ปัญหาคือลงโทษแล้วได้อะไร ผู้บริหารได้อะไรจากการลงโทษ > ได้ลูกน้องที่ไม่พอใจ, สธ ได้อะไรจากลงโทษ > ได้บุคคลากรที่ไม่พอใจ > สุดท้ายลาออกไปอยู่เอกชน

ทำไมเอกชนทำได้ > เงินล้วนๆครับ ใครบริการไม่ดีก็เชิญออก คนใหม่รอต่อคิวเพียบ

ถ้าอยากให้บริการดีก็ต้องจูงใจด้วย positive reinforcement เช่น ถ้าได้คำชมเยอะ จะได้ขึ้นเงินเดือน หรืออะไรก็ว่าไป ซึ่งถามว่า สธ จะทำไหม ก็ไม่เพราะไม่มีเงินมาจ่ายแล้ว

ถ้าคนปกติผมว่าก็พูดธรรมดานะ ส่วนนึงที่เคยเห็นคือ

1. คนมีอายุ หลายๆคนหูตึง พูดเบาๆไม่ได้ยิน เวลาจะบอกให้ไปตามขั้นตอนเลยต้องกระชับ และเสียงดัง ทวนหลายๆรอบเพื่อให้มั่นใจว่าเข้าใจจริง

2. ประเทศเรา คนมีอายุจำนวนมาก เป็นมนุษย์ลุง มนุษย์ป้า เยอะมากๆ ( พ่อผมยังเป็น ) ทำมึนๆแซงคิว ใจร้อนรอคิวไม่ได้ คิดว่าตัวเองสำคัญสุดต้องได้รับการรักษาทันที พวกนี้พูดดีๆยิ่งมึนใส่

3. คนมีอายุหลายๆคน งงจัดๆ พูดไม่รู้เรื่อง ข้อมูลตัวเองก็งงๆ กลับคำอธิบายอาการไปๆมาๆ


อย่างถ้าเป็นคนปกติไปทำตามขั้นตอนที่ รพ วางไว้ ผมเห็นพูดจาปกติทุกคนอะ มันไม่มีใครอยากตะเบ็งเสียงทั้งวันตลอดเวลาหรอก

เท่าที่เจอคือคนไข้นี่ละครับหล่อหลอมเขามา.

เมื่อก่อนอยู่กับ รพ.อยู่ 12 ปี พยาบาลที่รู้จักแรกๆก็พูดเพราะ อ่อนน้อมอยู่หรอก แต่ก็มีปัญหาจะออกเพราะคนไข้ด่า.
ตอนหลังหัวหน้าพยาบาลสอนอย่าทำตัวหัวอ่อน เพราะคนไข้กับญาติจะหาเรื่อง ซึ่งโคตะระจริงครับ.

ตอนหลังเลยเสียงดังออกแนวดุไปเลย...

คนไข้และญาติๆต่างจังหวัดนี่ไม่ธรรมดาครับ.
หมอบอกอย่ากินเหล้า มันบอกรักษาไปตามหน้าที่เถอะอย่าไปยุ่งกับมันเด๋ยวตบปากฉีก...นี่ผมเล่าแบบสุภาพแล่วน้อ.

บริบาลกับบริการครับ

รพ. รัฐ คงมองว่ามีหน้าที่บริบาลคนไข้ บริการเป็นเรื่องรอง

รพ. เอกชน มองว่านอกจากบริบาลแล้ว ก็บังคับเสริมบริการเข้าไปด้วย แล้วเก็บเงินจากคนไข้เพิ่ม

ส่วนเรื่องลงโทษเป็นไปได้ แต่ไม่น่าจะได้ผล เพราะลำพังภาระงานก็เยอะมากแล้ว ถ้าต้องมานั่งบริการอีกแต่เงินเท่าเดิม คงได้แห่ลาออกไปอยู่เอกชนไม่ก็เปิดคลินิกเอง สุดท้ายผลเสียก็ไปตกอยู่ที่คนไข้อยู่ดี

รพ.รัฐผมคงโชคดีไม่เจอ

แต่เจอปีนี้เนี่ยละ
รพ.เอกชนที่ไปใช้สิทธิ์ประกันสังคม
รอนานผมเข้าใจคนไข้เยอะ
แต่หมอแม่มพูดเร็วชห.
อารมณ์รีบให้มันจบ
เพื่อจะรับคนต่อไป

พูดเร็วยิ่งกว่างานจับมือ BNK
เจอสามคนเร็วสามคน
ขอถามเกี่ยวกับอาการมีไม่พอใจอีก

ดูบริบทก่อนมั้ยครับ
ว่าใครผิดใครถูก เป็นเรื่องๆเป็นคนๆไป เรื่องจากฝั่งรพ.ก็เยอะ แต่เรื่องจากฝั่งคนไข้ เยอะกว่าเยอะๆๆๆๆ

