จากข่าวที่ออกมาเมื่อวาน เรื่องแมนยูยกเลิกจัดงานคริสมาสต์ให้พนักงาน เสียงมันแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง เพื่อนๆอยู่ฝั่งไหนกันฮะเคสนี้

ถ้ามองในแง่ธุรกิจมันปกติมาที่การเปลี่ยนแปลงผู้บริหารจะมีการปรับองค์กร lean ส่วนเกินออก

แต่กับสโมสรฟุตบอลมันเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยคอมมูนิตี้แฟนบอล แล้วพวกพนักงานนี่ส่วนนึงมันก็ทำงานกับสโมสรที่ตัวเองเชียร์ พวกนี้ค่าแรงมันไม่ได้เยอะหรอก ถ้าไปดูโบนัส สวัสดิการที่ตัดออกมันไม่ได้เยอะจริงๆ เอาไปจ่ายค่าแรงแรชฟอร์ดได้กี่สัปดาห์?

พวกที่ทำงานด้วยใจก็ไปตัดงบ พวกที่ทำงานเก่งก็อยู่ไม่ได้ ยิ่งมีข่าวบรูโน่ แฟร์นันเดสจะจ่ายให้ แต่ทีมไม่อนุญาตคือแนวโน้มที่ไม่ดีเลย

ถ้าลดแล้วมันเห็นอะไรเป็นรูปธรรมแฟนบอลคงไม่ด่ากันหรอก แต่นี่ปรับนู่นลดนี่ยังมีหลังคาน้ำรั่วขายขี้หน้าไปทั่วโลก

ถ้ามันทีทุกปีแล้วอยู่ๆไปตัดออกยังไงก็เสียมากกว่าได้ แทนที่จะจัดสเกลเล็กลงหน่อยก็ได้

จริงๆ เรื่องปกติมากเลยนะ

ผมก็เคยเจอ บริษัท อยู่ๆ ยกเลิก

งบเอนเตอร์เทน งบกินเลี้ยง งบเอ้าท์ติ้ง

แต่สิ้นปี งบปรับขึ้นเงินเดือน ไม่ได้ลด อันนี้ผมก็พอใจละ ใครผลงานดีก็ได้ปรับเยอะ ใครผลงานห่วยก็ลด

เห็นแรกๆ ก็บ่นกัน สุดท้ายก็อยู่กันปกติ ของพวกนี้ มันของเสริมอ่ะ ถ้าธุรกิจดี ก็จัด ถ้าธุรกิจแย่ ก็ตัด

พอได้กันจนเคยตัว ก็เลยไม่พอใจ ดูผลงานแมนยูดิ มันเหมาะที่จะฉลองป่ะล่ะ พวกพนักงานอาจจะสนุก แต่ ผู้บริหารเค้าไม่โอเคร กับผลงานไง

พวกนักเตะต่างหากที่สมควรโดนด่า ไม่ใช่ ผู้บริหารเนอะ อันนี้ในมุมผมนะ

ถึงเวลา ใครผลงานดี มีคุณค่ากับสโมสรเดียวก็ได้การตอบแทน ที่สมน้ำสมเนื้อเองแหละ

อย่าลืมว่า สนามเคยน้ำรั่ว จนเป็นข่าวไปทั่วโลก ถ้าเกลเซอร์ มันใจดี แสดงว่า พนักงานมันละเลย ในการตรวจสอบ

ไหนจะเรื่องอุปกรณ์ อะไรต่างๆที่โด้ มันพูดถึง ถ้าทีมงานในแมนยู มันดีจริง มันต้องทำเรื่องปรับปรุงก่อนแล้ว ไม่ใช่ให้นักเตะมาพูด

คือทุกอย่างมันอยู่กับพวกหัวโบราณ พวกคนเก่าแก่ มันกลายเป็น ละเลย ในการปรับปรุงหรือ พัฒนา อ่ะ


ผมมองแบบนี้ คหสต.

ลองไปดูเคสธุรกิจพวกที่ต้องการพลิกฟื้นมากๆ
หรือล้มละลายดูครับ พวกซีอีโอหรือผบห.ที่จ้างมา
ช่วงเวลาแบบนี้เป็นพวก Cost killer ทั้งนั้น
พวกนี้เขาตัดค่าใช้จ่ายยิบย่อยหมด กระทั่งกระดาษที่ใช้ปริ้น
อุปกรณ์สำนักงานเอาหมด ดังนั้นธรรมดามากๆเคสนี้
ที่มันเป็นประเด็นคือฟุตบอลไม่เคยถูกมองเป็น
องค์กรธุรกิจแบบ 100% มันเลยดูเป็นเรื่องใหญ่มาก
เรื่องพวกนี้สุดท้ายไปวัดผลที่จะทำให้พลิกกลับมามีกำไรได้ไหม
แต่ฟุตบอลแฟนบอลดันไม่ได้สนใจกำไรอีก วัดผลกันที่แชมป์
หรือความสำเร็จในแง่ฟุตบอลมากกว่าผลกำไร
จริงๆเคสนี้เป็นตัวอย่างที่ดีว่ามีสโมสรลองเอาวิธีการแบบ
ธุรกิจมาบริหารงานสโมสรฟุตบอลแบย 100% มันจะได้ผล
ดีไหม ถ้าได้ผลดี ต่อไปน่าจะมีแนวโน้มแบบนี้ตามมา

