ดีเอสไอสั่งฟ้อง 18 บอส ‘ดิไอคอน’ หลักฐานชัด หาสมาชิกมากกว่าขายของ
DSI สั่งฟ้อง 18 บอส ‘ดิไอคอน’ หลังพยานหลักฐาน คำแก้ข้อกล่าวหาล้วนรับฟังไม่ขึ้น แผนธุรกิจเน้นหาสมาชิกมากกว่าขายสินค้า รายได้ส่วนใหญ่มาจากการขายสินค้าให้ในหมู่สมาชิกกันเอง
พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 119/2567 กรณี การดำเนินคดีอาญากับบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก หรือแชร์ลูกโซ่ดิไอคอนฯ ว่า วันนี้คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีการประชุมร่วมกับคณะที่ปรึกษา
ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษได้แต่งตั้ง ทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายการสอบสวน ด้านเทคโนโลยี ด้านบัญชีการเงินและงบดุล และยังมีคณะพนักงานสอบสวนที่นายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งให้เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานของรัฐอื่นมาร่วมสอบสวนด้วย อาทิ เจ้าหน้าที่ ปปง. เจ้าหน้าที่กรมสรรพากร เจ้าหน้าที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง มาร่วมพิจารณาพยานหลักฐานในคดีนี้
ที่ประชุมได้มีความเห็นว่าการสอบสวนในคดีนี้ ได้รวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิดเสร็จสิ้น ข้อเท็จจริงฟังเป็นที่ยุติแล้ว มีการปรับข้อเท็จจริงเข้ากับข้อกฎหมาย มีการชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานของทุกฝ่าย และการแก้ข้อกล่าวหา ทำให้ที่ประชุมมีมติสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 18 ราย และอีก 1 นิติบุคคล (บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด โดยนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล) ในความผิดฐาน ฉ้อโกงประชาชน, พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ, พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 และ พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ.2545
พ.ต.ต.ยุทธนา เปิดเผยอีกว่า ทั้ง 18 ผู้ต้องหาได้มีการส่งหนังสือชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาครบทุกราย ส่วนรายละเอียดคำให้การ ตนไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนข้อเน้นย้ำที่ทำให้คณะพนักงานสอบสวนมีมติสั่งฟ้องนั้น คือ มีลักษณะพฤติการณ์แผนธุรกิจเน้นหาสมาชิกมากกว่าการเน้นขายผลิตภัณฑ์สินค้า
เนื่องจากเราได้มีการตรวจดูเรื่องรายได้ส่วนใหญ่มาจากการที่ขายสินค้าให้กับหมู่สมาชิกด้วยกัน ซึ่งจำนวนสินค้าที่ไปยังผู้บริโภคนั้นมีจำนวนน้อย แต่แท้จริงแล้วยังมีอีกหลายประเด็นเพียงแค่ไม่ต้องการที่จะเปิดเผยรายละเอียดภายในสำนวน ส่วนกรณีที่มีการกล่าวอ้างถึงการเก็บสินค้าในสต๊อกโกดังมีจำนวนจริงเท่ากับจำนวนลูกค้าหรือไม่นั้น ในส่วนนี้ได้มีการสอบสวนเข้ามาในสำนวนเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จำนวนเอกสารหลักฐานที่คณะพนักงานสอบสวนได้มีการประชุมหารือพิจารณาก่อนมีมติเอกฉันท์สั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 18 ราย ปรากฏจำนวนเอกสารมากกว่า 300,000 แผ่น ความเสียหายทะลุ 1,644 ล้านบาทเศษ และจำนวนผู้เสียหายทั้งหมด 7,875 ราย
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ :
https://www.prachachat.net/general/news-1720546
ก็อย่างที่เค้าบอกไว้ว่าจะสรุปสำนวนและฟ้องได้ก่อนปีใหม่ก็ทันอยู่นะครับ รอดูต่อไปว่าจะเป็นยังไง