[RE: คนไทยเกินครึ่งเหนื่อยกับเศรษฐกิจ รองลงมาเรื่องคอลเซ็นเตอร์และการเมือง]
moschino พิมพ์ว่า:
bennikun พิมพ์ว่า:
ผมว่าจริงนะ ยุคนี้หากินเหนื่อยกว่ารุ่นพ่อแม่เราพอสมควรเลย ทั้งความกดดันจากความคาดหวังที่สูงขึ้น และดูเผินๆ เหมือนโอกาสจะเยอะนะ แต่ทำได้แป๊ปๆก็เจอคู่แข่ง ไม่ก็กระแสเปลี่ยน ก็ต้องไปหาโอกาสใหม่ๆอยู่เรื่อยๆ
ขนาดพนักงานบริษัทยังต้องพัฒนา skill set อยู่ตลอดไม่งั้นเงินเดือนไม่ขึ้นหรืออาจตกงาน
รุ่นพ่อรุ่นแม่เราโอกาสอาจไม่มากเท่า แต่พอทำได้แล้วมันทำได้ยาวๆไม่ต้องเปลี่ยนถี่อย่างสมัยนี้
ทุกคนมันขายของได้ทำตามๆกัน ค้าขายแบบเก่าเจออนไล ผู้ผลิตมา
หมดยุค
ดูเหมือนว่าก็เป็นเหมือนกันทั้งโลกที่คน gen y gen z บ่นว่าใช้ชีวิตเหนื่อย(รวมๆหลายเรื่อง) ทั้งๆที่จริงๆคนรุ่นก่อนใช้แรงงานเยอะกว่ามาก(เหนื่อยกาย) แต่กลับมีความกดดันน้อยกว่า คือดูชิลกว่า แต่ก็แลกมากับการที่พวกเค้าปรับตัวไม่เก่ง คือถ้าเอาคน baby boomer มาทำงานยุคนี้ผมว่าเรียกว่าทำอะไรได้น้อยมาก
ผมคิดว่าอาจมาจากที่มนุษย์มันเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างเชื่อง ลึกๆจึงไม่ชอบอะไรที่ไม่แน่นอน การที่มันมีการเปลี่ยนแปลงถี่เกินไป(ซึ่งเราทำอะไรไม่ได้ ต้องยอมรับ) มันอาจทำให้เราเหนื่อยขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น เพราะความรู้ที่สะสมมามันทุนจมต่อยอดไม่ได้
ถ้าเราจะหลุดออกจากวงจรนี้ผมว่า อย่าไปทำตามกระแสหรืออะไรที่มันมีคนทำจนทั่วไปแล้ว เช่น อาจไปมองเรื่องสิ่งแวดล้อม(ธุรกิจ)ที่มันยังมีช่องให้ทุนความรู้ที่สะสมมาของเราไม่จม คือต่อยอดแล้วคนยังต้องการเรายังสำคัญ