( CFC ) ทีมโตไม่ทันความคาดหวังแฟนบอล
แนวทางของบอร์ดเชลซียุคนี้คือ เน้นเสริมดาวรุ่งทรงดี + ใช้โค้ชรุ่นใหม่ที่ทรงดีและยอมรับแผนการซื้อขายของบอร์ดได้
จากนั้นก็ไปสอนไปพัฒนาอัพเลเวลกันทั้งโค้ชและนักเตะ เพื่อให้ในอนาคตพออัพเลเวลถึงจุดนึงแล้วก็จะกลายเป็นทีมลุ้นแชมป์ไปยาวๆ
ถ้าเป็น FM คือ ฟาร์ม Wonderkid รอค่าพลังอัพ
มันคือโปรเจกต์ระยะยาวมาโดยตลอด จะได้เห็นคำว่า Trust The Process เกลื่อนไปหมดทั้งจากสื่อและจากนักบอลในทีมโพสเอง
แต่ปีนี้ดันฟอร์มดีจนถูกสื่อถีบให้มาเป็นทีมลุ้นแชมป์ ความคาดหวังจากแฟนบอลบางส่วนมันเลยไปไกลเกินกว่าทีมรอโตแล้ว
ถึงปากจะยังพูดถ่อมตัวว่าไม่ลุ้นแชมป์หรอกที่ 4 ก็พอแล้ว แต่เมื่อคืนพอมีโอกาสขึ้นจ่าฝูงชั่วคราวแล้วดันทำไม่ได้ก็หงุดหงิดกันเพียบ
ซึ่งหวังสูงไม่ผิดหรอก แต่ทีมดาวรุ่งแบบนี้ข้อเสียใหญ่ๆเลยคือยืนระยะไม่ได้ ฟอร์มขึ้นอยู่กับโมเมนตั้มยังไงก็ต้องมีช่วงที่สะดุดรัวๆ
ทีนี้ก็ต้องรอดูว่าบอร์ดบริหารเห็นทีมมาได้ขนาดนี้ จะยังยึดแนวทางเดิม Trust The Process มั้ย
ถ้ายึดแนวทางเดิมเดี๋ยวตัวที่เสริมก็คงเกรด โทมัส อเราโฆ่ ,เลียม ดีแล็ป ,แพทริค ดอร์กู แบบนี้ก็ต้องหวังให้มีซักคนเป็นตัวที่ซื้อแล้วเทพเลยเหมือนตอน พาลเมอร์ ถึงจะยกระดับทีมไปเป็นทีมลุ้นแชมป์ได้ในทันที
แต่ถ้าบอร์ดมันมองว่าปีนี้มาดี สมมุติได้ไป UCL การเงินดีขึ้น ปีหน้าอยากยกระดับทีมทันทีเลยไม่รอนักเตะโตแล้วเลยเปลี่ยนแผนจัดตัวเทพพร้อมใช้มาให้อย่างน้อยซัก 2 ตัว กองหน้า กับ เซ็นเตอร์ แบบนี้ปีหน้าก็มีโอกาสบินสูง
ก็ต้องรอลุ้นกันว่าบอร์ดมันจะเลือกทางไหน แต่ส่วนตัวผมคิดว่าบอร์ดมันจะเลือกแบบแรกเหมือนเดิม Trust The Process แวร์วูล์ฟรอวันหอน
ส่วนแฟนบอลก็ต้องบริหารอารมณ์กันไป ถ้าทีมยึดแนวทางเดิมก็มีโอกาสเจอแบบนัดเมื่อคืนอีกเยอะ
เอาง่ายๆเลยคุณต้องรอจน โคลวิล ,แจ๊คสัน ,กุสโต้ และคนอื่นๆในทีมรวมถึงตัว มาเรสก้า เองด้วย อัพเลเวลไปจนใกล้เคียงกับพวก พาลเมอร์ ,ไคเซโด้ ,คูคูเรย่า ให้ได้อะ ทีมถึงจะอยู่ในระดับที่พร้อมชนะได้ทุกทีม
ซึ่งจะต้องใช้เวลานานแค่ไหนแต่ละคนถึงจะพัฒนาไปได้ขนาดนั้นนี่ก็เดาไม่ถูกเหมือนกัน