แต่ถ้าแทนตัวเองเป็นพนักงานไม่มีใครชอบหรอก
เราตั้งใจทำงานเต็ม 100 แต่องค์กรตัดสวัสดิการเรายับๆ
เพราะพนักงานคนอื่นทำงานห่วยแตก แล้วองค์กรไม่มีปัญญา
ลงโทษให้ตรงจุด กุลงโทษภาพรวมเลยแล้วกัน
คนที่ตั้งใจทำงานมันเสียใจและเสียกำลังใจอยู่แล้ว
ถ้าค่าใช้จ่ายหลักมาจากนักเตะ 70% แต่ตัดสวัสดิการ
คน 90% ซึ่งไม่กระทบพวกนักเตะด้วยซ้ำแบบนี้ใครจะชอบ

ขึ้นอยู่กับว่ามองจากมุมไหน ถ้ามุมแฟนบอลใช้ใจก็โคตรแย่ ไม่น่าทำแบบนี้เลย

แต่ถ้ามองในมุมของการบริหาร ก็จะเข้าใจว่าทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ มันบ่งบอกให้เห็นถึงสถานภาพทางการเงินของสโมสรเลย

พูดถึงเป็น INEOS เลยละกัน
จากคำแถลงเค้าบอกว่าไม่เกี่ยวกับเงิน แต่เกี่ยวกับการแสดงออกต่อพนักงานที่ถูกยกเลิก เลยมองว่าไม่เหมาะเท่าไหร่ เพราะว่าคริสต์มาสต์สำหรับชาวต่างประเทศมันน่าจะเป็นตัวแทนของความสุขหรืออะไรทำนองนั้น เลยคิดว่าถ้าจะทำให้เข้ากับสถานการณ์ก็อาจจะมีการปรับเปลี่ยนหรือจัดกิจกรรมที่มันเหมาะสมดีกว่า การยกเลิก = ไม่แคร์มากกว่าในเคสนี้ คือทำเพื่อเป็นเยี่ยงหรืออย่างสำหรับฟอร์มอันย่ำแย่ ก้ต้องมาดุผลลัพธ์กันอีกที ส่วนตัวถ้าเกิดตัวเองเป็นแฟนผี ฟอร์มกากขนาดนี้ก็อาจจะเห็นด้วย

แต่ที่ผ่านมาผมไม่เห็นความดีของการบริหารของ INEOS เลย พอมาทำแบบนี้เลยมองว่าโดนด่าก็ไม่แปลก

ผมว่าปกตินะ คือเปลี่ยนทีมผู้บริหารยกชุดอะ
คงวิเคราะห์วางแผนแต่แรกแล้วด้วยว่าจะตัดอะไรออกบ้าง
แมนยูใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายมาหลายปี ผมว่า Reset ตอนนี้ไม่แปลกเลยเพราะรายจ่ายมันไม่สัมพันธ์กับรายได้ หรือถ้าแนวคิดฟุตบอลอาจจะมีความจำเป็นต้องจัดแต่งตัวเลขให้อยู่รอดไปก่อน เพราะข่าวเรื่องการเงินเสี่ยงต่อการถูกปรับเยอะ

ส่วนตัวคิดว่ายกเลิกแค่ปีนี้ ปีหน้าน่าจะกลับมาปกติ

ผมไม่เห็นด้วยนะ แต่ผมเข้าใจสถานการณ์ทีมอย่างเอี้ย ยังจะมีหน้ามาฉลองกันยังงั้นเหรอ ผมว่าบอร์ดน่าจะมีความคิดยังงี้

ไอ้จิ๋มนี่กระจอกนะ ระดับเจ้าของสโมสรกับเงินแค่นี้ เพื่อพนักงานไม่ยอมจัดให้ ทีค่าเหนื่อยพวกนักบอลเล่นอย่างกาก ให้แพงๆได้หลายตัว อีกไม่นานเดี๋ยวก็มีคนลุกขึ้นต่อต้านมัน

ผมเป็นพนักงานก็คงไม่พอใจหรอก ทีมฟุตบอลมันคือบริษัทแต่ผลงานส่วนใหญ่มันมาจากนักฟุตบอล แต่คนซวยดันมาเป็นพนักงานระดับล่าง พวกนักบอลมันคนระดับชั้นฟ้า เงินเดือนมันเท่าไร เดินเล่นในสนามสัปดาห์นึงได้เงินมากกว่า พนักงานระดับล่างธรรมดา แม่บ้าน คนดูแลสนาม ทำงานทั้งปีอีก

เห็นด้วยครับ ทีมผลงานไม่ดี ไม่ฉลองดีแล้ว แต่ควรให้เป็นเงินขวัญถุงสำหรับพนักงานตัวเล็กตัวน้อย

ผมเป็นพนักงานผมยิ้มเลยนะ ไม่ต้องเหนื่อยเพิ่ม ได้ค่าแรงเท่าเดิม นึกภาพคุณเป็นพนักงานสิ แล้วต้องมาจัดงานคริสมาต์ เงินก้อไม่ได้ เหนื่อยฟรีแทนที่จะได้หยุดพักผ่อน มองจากมุมคนนอกมันก้อแย่สิ เพราะคุณไม่ใช่คนจัดงานนิ

แมนยูนะไม่ใช่sme ตลกจัดๆ จะบีบให้ออกมากกว่า

เขาจ้างออแกไนท์รึเปล่า ไม่น่าจัดเองผัดหมี่ซั้วเองละมั้ง ละนี่คริสมาสเทศกาลสำคัญมากนะของฝรั่งเขา