แค่กรูไม่ว่างมาโพสให้เป็นข่าว

เคยเจอด่า เลยสวนไปว่าอยากโดนปืนตบเหรอ แม่งหน้าเจื่อนเลยว่ะ

ทุกสาขาอาชีพ เจอได้หมดครับ ไปกินข้าว มี service charge ยังปากไม่ดีใส่ลูกค้าเลย
แต่ก็เข้าใจได้ ยิ่งเป็น รพ.รัฐ เป็นข้าราชการ บริการไม่ถูกใจก็บ่นกันละ หลายคนที่นี่ยังตั้งแง่เลย นี่ยังดี ไม่เจอ คห บอกว่า เปลืองเงินภาษี

คนข้างนอก หรือคนป่วยเค้าไม่ได้อยากมา รพ หรอก มาเจออะไรไม่ถูกใจ ก็ย่อมไม่พอใจครับ แต่ก็อยากให้ใจเย็น ๆ นึกถึงตัวเองเวลาขายของก็ได้ แล้วเจอลูกค้าจุกจิก คุมจะคุมไม่ให้ปรี๊ดได้ยังไง
กลับกัน จนท ถึงจะงานโหลด แต่ก็ควรคุมสติ ไม่ควรไปทำไรไม่โอเคกับผู้มารับบริการครับ เค้ามาขอความข่วยเหลือนะ
แต่ละฝั่ง ถ้าเกิดเหตุแล้วนิ่งสักนิด การปะทะไรจะไม่ค่อยเกิดครับ

ถ้ามารับบริการ แล้วเจออะไรที่ไม่ดีจาก จนท ก็ complain ครับ เดี๋ยวนี้เค้าทำช่องทางไว้เยอะแยะครับ
ไม่ใช่แจ้งแล้วไม่มีผลนะครับ มีทั้งโดนเตือน ตัดแต้ม แป้กเงินเดือนครับ

Workload มันไม่ใช่งานบริการครับ จะให้บริการดีพูดเพราะขนาดนั้นคงไม่ไหว

แต่พวกด่าคนไข้ ปากเสียอะอันนั้นควรปรับปรุง

เคยเจอโรงบาลระดับอำเภอในต่างจังหวัด คนไข้ก็มึนจริง คุยไม่ค่อยรู้เรื่อง แถมดื้ออีก มันก็น่าโดนด่าจริงนะ

ไอ้คนไข้แบบนี้ก็เยอะ้อาเรื่องด้วยนะ ฉันรู้ ไม่ต้องสอน เอายามา


ว่าแต่พี่จะมาหาหมอทำไม

จากคนที่ต้องพาพ่อกับแม่ไปโรงพยาบาลรัฐที่มีคนมามากที่สุด เดือนล่ะ 3-4 วัน ทุกเดือน แรกๆที่ไปก็คิดแหละทำไมเจ้าหน้าที่ต้องเหวี่ยงต้องวีนขนาดนี้ พอไปบ่อยๆ อยู่นานๆ มาคิดอีกทีถ้าเราอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ เจอคนไข้ เจอญาติ ที่ไม่โอเค ซ้ำๆวันล่ะ 100 คน ทุกวันๆเราจะอดทนเป็นคนที่ nice อยู่ได้หรือเปล่า เคยเจอพยาบาลป้าคนนึงแบบดุชิบหาย แต่สุดท้ายเค้าก็ช่วยเหลือคนไข้อย่างดีนะ บางทีมันอาจจะโดนสะสมมาเรื่อยๆ จนบางที่จิตใจมาไม่ไหวแล้ว เข้าใจแหละเป็นงานบริการ แต่ชาว ss เจออะไรนิดหน่อยในที่ทำงานยังมีหงุดหงิดมาบ่นกันเลย เอาเป็นว่าเคสนี้เข้าใจทั้งฝั่งคนไข้กับฝั่งคนให้บริการ

ผมว่าน่าจะเครียจจริง คนเยอะ มากคนก็มากเรื่อง. บางคนพูดไม่รู้เรื่องอีก

ไหนจะอดหลับอดนอนจากเจ้าเวรอีก. ไป รพเป้าหมาย แค่ให้เขารักษาให้แค่นั้น ไม่ได้ต้องการคำพูดหวานๆ

ถ้าผม เจอ คนประสาทแดก เมาๆ บ่อยๆ ผมก็หลุด เหมือนกัน

เจ้าหน้าที่น้อย(ไม่เพียงพอ) บ้างเจอคนไข้หลายแบบๆ บางที่ฟังแล้วไม่เข้าใจก็เลยหงุดหงิด เสียเวลานานก็จะรำคาญ เลยติดเป็นนิสัย เพราะคนไข้ก็ไม่กล้ามีปากมีเสียงด้วย

เดี๋ยวนี้เวลาพ่อแม่ไปหาหมอก็ต้องไปช่วยดูแลค่อยฟังช่วยอธิบายให้เข้าใจ เพราะถ้าให้พ่อแม่ฟังจากพยาบาลเองบางทีก็ดูงงๆเหมือนกัน