ Facilities ต่างๆภายในสโมสร สนามแข่ง สนามซ้อม หรือ บริเวรรอบๆต่างๆเอย

ผมเข้าใจว่าบางอย่าง SJR กำลังทำ แน่นอนว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ใช้เวลา 1-2 ปีอ่ะ มันต้องใช้เวลา 3-5 ขึ้นไปนู่นเลยกว่าจะเห็นภาพที่ลงตัว แต่การมาบอกว่า ตัดเงินก้อนเล็กๆออก เพื่อเป็นการปรับดุลอันนี้ผมว่าไม่ใช่ละ สโมสรฟุตบอล ผลงานในสนามเป็นตัวชี้วัด เหล่ากลุ่มนักเตะตีเป็นค่าใช้จ่ายตั้งกี่ % ของรายจ่ายอ่ะ แต่ไปตัดอะไรเล็กๆน้อยๆ ผมว่ามันไม่เมคเซ้น การทำแบบนี้สร้างผลลบต่อองกรค์มากกว่าบวกอีก เพราะ จำนวนเงินนี้มันสามารถปล่อยไปก่อนเพื่อไปดำเนินการสิ่งต่างๆอย่างอื่นได้ ผมไม่ได้ค้านเรื่องไล่คนออกนะ เข้าใจเพราะต้องปรับโครงสร้าง มันต้องลีนคนแล้วรับกลุ่มคนใหม่เพื่อตั้งทีมงาน Support ในด้านต่างๆเพิ่ม แต่ถ้ามาบอกว่าตัดพนักงานออก ตัดค่าใช้จ่ายพวกนี้ออก เพื่อลด Cost ผมว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เกาตรงที่คันซักเท่าไหร่

สุดท้าย อย่างที่ว่าละครับ 3-5 ปีนู่นละค่อยมาดูผลลัพท์ ตัดสินตอนนี้มันไม่ได้หรอก ของงี้มันต้องใช้เวลา

เรื่องลดรายจ่ายองค์กรไปกระทบกับเซอร์อเล็กซ์และทีมงานหลังบ้าน ผมไม่ได้ด่าอะไรเซอร์จิมนะ คิดว่าเป็นเรื่องที่แกน่าจะรู้อยู่แล้วว่าเป็นความเสี่ยง แกประเมินแล้วยังทำ คงจะมีเหตุผลของแกสักอย่าง เพราะถ้าเรามองว่าถ้าเราเป็นเซอร์จิม คงจะอยากซื้อใจบุคลากรต่างๆมากกว่า คงจะมีเหตุผลจำเป็นในมุมมองของแก

อาจจะเป็นไปได้ว่า การจัดการปลีกย่อยหลายๆเรื่อง ถ้าไม่ตึงตั้งแต่ตอนนี้ปล่อยให้หลวมๆต่อไปแล้วจะมาตึงทีหลังมันจะยากแล้ว ขอเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ช่วงเปลี่ยนผ่านตอนนี้เลยดีกว่า

ผมก็ไม่ใช่แฟนผี
แต่เชื่อว่า อิงลิชภักดี
ระดับเซอร์ กับ อเมริกัน
คนอังกฤษจะเลือกใคร

ผมไม่มีความรู้เรื่องการบริหารองค์กรนะ แต่ผมเชื่อว่าความรู้และประสบการณ์ของแกมันช่วยได้ การที่แกตัดสินใจแบบนี้มันผิดหรือถูกผมไม่รู้ แต่มันต้องมีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบแน่นอน ถ้าทำทั้งหมดนี้แล้วบริษัท(สโมสร)ยังเดินต่อได้ คนที่ยังทำงานอยู่ก็น่าจะพอใจไม่ใช่หรอ

เอาจริงๆสโมสรมันเละมานานแล้วและตอนนี้ก็ติดหนี้อยู่เยอะ การที่ต้องปรับอะไรใหม่ๆมันก็เป็นสิ่งที่ควรทำ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ตราบใดที่ตระกูลเกลเซอร์ยังคงเป็นเจ้าของอยู่ ทีมมันก็จะดีขึ้นกว่านี้ไม่ได้มากหรอก ต่อให้เซอร์จิมบริหารทีมด้านฟุตบอลดีก็เถอะ แต่รายได้นั้นแทนที่จะถูกใช้อย่างมีประโยชน์สูงสุดก็ยังถูกดูดออกไปโดยตระกูลเกลเซอร์อยู่ดี

เห็นด้วย อันดับแรกเลย ต้องลดค่าใช้จ่ายงานนอกสนามแล้วไปจ่ายเพิ่มงานในสนาม

ที่มันส่งผลต่อคุณภาพทีมให้ได้

ถ้าฝ่ายสนับสนุนแข็งแกร่ง จะเปลี่ยนโค้ชกี่คนมันก็อยู่บนพื้นฐานที่ดีของสโมสร

ต้องไม่ลืมว่า แมนยูเป็นหนี้อยู่มหาศาล
เพราะเกลเซอร์ไม่เคยเคลียหนี้เงินต้น
ผมว่าสิ่งที่เซอจิมอยากทำอย่างแรกคือ เคลียหนี้ จัดสรรบุคคลากรขององค์กรใหม่ เหลือไว้แต่คนเก่งๆ
อันไหนไม่จำเป็นก็ลีนออก อันไหนจำเป็นก็จ้างเพิ่ม
แล้วยังมีโปรเจคจะใช้เงินสร้างสนามใหม่อีก
หลักๆเป็นเพราะที่ผ่านมาบริหารงานเละเทะเกินไปจากเกลเซอนั่นแหละ ตอนนี้จิมถึงต้องมานั่งรื้อ
เพราะงั้นยังไงก็ต้องให้เวลาเซอร์จิมจัดการไปก่อน แล้วมาดูผลลัพภ์กันอีกทีว่าสิ่งที่แกทำ ดีหรือไม่ดี

บัญชีตัวแดง ลดค่าใช้จ่ายเป็นเรื่องที่ต้องทำอยู่แล้ว เพราะสภาพทีมผลงานแบบนี้จะไปเพิ่มรายได้มาจากตรงไหน ถ้าไม่ทำวันนึงก็พัง เรียกว่าเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง ต้องเจ็บตอนแรกหลังจากนั้นมันจะยั่งยืน ส่วนตัวผมชื่นชมด้วยซ้ำที่กล้าทำ เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์